“สิทธิโชค” เตือนทนายทั่วประเทศให้ระวังการวางตัวทำคดีให้จำเลย เน้นต้องไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “พิชิฏ-ศุภศรี-ธนา” ที่สร้างความเสื่อมเสียแก่วงการทนายความ ย้ำทนายที่ดีต้องไม่รับใช้ หรือเป็นทาสเงิน ต้องนำความจริงมาใช้ในศาลอย่างสุจริต และไม่ใช่พ่อค้าหาประโยชน์ใส่ตัว และให้ตระหนักกรณีสินบน 2 ล้านนำมาเป็นอุทาหรณ์ต้องจดจำ พร้อมเตรียมลบชื่อ 3 ทนายแม้วออกจากบัญชี
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความขอเตือนทนายทั่วประเทศให้ระมัดระวังในการวางตนเป็นทนายความให้กับจำเลยเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นที่เกิดกับนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ทนายความผู้ประสานคดี ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 6 เดือน เพราะละเมิดอำนาจศาลจากการนำถุงขนมสอดไส้เงินสด 2 ล้านบาท ติดสินบนเจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกา เพราะการเป็นทนายความที่ดีนั้นต้องไม่รับใช้ หรือเป็นทาสเงิน ทนายความไม่ใช่พ่อค้าที่จะหาประโยชน์ทุกอย่างใส่ตัว ทนายความที่ดีต้องนำความจริงมาใช้ในศาลอย่างสุจริต ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาประโยชน์ลูกความอย่างเดียว แต่จะต้องรักษาความยุติธรรมตามกฎหมายบ้านเมืองด้วย
“กรณีนายพิชิฏสร้างความสะเทือนและนำความเสื่อมเสียมาให้วงการทนายความ นึกไม่ถึงว่าจะมีทนายความกล้าทำแบบนี้ และจะเป็นคดีตัวอย่างที่ผมจะต้องนำไปใช้ในการอบรมมรรยาททนายความและหามาตรการป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ผมอยากให้ทนายความทั่วประเทศดูเป็นอุทาหรณ์ในตอนเลือกรับว่าความคดีให้ใคร เพราะจริงอยู่ว่าไม่ว่าจำเลยมีเงินมีอิทธิพลหรือเป็นอาชญากรมาจากไหน ทนายความย่อมต้องช่วยว่าความให้ แต่ต้องทำด้วยความสุจริต” ประธานคณะกรรมการมรรยาทฯ กล่าว
นายสิทธิโชค กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ศาลฎีกาส่งคำพิพากษาคดีนายพิชิฏมาให้แล้วคณะกรรมการฯ ก็จะพิจารณาโทษตามข้อบังคับมรรยาททนายความนั้นเมื่อเป็นทนายความละเมิดอำนาจศาล และให้สินบนเจ้าพนักงาน ถือว่าเป็นการกระทำร้ายแรงมีโทษลบชื่อออกจากการบัญชีทนายความ 5 ปี ผลก็คือ นายพิชิฏไม่อาจเป็นทนายได้ 5 ปี และพ้น 5 ปี แม้มีสิทธิมายื่นขอออกตั๋วทนายความใหม่ แต่ที่ผ่านมากรณีถูกลบชื่อเพราะติดสินบนศาลสภาทนายความมักจะไม่จดทะเบียนออกตั๋วทนายให้ใหม่