นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่าหลังจากที่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องกรณีประธานวุฒิสภา ขอให้วินิจฉัยการขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข และนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมว.พาณิชย์ ไว้พิจารณาแล้ว ทาง กกต.ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทั้ง 3 กรณี ให้เร่งดำเนินการโดยเฉพาะเรื่องของนายไชยา ที่กกต.มีมติไปแล้ว 4 ต่อ 1 ให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และขณะนี้นายอิสระ หลิมศิริวงษ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวน กำลังดูแลในเรื่องการยกร่างคำร้องส่งศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว เพื่อที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะได้บรรจุเรื่องดังกล่าวรวมเป็นเรื่องเดียวกันกับทางประธานวุฒิสภาส่งไป
ส่วนกรณีของนายวิรุฬนั้น กกต.ยังไม่ได้มีมติว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะอยู่ในขั้นตอนคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน ที่มีนายสุวิทย์ ชูตระกูล เป็นประธานสอบอยู่ โดยได้ทำหนังสือขอให้ กกต.ขยายเวลาในการสืบสวนสอบสวนจากวันที่ 22 มิ.ย. ขยายไปถึงวันที่ 6 ก.ค.นี้ เช่นเดียวกับกรณีของ นายสมัคร ที่พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ ประธานอนุกรรมการสอบสวนฯ ได้มีหนังสือแจ้งต่อ กกต.เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ขอขยายเวลาสอบสวนออกไปถึงวันที่ 6 ก.ค. เนื่องจากต้องการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพราะคณะอนุฯได้ทำหนังสือเชิญเจ้าของบริษัทเฟซ มีเดีย จำกัด ที่เป็นเจ้าของรายการชิมไปบ่นไป มาชี้แจง แต่ยังไม่ยอมมา จึงได้ทำหนังสือเชิญไปอีกครั้ง แต่ที่สุดหากไม่มา กกต.ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจจะไปออกหมายเรียกใครมา แต่หากเป็นศาลถ้าไม่มาจะมีอำนาจออกหมายเรียก และหมายจับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อครบกำหนดวันที่ 6 ก.ค.แล้ว ไม่ทราบว่า คณะอนุกรรมการจะส่งสำนวนมาให้กกต.พิจารณาได้หรือไม่ หากอนุกรรมการฯ จะขอเลื่อนออกไปอีก ก็ต้องพิจารณาเหตุผล ถ้ากกต.ไม่ให้เลื่อน ก็จะกล่าวหาว่ากกต.มีอะไรอีก
"ผมเชื่อว่า กรณีของการจัดรายการชิมไปบ่นไป ของนายสมัคร ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะพิจารณาเกิน 2 เดือน ไม่น่าจะเร็ว เพราะต้องมีการนัดสืบพยานกัน ซึ่งทั้ง 3 กรณี เชื่อว่ากรณีของนายไชยา น่าจะพิจารณาได้เร็วที่สุด เพราะเป็นข้อกฎหมายที่นายไชยา เองก็ยอมรับ" นายสุเมธกล่าว
ส่วนกรณีของนายวิรุฬนั้น กกต.ยังไม่ได้มีมติว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะอยู่ในขั้นตอนคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน ที่มีนายสุวิทย์ ชูตระกูล เป็นประธานสอบอยู่ โดยได้ทำหนังสือขอให้ กกต.ขยายเวลาในการสืบสวนสอบสวนจากวันที่ 22 มิ.ย. ขยายไปถึงวันที่ 6 ก.ค.นี้ เช่นเดียวกับกรณีของ นายสมัคร ที่พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ ประธานอนุกรรมการสอบสวนฯ ได้มีหนังสือแจ้งต่อ กกต.เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ขอขยายเวลาสอบสวนออกไปถึงวันที่ 6 ก.ค. เนื่องจากต้องการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพราะคณะอนุฯได้ทำหนังสือเชิญเจ้าของบริษัทเฟซ มีเดีย จำกัด ที่เป็นเจ้าของรายการชิมไปบ่นไป มาชี้แจง แต่ยังไม่ยอมมา จึงได้ทำหนังสือเชิญไปอีกครั้ง แต่ที่สุดหากไม่มา กกต.ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจจะไปออกหมายเรียกใครมา แต่หากเป็นศาลถ้าไม่มาจะมีอำนาจออกหมายเรียก และหมายจับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อครบกำหนดวันที่ 6 ก.ค.แล้ว ไม่ทราบว่า คณะอนุกรรมการจะส่งสำนวนมาให้กกต.พิจารณาได้หรือไม่ หากอนุกรรมการฯ จะขอเลื่อนออกไปอีก ก็ต้องพิจารณาเหตุผล ถ้ากกต.ไม่ให้เลื่อน ก็จะกล่าวหาว่ากกต.มีอะไรอีก
"ผมเชื่อว่า กรณีของการจัดรายการชิมไปบ่นไป ของนายสมัคร ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะพิจารณาเกิน 2 เดือน ไม่น่าจะเร็ว เพราะต้องมีการนัดสืบพยานกัน ซึ่งทั้ง 3 กรณี เชื่อว่ากรณีของนายไชยา น่าจะพิจารณาได้เร็วที่สุด เพราะเป็นข้อกฎหมายที่นายไชยา เองก็ยอมรับ" นายสุเมธกล่าว