xs
xsm
sm
md
lg

ทีพีซีพร้อมลุยเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีพีซีเดินหน้าลุยโครงการขยายพีวีซีในเวียดนามตามแผน แม้เจอปัญหาเศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัวจากเงินเฟ้อและขาดดุลการค้าหนัก ส่งผลให้ยอดใช้พีวีซีหดลงก็ตาม แต่เลื่อนโครงการผลิตวัตถุดิบ"อีดีซี-วีซีเอ็ม"ออกไป 1ปี โดยให้โครงการใหม่เสร็จใกล้เคียงโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ของเครือปูนใหญ่ ยืนยันไม่ล้มโครงการแน่ แต่ขอศึกษาให้รอบคอบก่อน พร้อมจับตาเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง หวั่นยอดใช้พีวีซีหด

นายคเณศ ขาวจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (ทีพีซี) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังเดินหน้าโครงการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีในเวียดนามตามแผนงานที่ตั้งไว้เดิม โดยจะเริ่มย้ายเครื่องจักรในโรงงานที่จังหวัดสมุทรปราการไปติดตั้งที่โรงงานเวียดนามในปลายปีนี้ ทำให้มีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีเพิ่มขึ้นจาก 1 แสนตัน/ปี เป็น 1.9 แสนตัน/ปีในต้นปี 2552 แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของเวียดนามในช่วงนี้ประสบปัญหาการขาดดุลการค้าและเงินเฟ้อสูงมาก ทำให้ยอดการใช้เม็ดพลาสติกพีวีซีในเวียดนามหดตัวลง 10-15% จากเมื่อต้นปี 2551 ขยายตัวสูง คาดว่าปีนี้ตลาดพีวีซีในเวียดนามจะติดลบ 5-8%
เพื่อป้องกันความเสี่ยงบริษัทฯได้มีการลดปริมาณการขายพีวีซีให้กับลูกค้าเวียดนามลง แล้วหันไปส่งออกแทน ซึ่งปัจจุบันโรงงานผลิตพีวีซีที่เวียดนามได้ทำตลาดส่งออกไปยังตุรกี และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง คาดว่าจะส่งออกคิดประมาณ 30%ของกำลังการผลิต 1แสนตัน/ปี
"เรายังวางแผนการลงทุนในปีนี้เหมือนเดิม ใช้เงินลงทุน 1.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนขยายกำลังการผลิตพีวีซีเพิ่มอีก 9 หมื่นตันเป็น 1.9 แสนตันในเวียดนาม วงเงิน 1.3 พันล้านบาท และการขยายกำลังการผลิตแบบคอขวดสำหรับผลิตพีวีซีและวีซีเอ็มในไทย วงเงิน 400-500 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2552 "
ส่วนโครงการผลิตพีวีซีแบบครบวงจรที่เวียดนาม นายคเณศ กล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของเวียดนามในช่วงนี้ โดยจะเลื่อนโครงการผลิตวีซีเอ็ม และอีดีซี ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซีออกไป 1 ปี จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2554 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จใกล้เคียงโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ของเครือซิเมนต์ไทย ที่ได้ประกาศลงทุนในเวียดนามคิดเป็นมูลค่า 3,500-4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
" ยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในเวียดนามนี้ย่อมมีผลกระทบต่อโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ของเครือซิเมนต์ไทย แต่ยืนยันว่าจะไม่ล้มโครงการแน่นอน เพียงแต่ทบทวน และไม่รีบเร่งดำเนินการ โดยปีนี้จะแค่ทำการปรับพื้นที่ และเริ่มก่อสร้างอย่างเร็วในปลายปี 2552 ขณะที่โครงการผลิตวัตถุดิบพีวีซีที่เวียดนาม เดิมจะผลิตเชิงพาณิชย์ก่อน แต่ขณะนี้ได้ตัดสินใจใหม่ให้ทำไปพร้อมกับโครงการโอเลฟินส์แห่งใหม่เครือซิเมนต์ไทย เพื่อป้องกันความเสี่ยง"
โครงการพีวีซีครบวงจรนี้ จะตั้งโรงงานผลิตวีซีเอ็ม กำลังการผลิต 4 แสนตัน/ปี และโรงงานอีดีซี 3.2 แสนตัน/ปี จะใช้เงินลงทุนรวม 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยวีซีเอ็มและอีดีซีจะใช้ป้อนในโรงงานผลิตพีวีซีในเวียดนาม และอีดีซีที่เหลือบางส่วนจะส่งออกไปป้อนโรงงานผลิตพีวีซีเรซินในเครือฯที่อินโดนีเซียและไทยด้วย ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯในไทยยังต้องนำเข้าอีดีซีอยู่ 2 แสนตัน/ปี
**** หวั่นยอดใช้พีวีซีไทยครึ่งปีหลังหด
สำหรับความต้องการใช้เม็ดพลาสติกพีวีซีในไทย พบว่าช่วงต้นปี 2551 มีการขยายตัวดี คาดว่าปีนี้โต 5% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่ความต้องการใช้พีวีซีในประเทศหดตัวลง 4% ขณะที่ราคาพีวีซีก็ปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันอยู่ที่ตันละ 1,200 เหรียญสหรัฐ ทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์พีวีซีกับวัตถุดิบ(วีซีเอ็ม)อยู่ที่ 200 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าปีที่แล้วที่มีส่วนต่างเฉลี่ย 180 เหรียญสหรัฐ/ตัน
หากเศรษฐกิจไทยชะลอตัวในครึ่งปีหลัง เนื่องจากปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้พีวีซีลดลง แต่คงไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้วางแผนการส่งออกพีวีซีไปต่างประเทศแทน โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายการส่งออกพีวีซีประมาณ 40%ของกำลังการผลิต
กำลังโหลดความคิดเห็น