ผู้จัดการรายวัน - สสว. เผยดัชนี TSSI SMEs ประจำเดือนพฤษภาคม ทั้งปัจจุบันและคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ลดลงเป็น 40.0 และ 41.8 โดยมีสถานีบริการน้ำมัน บริการการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เป็นกลุ่มที่ค่าดัชนีลดลงในระดับสูง โดยปัจจัยสำคัญอยู่ที่ยอดจำหน่ายและกำไร ขณะที่ผู้ประกอบการยังคงกังวลทั้งในเรื่องต้นทุนสินค้า อำนาจซื้อของประชาชน ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และราคาน้ำมัน
รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index : TSSI) ประจำเดือนพฤษภาคม 2551 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน ที่ผ่านมา พบว่า ดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็น 40.0 จากระดับ 41.2 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเกือบทุกประเภทกิจการ โดย ภาคการค้าปลีก และภาคบริการ ลดลงมาอยู่ที่ 39.7 และ 40.1 จากระดับ 40.1 และ 43.1 ตามลำดับ ขณะที่ภาคการค้าส่งเป็นกลุ่มเดียวที่มีค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 40.3 จากระดับ 39.2 ส่วนความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจประเทศและธุรกิจตนเอง ก็มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็น 28.1 และ 36.2 จากระดับ 33.9 และ 38.3 ตามลำดับ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs โดยรวม ประจำเดือนพฤษภาคม ที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะบริการการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการปรับตัวลดลงในระดับสูง มีผลมาจากการปรับตัวลดลงของยอดจำหน่ายและกำไร เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเริ่มผ่านพ้นฤดูการท่องเที่ยวทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับระดับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแยกเป็นประเภทกิจการ พบว่า ในส่วนของภาคการค้าปลีก ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 37.5 จากระดับ 43.0 (ลดลง 5.5) ส่วนภาคบริการ ธุรกิจบริการการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เป็นกลุ่มที่มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุด โดยบริการการท่องเที่ยว ค่าดัชนีอยู่ที่ 38.5 จากระดับ 47.0 (ลดลง 8.5) ร้านอาหารและภัตตาคาร ค่าดัชนีอยู่ที่ 34.1 จากระดับ 40.2 (ลดลง 6.0) และบริการโรงแรม เกสต์เฮาส์ และบังกะโล ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 40.9 จากระดับ 46.2 (ลดลง 5.3)
อย่างไรก็ตามดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า รวมภาคการค้าและบริการ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลง อยู่ที่ 41.8 จากระดับ 42.8 (ลดลง 1.0) ซึ่งปรับตัวลดลงทุกประเภทกิจการ โดยภาคการค้าส่ง ภาคการค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีปรับตัวลดลงอยู่ที่ 41.1 41.5 และ 42.4 จากระดับ 43.2 41.9 และ 43.6 (ลดลง 2.1 0.4 และ 1.1 ตามลำดับ)
รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index : TSSI) ประจำเดือนพฤษภาคม 2551 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน ที่ผ่านมา พบว่า ดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็น 40.0 จากระดับ 41.2 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเกือบทุกประเภทกิจการ โดย ภาคการค้าปลีก และภาคบริการ ลดลงมาอยู่ที่ 39.7 และ 40.1 จากระดับ 40.1 และ 43.1 ตามลำดับ ขณะที่ภาคการค้าส่งเป็นกลุ่มเดียวที่มีค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 40.3 จากระดับ 39.2 ส่วนความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจประเทศและธุรกิจตนเอง ก็มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็น 28.1 และ 36.2 จากระดับ 33.9 และ 38.3 ตามลำดับ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SMEs โดยรวม ประจำเดือนพฤษภาคม ที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะบริการการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการปรับตัวลดลงในระดับสูง มีผลมาจากการปรับตัวลดลงของยอดจำหน่ายและกำไร เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเริ่มผ่านพ้นฤดูการท่องเที่ยวทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับระดับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแยกเป็นประเภทกิจการ พบว่า ในส่วนของภาคการค้าปลีก ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 37.5 จากระดับ 43.0 (ลดลง 5.5) ส่วนภาคบริการ ธุรกิจบริการการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เป็นกลุ่มที่มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุด โดยบริการการท่องเที่ยว ค่าดัชนีอยู่ที่ 38.5 จากระดับ 47.0 (ลดลง 8.5) ร้านอาหารและภัตตาคาร ค่าดัชนีอยู่ที่ 34.1 จากระดับ 40.2 (ลดลง 6.0) และบริการโรงแรม เกสต์เฮาส์ และบังกะโล ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 40.9 จากระดับ 46.2 (ลดลง 5.3)
อย่างไรก็ตามดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า รวมภาคการค้าและบริการ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลง อยู่ที่ 41.8 จากระดับ 42.8 (ลดลง 1.0) ซึ่งปรับตัวลดลงทุกประเภทกิจการ โดยภาคการค้าส่ง ภาคการค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีปรับตัวลดลงอยู่ที่ 41.1 41.5 และ 42.4 จากระดับ 43.2 41.9 และ 43.6 (ลดลง 2.1 0.4 และ 1.1 ตามลำดับ)
