กกต.สบช่องโยนกลอง กรณี"หมัก"ชิมไปบ่นไป

นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาสำนวนคดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไปจัดรายการ "ชิมไปบ่นไป" เข้าข่ายขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีว่า ในการประชุม กกต.วันนี้ (10 มิ.ย.) จะมีการหยิบยกเรื่องขอบเขตอำนาจของกกต.ว่า สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้หรือไม่ มาหารือกัน เนื่องจากวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา วุฒิสมาชิกจำนวน 1 ใน 10 ได้เข้าชื่อ และได้ยื่นเรื่องต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91,92 แล้ว ซึ่งขณะนี้ถือว่า เรื่องเข้าสู่กระบวนการศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
ดังนั้น การที่ กกต.จะให้อนุวินิจฉัยกรรมการสืบสวนสอบสวนที่มี พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ สืบสวนต่อฯ ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องขอบเขตอำนาจหรือไม่
"ตามรัฐธรรมนูญได้เขียนเกี่ยวกับอำนาจของ กกต.เพียงว่า กรณีที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะขัดต่อการขาดคุณสมบัติ ตามมาตรา 182 นั้น กกต.มีอำนาจ แต่เมื่อวุฒิสภาได้ยื่นตาม มาตรา 91,92 แล้ว กกต.จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ กกต.จะต้องยื่นเรื่องซ้ำซ้อนอีก ซึ่งคิดว่าการประชุม กกต.น่าจะพิจารณาได้เลยว่า กกต.สมควรจะดำเนินต่อไปหรือไม่"
นางสดศรี ยังกล่าวอีกว่า การประชุม กกต.ในวันนี้ จะนำสำนวนที่สรุปจากอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีที่คณะกรรมการป้องกันทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยื่นเรื่องให้ กกต.วินิจฉัยกรณีที่ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุขว่า ไม่แจ้งการถือครองหุ้นเกินร้อยละ 5 ของภรรยาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งคาดว่า จะสามารถลงมติได้ว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่