รอยเตอร์/เอเอฟพี - ผลสำรวจความคิดเห็นสองสำนักระบุ ชาวมาเลยเซียส่วนใหญ่เชื่อว่าอันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ได้ประพฤติผิดทางเพศตามข้อกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ช่วยชายของเขา จนต้องขอลี้ภัยอยู่ในสถานทูตตุรกีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวอันวาร์เองประกาศเดินหน้าสู้ต่อ และจะลดราคาน้ำมันทันทีหากชิงอำนาจรัฐบาลได้สำเร็จ
บริษัทวิจัยอิสระ เมอร์เดกา เซ็นเตอร์ ทำการสำรวจความคิดเห็นโดยใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก คือ ชาวมาเลย์อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 225 คน พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เชื่อว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นจริง ส่วนอีกราว 60 เปอร์เซ็นต์เห็นว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวมีเรื่องการเมืองอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนั้น ยังมีผลสำรวจของ "มาเลเซียกินี" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวอิสระ ระบุว่า 94.4 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนสมรู้ร่วมคิดทางการเมืองเพื่อต่อต้านอันวาร์
ความผันผวนทางการเมืองในมาเลเซียในครั้งนี้ยังส่งผลต่อตลาดหลักทรัพย์โดยทำให้ดัชนีหุ้นกัวลาลัมเปอร์หรือเคแอลเอสอีร่วงลง 1.7 เปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งวันแรกของการซื้อขายวานนี้ (2) และดัชนียังลดลงถึงราว 3 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่เปิดตลาดในรอบสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ "ฟิตช์" ก็บอกว่ากำลังจับตาดูว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะมีผลกระทบต่อนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม ในคืนวันอังคาร(1)มีชาวมาเลเซียหมื่นกว่าคนออกไปชุมนุมสนับสนุนอันวาร์ที่สนามกีฬาชาห์ อะลาม ซึ่งอยู่นอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ พร้อมกับร้องตะโกนว่า "Reformasi" ซึ่งหมายถึงการปฏิรูปตามแนวทางที่อันวาร์เสนอ ขณะที่อันวาร์ก็กล่าวปราศรัยว่าจะไม่ยอมนิ่งเฉยให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแบบเมื่อ 10 ปีก่อนอีก อีกทั้งยังประกาศจะชิงอำนาจจากรัฐบาล ที่ปกครองมาเลเซียมาเป็นเวลาครึ่งศตวรรษนับแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ
"เราจะสู้ และเมื่อเราได้อำนาจปกครองประเทศแล้ว สิ่งแรกที่เราจะทำก็คือลดราคาน้ำมันลง" อันวาร์ประกาศ ซึ่งเป็นการโจมตีการที่รัฐบาลขึ้นราคาน้ำมันถึง 41 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนที่แล้ว และยังชักชวนผู้ชุมนุมให้ร่วมกันประท้วงต่อต้านปัญหาเงินเฟ้อในวันที่ 6 กรกฎาคม โดยคาดว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมถึงหนึ่งล้านคน
"เราไม่สามารถไว้ใจให้รัฐบาลบริหารเศรษฐกิจของประเทศได้อีกต่อไปแล้ว เพราะว่าตอนนี้มีแต่ปัญหาคอร์รัปชั่น" อันวาร์ย้ำ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นบอกว่าจะต้องสอบสวนคดีนี้ต่อไป แม้อันวาร์จะโต้ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการสมรู้ร่วมคิดกันทางการเมืองเพื่อกีดกันเขาไม่ให้เข้าสู่รัฐสภาและสกัดไม่ให้เขาสามารถชักชวนสมาชิกรัฐสภาที่คิดแยกตัวออกจากรัฐบาลผสมมาเป็นพวก นอกจากนั้นอันวาร์ยังบอกว่าเขามีหลักฐานว่า ไซฟุล บูคอรี ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาเขานั้นมีความใกล้ชิดกับนาจิบ ราซัค รองนายกรัฐมนตรี และทีมงานของราซัคด้วย
ข้อกล่าวหาว่าประพฤติผิดทางเพศ ซึ่งเคยทำให้อันวาร์ต้องติดคุกนานถึง 6 ปี ก่อนที่ศาลจะพลิกคำพิพากษาว่าไม่มีความผิดเมื่อปี 2004 ได้บังเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในตอนนี้ อันเป็นช่วงเวลาที่พรรคอัมโนกำลังแตกแยกกันเองภายในอย่างรุนแรง โดยอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรี ถูกแรงกดดันให้ลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรคได้ที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้นมาก จนขาดอีกราว 30 ที่นั่งก็จะสามารถคุมเสียงข้างมากในสภาซึ่งมีที่นั่งรวม 222 ที่นั่งได้ นอกจากนั้นยังกวาดชัยชนะการปกครองท้องถิ่นได้ถึง 5 รัฐจาก 13 รัฐ
ส่วนอันวาร์นั้นหากได้รับสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งคืนและได้ที่นั่งในรัฐสภา ก็อาจจะเป็นก้าวแรกที่ปูทางให้เขานำพรรคร่วมฝ่ายค้านขึ้นสู่อำนาจได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย
บริษัทวิจัยอิสระ เมอร์เดกา เซ็นเตอร์ ทำการสำรวจความคิดเห็นโดยใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก คือ ชาวมาเลย์อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 225 คน พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เชื่อว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นจริง ส่วนอีกราว 60 เปอร์เซ็นต์เห็นว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวมีเรื่องการเมืองอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนั้น ยังมีผลสำรวจของ "มาเลเซียกินี" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวอิสระ ระบุว่า 94.4 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนสมรู้ร่วมคิดทางการเมืองเพื่อต่อต้านอันวาร์
ความผันผวนทางการเมืองในมาเลเซียในครั้งนี้ยังส่งผลต่อตลาดหลักทรัพย์โดยทำให้ดัชนีหุ้นกัวลาลัมเปอร์หรือเคแอลเอสอีร่วงลง 1.7 เปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งวันแรกของการซื้อขายวานนี้ (2) และดัชนียังลดลงถึงราว 3 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่เปิดตลาดในรอบสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ "ฟิตช์" ก็บอกว่ากำลังจับตาดูว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะมีผลกระทบต่อนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม ในคืนวันอังคาร(1)มีชาวมาเลเซียหมื่นกว่าคนออกไปชุมนุมสนับสนุนอันวาร์ที่สนามกีฬาชาห์ อะลาม ซึ่งอยู่นอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ พร้อมกับร้องตะโกนว่า "Reformasi" ซึ่งหมายถึงการปฏิรูปตามแนวทางที่อันวาร์เสนอ ขณะที่อันวาร์ก็กล่าวปราศรัยว่าจะไม่ยอมนิ่งเฉยให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแบบเมื่อ 10 ปีก่อนอีก อีกทั้งยังประกาศจะชิงอำนาจจากรัฐบาล ที่ปกครองมาเลเซียมาเป็นเวลาครึ่งศตวรรษนับแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ
"เราจะสู้ และเมื่อเราได้อำนาจปกครองประเทศแล้ว สิ่งแรกที่เราจะทำก็คือลดราคาน้ำมันลง" อันวาร์ประกาศ ซึ่งเป็นการโจมตีการที่รัฐบาลขึ้นราคาน้ำมันถึง 41 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนที่แล้ว และยังชักชวนผู้ชุมนุมให้ร่วมกันประท้วงต่อต้านปัญหาเงินเฟ้อในวันที่ 6 กรกฎาคม โดยคาดว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมถึงหนึ่งล้านคน
"เราไม่สามารถไว้ใจให้รัฐบาลบริหารเศรษฐกิจของประเทศได้อีกต่อไปแล้ว เพราะว่าตอนนี้มีแต่ปัญหาคอร์รัปชั่น" อันวาร์ย้ำ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นบอกว่าจะต้องสอบสวนคดีนี้ต่อไป แม้อันวาร์จะโต้ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการสมรู้ร่วมคิดกันทางการเมืองเพื่อกีดกันเขาไม่ให้เข้าสู่รัฐสภาและสกัดไม่ให้เขาสามารถชักชวนสมาชิกรัฐสภาที่คิดแยกตัวออกจากรัฐบาลผสมมาเป็นพวก นอกจากนั้นอันวาร์ยังบอกว่าเขามีหลักฐานว่า ไซฟุล บูคอรี ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาเขานั้นมีความใกล้ชิดกับนาจิบ ราซัค รองนายกรัฐมนตรี และทีมงานของราซัคด้วย
ข้อกล่าวหาว่าประพฤติผิดทางเพศ ซึ่งเคยทำให้อันวาร์ต้องติดคุกนานถึง 6 ปี ก่อนที่ศาลจะพลิกคำพิพากษาว่าไม่มีความผิดเมื่อปี 2004 ได้บังเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในตอนนี้ อันเป็นช่วงเวลาที่พรรคอัมโนกำลังแตกแยกกันเองภายในอย่างรุนแรง โดยอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรี ถูกแรงกดดันให้ลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรคได้ที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้นมาก จนขาดอีกราว 30 ที่นั่งก็จะสามารถคุมเสียงข้างมากในสภาซึ่งมีที่นั่งรวม 222 ที่นั่งได้ นอกจากนั้นยังกวาดชัยชนะการปกครองท้องถิ่นได้ถึง 5 รัฐจาก 13 รัฐ
ส่วนอันวาร์นั้นหากได้รับสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งคืนและได้ที่นั่งในรัฐสภา ก็อาจจะเป็นก้าวแรกที่ปูทางให้เขานำพรรคร่วมฝ่ายค้านขึ้นสู่อำนาจได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย