ผู้จัดการรายวัน – การก้าวขึ้นเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งของเมืองกาญจน์นั้น คงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ลูกค้ายอมรับในฝีมือ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการร้านอาหารมายาวนาน ซึ่งร้าน “บ้านลุ่มเดหลี” ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่พยามยามนำความชำนาญในการบริหารร้านอาหารมานานเกือบ 10 ปี มาพลิกบทบาทใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งร้านอาหารประจำ จ.กาญจนบุรี
นายคธาวุธ ศิวิไล เจ้าของร้านอาหารบ้านลุ่มเดหลี ซึ่งถือว่าเป็นร้านน้องใหม่ที่คนท้องถิ่นไม่ค่อยคุ้นเคย แต่หากเอ่ยถึงร้าน “ครัวเสียงไผ่” คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเปิดกิจการมานานถึง 9 ปี โดยเป็นการซื้อธุรกิจร้านอาหารมาจากเจ้าของเดิม ที่เปิดมากว่า 20 ปี ทำให้เข้าใจพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนเมืองกาญจน์เป็นอย่างดี ที่ชื่นชอบความเป็นกันเองของเจ้าของร้านที่มีต่อลูกค้า
แต่เมื่อพื้นที่ตั้งของร้านครัวเสียงไผ่เป็นที่ราชพัสดุ ทำให้ถูกเวนคืน จึงต้องมองหาทำเลใหม่ สุดท้ายจึงมาลงตัวที่บริเวณหมู่บ้านลุ่มดงกระเบา หรือบ้านลุ่มเดหลี ที่แปลว่า กวักมงคล ซึ่งถือเป็นชื่อที่ดีมีความหมายเป็นมงคล จึงได้ตั้งชื่อร้าน ตามแหล่งที่ตั้งคือ “บ้านลุ่มเดหลี” บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ ติดริมแม่น้ำแม่กลอง สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 120 ที่นั่ง ซึ่งทำเลดังกล่าว ถือว่าได้เปรียบในเรื่องของบรรยากาศ และพื้นที่กว้างสามารถจัดเลี้ยงได้ รวมถึงการออกแบบร้านจะใช้ปูนเปลือยให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ทำให้ยามค่ำคืนมีบรรยากาศร้านที่อาหารกึ่งผับแทรกเข้าไปด้วย โดยเป็นการกู้เงินจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อมาลงทุนในการซื้อที่ดิน และปลูกสร้างจำนวน 8 ล้านบาท ซึ่งก็ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างคล่องตัว
“เมื่อเราคิดเปิดร้านบ้านลุ่มเดหลี จึงตั้งใจสร้างความแตกต่างทั้งการออกแบบร้าน และทำเล ที่มีบรรยากาศเป็นกันเอง เหมาะกับการมารับประทานอาหารเพื่อการพักผ่อน กับอาหารรสจัดจ้านแบบไทยๆ พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งลูกค้าเดิมที่ติดใจรสชาติอาหารจากร้านครัวเสียงไผ่ และกลุ่มข้าราชการ ทหาร ตำรวจ รวมถึงลูกค้ากลุ่มครอบครัว ก็นิยมมารับประทานที่ร้านเรา โดยเมนูจานเด็ด ของทางร้าน คือ เป็ดสาดเกลือ (เป็ดบ้านย่าง) หมี่กรอบรสกลมกล่อม หมูผัดกะปิ และน้ำพริกกะปิคั่ว เป็นต้น”
สำหรับในช่วงที่ลูกค้าค่อนข้างแน่นร้าน คือ ในช่วงตั้งแต่เวลา 16.00-17.00 น. เนื่องจากลูกค้านิยมมาชื่นชมบรรยากาศยามเย็น และเพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งในช่วงเย็นพระอาทิตย์จะตกตรงเหลี่ยมเขาฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหารพอดี ส่งผลให้การรับประทานอาหารในมื้อนั้น นอกจากจะได้อิ่มหนำสำราญกับรสชาติอาหารแล้ว ยังได้อิ่มเอมกับบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกดินได้อีกด้วย
ร้านบ้านลุ่มเดหลีในช่วงแม้จะเปิดให้บริการมาได้เพียง 8 เดือน เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นของธุรกิจ แต่ก็ลูกค้ารู้จักมากพอสมควร ประกอบกับในช่วงเปิดร้าน ถือเป็นไฮ ซีซั่น ส่งผลให้ยอดขายสูง แต่ในขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้ลูกค้าลดน้อยลงบ้าง ยอดขายลดลง แต่ทางนายคธาวุธ ก็ไม่ย่อท้อ เร่งทำการประชาสัมพันธ์ ทั้งจากสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อวิทยุท้องถิ่น รวมถึงการเพิ่มจำนวนป้ายบอกเส้นทางมายังร้าน ซึ่งงบประชาสัมพันธ์ดังกล่าวอยู่ที่หลักแสนบาท
“ผมคิดว่าในยุคที่เศรษฐกิจขาดความคล่องตัวเช่นนี้ ธุรกิจร้านอาหารมียอดลูกค้าเข้ามารับประทานที่ลดน้อยลงทุกร้าน ดังนั้นการรุกแผนประชาสัมพันธ์ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจในการเลือกร้านอาหารที่รับประทานได้ง่ายขึ้น และคุ้นเคย จากสื่อที่เผยแพร่ออกไป”
อย่างไรก็ตามเมื่อพื้นที่และทำเลที่ตั้งติดแม่น้ำขนาดใหญ่ และภูเขา ทำให้นายคธาวุธ คิดนำกิจกรรมทางน้ำ มาเป็นอีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากการมานั่งรับประทานเพียงอย่างเดียว เช่น กีฬาทางน้ำ กระชังเลี้ยงปลา และแพที่พักริมน้ำ เป็นต้น หวังให้ร้านบ้านลุ่มเดหลี เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างครบวงจร
สนใจติดต่อ บ้านลุ่มเดหลี 91/2 ม.2 บ้านลุ่มดงกระเบา ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โทร 08-9411-6278
นายคธาวุธ ศิวิไล เจ้าของร้านอาหารบ้านลุ่มเดหลี ซึ่งถือว่าเป็นร้านน้องใหม่ที่คนท้องถิ่นไม่ค่อยคุ้นเคย แต่หากเอ่ยถึงร้าน “ครัวเสียงไผ่” คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเปิดกิจการมานานถึง 9 ปี โดยเป็นการซื้อธุรกิจร้านอาหารมาจากเจ้าของเดิม ที่เปิดมากว่า 20 ปี ทำให้เข้าใจพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนเมืองกาญจน์เป็นอย่างดี ที่ชื่นชอบความเป็นกันเองของเจ้าของร้านที่มีต่อลูกค้า
แต่เมื่อพื้นที่ตั้งของร้านครัวเสียงไผ่เป็นที่ราชพัสดุ ทำให้ถูกเวนคืน จึงต้องมองหาทำเลใหม่ สุดท้ายจึงมาลงตัวที่บริเวณหมู่บ้านลุ่มดงกระเบา หรือบ้านลุ่มเดหลี ที่แปลว่า กวักมงคล ซึ่งถือเป็นชื่อที่ดีมีความหมายเป็นมงคล จึงได้ตั้งชื่อร้าน ตามแหล่งที่ตั้งคือ “บ้านลุ่มเดหลี” บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ ติดริมแม่น้ำแม่กลอง สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 120 ที่นั่ง ซึ่งทำเลดังกล่าว ถือว่าได้เปรียบในเรื่องของบรรยากาศ และพื้นที่กว้างสามารถจัดเลี้ยงได้ รวมถึงการออกแบบร้านจะใช้ปูนเปลือยให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ทำให้ยามค่ำคืนมีบรรยากาศร้านที่อาหารกึ่งผับแทรกเข้าไปด้วย โดยเป็นการกู้เงินจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อมาลงทุนในการซื้อที่ดิน และปลูกสร้างจำนวน 8 ล้านบาท ซึ่งก็ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างคล่องตัว
“เมื่อเราคิดเปิดร้านบ้านลุ่มเดหลี จึงตั้งใจสร้างความแตกต่างทั้งการออกแบบร้าน และทำเล ที่มีบรรยากาศเป็นกันเอง เหมาะกับการมารับประทานอาหารเพื่อการพักผ่อน กับอาหารรสจัดจ้านแบบไทยๆ พร้อมการบริการที่เป็นกันเอง โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งลูกค้าเดิมที่ติดใจรสชาติอาหารจากร้านครัวเสียงไผ่ และกลุ่มข้าราชการ ทหาร ตำรวจ รวมถึงลูกค้ากลุ่มครอบครัว ก็นิยมมารับประทานที่ร้านเรา โดยเมนูจานเด็ด ของทางร้าน คือ เป็ดสาดเกลือ (เป็ดบ้านย่าง) หมี่กรอบรสกลมกล่อม หมูผัดกะปิ และน้ำพริกกะปิคั่ว เป็นต้น”
สำหรับในช่วงที่ลูกค้าค่อนข้างแน่นร้าน คือ ในช่วงตั้งแต่เวลา 16.00-17.00 น. เนื่องจากลูกค้านิยมมาชื่นชมบรรยากาศยามเย็น และเพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งในช่วงเย็นพระอาทิตย์จะตกตรงเหลี่ยมเขาฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหารพอดี ส่งผลให้การรับประทานอาหารในมื้อนั้น นอกจากจะได้อิ่มหนำสำราญกับรสชาติอาหารแล้ว ยังได้อิ่มเอมกับบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกดินได้อีกด้วย
ร้านบ้านลุ่มเดหลีในช่วงแม้จะเปิดให้บริการมาได้เพียง 8 เดือน เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นของธุรกิจ แต่ก็ลูกค้ารู้จักมากพอสมควร ประกอบกับในช่วงเปิดร้าน ถือเป็นไฮ ซีซั่น ส่งผลให้ยอดขายสูง แต่ในขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้ลูกค้าลดน้อยลงบ้าง ยอดขายลดลง แต่ทางนายคธาวุธ ก็ไม่ย่อท้อ เร่งทำการประชาสัมพันธ์ ทั้งจากสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อวิทยุท้องถิ่น รวมถึงการเพิ่มจำนวนป้ายบอกเส้นทางมายังร้าน ซึ่งงบประชาสัมพันธ์ดังกล่าวอยู่ที่หลักแสนบาท
“ผมคิดว่าในยุคที่เศรษฐกิจขาดความคล่องตัวเช่นนี้ ธุรกิจร้านอาหารมียอดลูกค้าเข้ามารับประทานที่ลดน้อยลงทุกร้าน ดังนั้นการรุกแผนประชาสัมพันธ์ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจในการเลือกร้านอาหารที่รับประทานได้ง่ายขึ้น และคุ้นเคย จากสื่อที่เผยแพร่ออกไป”
อย่างไรก็ตามเมื่อพื้นที่และทำเลที่ตั้งติดแม่น้ำขนาดใหญ่ และภูเขา ทำให้นายคธาวุธ คิดนำกิจกรรมทางน้ำ มาเป็นอีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากการมานั่งรับประทานเพียงอย่างเดียว เช่น กีฬาทางน้ำ กระชังเลี้ยงปลา และแพที่พักริมน้ำ เป็นต้น หวังให้ร้านบ้านลุ่มเดหลี เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างครบวงจร
สนใจติดต่อ บ้านลุ่มเดหลี 91/2 ม.2 บ้านลุ่มดงกระเบา ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โทร 08-9411-6278
