xs
xsm
sm
md
lg

ขนม 2 ล้านจ่อเรียก“แม้ว”สอบ เตือนทนายอย่าเป็นทาสเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจโวคดีเงินขนม 2 ล้าน สอบไม่ยาก ยึดคำพิพากษาศาลเป็นแนวทาง ตรวจเส้นทางเงินมีที่มาอย่างไร ชี้พบหลักฐานโยง “ทักษิณ” ต้องเรียกมาสอบ“พิชิฏ”อ้างเหตุร้องไห้เพราะตื้นตัน ไม่ใช่ต๊อแต๊ หมดอนาคต ตำรวจคุมเข้ม"ธนา" ยันแพทย์อนุญาต จับส่งศาลขังคุกทันที ด้านสภาทนาย เตือนทนายทั่วประเทศ ยกเป็นอุทาหรณ์ อย่าตกเป็นทาสเงิน

วานนี้ (27 มิ.ย.)พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 เปิดเผยถึงกรณีศาลฎีกา แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพิ่มเติมข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 144 แก่ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 1-2 คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี ญาติคุณหญิงพจมาน ที่ร่วมกันนำถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาทไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกา ซึ่งเป็นความผิดฐานละเมิด และศาลจำคุกคนละ 6 เดือนว่า การให้เงินดังกล่าวเป็นเพียงการให้เจ้าหน้าที่ธุรการอาจจะเพื่อความสะดวกในการทำคดี ไม่ถึงกับเป็นการจ้างล้มคดี จึงแจ้งความตามมาตรา 144 คือ ผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาล เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า สำหรับหลักฐานเงินสด เจ้าหน้าที่ศาลได้คืนไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่ทราบว่ามีการบันทึกเป็นภาพถ่ายไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินจำนวนดังกล่าวว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร โดยส่วนหนึ่งจะดำเนินการสอบสวนจากผู้ต้องหาเอง และอีกส่วนจะดำเนินการตรวจสอบจากหมายเลขธนบัตรที่เจ้าหน้าที่ศาลมีการบันทึกไว้

พาดพิง"แม้ว"ต้องเชิญสอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของคดีนี้นั้นต้องเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาสอบปากคำหรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ในส่วนนี้คงต้องดำเนินการสอบสวนนายธนา ก่อนเนื่องจากเป็นกุญแจสำคัญ และต้องดำเนินการตรวจสอบในประเด็นการสอบสวนก่อนว่า หลักฐานสามารถเชื่อมโยงได้หรือไม่ ซึ่งหากสามารถเชื่อมโยงไปได้ ก็จำเป็นที่จะต้องเรียกมาสอบปากคำด้วย แต่หากไม่ถึงคงไม่จำเป็นที่จะเชิญตัวมาสอบสวน ซึ่งทั้งหมดคาดว่าไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 30 วัน

"คดีนี้เป็นคดีที่ง่ายมาก เนื่องจากศาลได้วางแนวทางไว้ให้ทั้งหมดแล้ว และไม่น่าจะมีประเด็นที่จะแตกอะไรไปมาก เพราะเจ้าหน้าที่คงยืนตามคำพิพากษาศาลเป็นแนวทาง อีกทั้งผู้ต้องหาก็ปรากฏชัดในคำพิพากษา พนักงานสอบสวนก็สอบสวนตามที่เบิกความไว้กับศาล และจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา โดยให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย"

"สมพงษ์"ปัดช่วยทนายแม้ว

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า กระทรวงยุติธรรมเลือกปฏิบัติ ปกป้องทีมทนายของ พ..ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก โดยยืนยันว่าจะไม่ปกป้อง และไม่ยุ่งกับกระบวนการยุติธรรมที่กำลังดำเนินการอยู่ และจะเคารพกระบวนการของศาล

“พิชิฏ”ร้องไห้เพราะตื้นตันใจ

ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ช่วงเช้าวานนี้ ได้มีญาติ พี่น้อง และเพื่อนทนายของนายพิชิฏ ชื่นบาน เดินทางเข้าเยี่ยมนายพิชิฏ อย่างไม่ขาดสาย โดยมีเวลาเยี่ยมและพูดคุยกันประมาณ 15 นาที ซึ่งเพื่อนทนายของนายพิชิฏได้พูดคุยกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ในเชิงขอร้องไม่ให้สื่อนำเสนอเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับตัวนายพิชิฏไปในทางคลาดเคลื่อน เพราะจะทำให้กระทบต่อจิตใจของญาติ พี่น้อง และตัวนายพิชิฏเอง ซึ่งเพื่อนทนายความคนดังกล่าวยังได้บอกอีกว่า ตนเองได้พูดคุยกับนายพิชิฏ ซึ่งนายพิชิฏก็ได้ฝากขอบคุณบรรดาสื่อมวลชนที่คอยติดตามเสนอข่าว และขอบคุณทุกคนที่มีความเป็นห่วง และขอร้องให้ทุกคนสบายใจได้ ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วเพราะสภาพร่างกายจิตใจดีขึ้น และเริ่มปรับตัวกับสภาพความเป็นอยู่ได้มากแล้ว และที่ร้องไห้เพราะตื้นตันใจ ไม่ใช่ท้อแท้ หรือเครียด

น้องสาวอยากติดคุกแทน

นางจิติมา ฟักสะอาด เจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นน้องสาวนายพิชิฏ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่พี่ชายต้องติดคุกโดยไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ และไม่มีโอกาสได้โต้แย้งใดๆ ส่วนตัวถ้าเป็นไปได้อยากเข้าไปอยู่ในคุกแทนพี่ชาย

อย่างไรก็ตาม อยากขอร้องสื่อไม่ควรมาเยี่ยมนายพิชิฏจำนวนมาก และอยากขอร้องให้เสนอข่าวเป็นไปในทางที่เป็นกลาง ดั่งเช่นสาเหตุที่นายพิชิฏร้องไห้ เป็นเพราะตื้นตันใจ ที่มีญาติพี่น้อง และเพื่อนทนายมาเยี่ยมกันจำนวนมาก แต่ไม่ใช่เพราะกดดันอะไร

ตำรวจคุมเข้ม"ธนา"หวั่นหนี

สำหรับ นายธนา ตันศิริ ซึ่งนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สวส.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า นายธนา ให้การว่าจะต้องรักษาตัวให้ครบ 7 วัน ตามใบแพทย์ โดยจะออกจากโรงพยาบาลในวันอังคารที่ 2 ก.ค.นี้ ซึ่งหลังจากนั้น ตำรวจจะคุมตัวนายธนา เพื่อส่งศาลฎีกาดำเนินการออกหมายขังตามคำพิพากษาต่อไป

พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราช ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกตร.กล่าวถึงการส่งตัวนายธนา ให้ศาลดำเนินการว่า เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับความเห็นของแพทย์ว่าอาการปลอดภัยหรือยัง พร้อมที่จะเข้าสู่การดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะในส่วนนี้อยู่ในความรับผิดชอบของแพทย์

ส่วนการดำเนินคดีทนายทั้ง 3 คน ในข้อหาติดสินบนที่ศาลได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ชนะสงคราม นั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 กล่าวว่า นายธนา พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จริง โดยมีอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน เสียการทรงตัว คาดว่าภายใน 2-3 วันจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ซึ่งเมื่อออกจากโรงพยาบาลจะนำตัวส่งศาลฎีกาในทันที ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

สภาทนายความเตือนอย่าเป็นทาสเงิน

นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความขอเตือนทนายทั่วประเทศให้ระมัดระวังในการวางตนเป็นทนายความให้กับจำเลย เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นที่เกิดกับนายพิชิฏ น.ส.ศุภศรี และนายธนา ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 6 เดือน เพราะการเป็นทนายความที่ดีนั้น ต้องไม่รับใช้ หรือเป็นทาสเงิน ทนายความไม่ใช่พ่อค้าที่จะหาประโยชน์ทุกอย่างใส่ตัว ทนายความที่ดี ต้องนำความจริงมาใช้ในศาลอย่างสุจริต ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาประโยชน์ลูกความอย่างเดียว แต่จะต้องรักษาความยุติธรรมตามกฎหมายบ้านเมืองด้วย

"กรณีนายพิชิฏ นำความเสื่อมเสียมาให้วงการทนายความ นึกไม่ถึงว่าจะมีทนายความกล้าทำแบบนี้ และจะเป็นคดีตัวอย่างที่ผมจะต้องนำไปใช้ในการอบรมมรรยาททนายความ และหามาตรการป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ผมอยากให้ทนายความทั่วประเทศดูเป็นอุทาหรณ์ในตอนเลือกรับว่าความคดีให้ใคร เพราะจริงอยู่ว่า ไม่ว่าจำเลยมีเงินมีอิทธิพล หรือเป็นอาชญากรมาจากไหน ทนายความย่อมต้องช่วยว่าความให้ แต่ต้องทำด้วยความสุจริต"

นายสิทธิโชค กล่าวว่า ขณะนี้ศาลฎีกาส่งคำพิพากษาคดีนายพิชิฏ มาให้แล้วคณะกรรมการฯ ก็จะพิจารณาโทษตามข้อบังคับมรรยาททนายความนั้นเมื่อเป็นทนายความละเมิดอำนาจศาล และให้สินบนเจ้าพนักงาน ถือว่าเป็นการกระทำผิดร้ายแรง มีโทษลบชื่อออกจากการบัญชีทนายความ 5 ปี ผลก็คือ นายพิชิฏไม่อาจเป็นทนายได้ 5 ปี และพ้น 5 ปี แม้มีสิทธิมายื่นขอออกตั๋วทนายความใหม่ แต่ที่ผ่านมากรณีถูกลบชื่อเพราะติดสินบนศาลสภาทนายความมักจะไม่จดทะเบียนออกตั๋วทนายให้ใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น