อนุฯ สอบนอมินีพลังแม้ว พร้อมสรุปผลเสนอต่อ กกต. ปิดทาง “ทักษิณ” เข้าชี้แจง หลังไม่ติดใจให้การและไม่ต้องสอบประเด็นใดเพิ่มเติมอีก
วันนี้ (25 เม.ย.) นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีไทยรักไทย เปิดเผยว่า สามารถส่งผลสรุปสำนวนให้ กกต.พิจารณาได้ทันที โดยไม่ต้องรอคำชี้แจงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีก เนื่องจากคณะอนุกรรมการได้ส่งหนังสือเชิญไป 4 ครั้ง แต่ก็ถูกส่งคืนกลับมาทั้งหมด เพราะไม่มีคนรับ แม้จะส่งคนให้นำหนังสือไปยัดใส่ในมือ รปภ.หน้าบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วก็ตาม นอกจากนี้ก็ไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงทนายความส่วนตัวได้ ซึ่งทางคณะอนุกรรมการถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ติดใจที่จะให้การ เพราะอาจเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับตน จึงไม่อยากมาแก้ตัว “กกต.อยากทราบข้อเท็จจริง จึงเปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาชี้แจงบ้างว่าที่มีข้อเท็จจริงพาดพิงถึงเป็นอย่างไร แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงทุกอย่างเรามีหมดแล้ว โดยเอามาจากเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ รวมถึงคำพูดต่างๆ ก็สามารถสรุปได้แล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร” นายไพฑูรย์ กล่าว
นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า ในสำนวนที่จะส่งให้ กกต.จะไม่มีความเห็น แต่มีเพียงข้อเท็จจริงจากเท่าที่สอบเพิ่มเติมทั้งหมด รวมถึงข้อกฎหมาย และจะเรียนในท้ายหนังสือว่าไม่สามารถได้ข้อเท็จจริงจากตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น ทั้งนี้ เชื่อว่าผลสรุปที่จะเสนอให้ กกต.จะสามารถพิจารณาได้ทันที ไม่จำเป็นต้องสอบเพิ่มในประเด็นใดอีก เพราะคณะอนุกรรมการได้นำข้อเท็จจริงมาปรับกับกฎหมายแล้ว ซึ่งจากนี้ไปคิดว่า กกต.จะสามารถหาคำตอบในเรื่องดังกล่าวได้ และท้ายที่สุดศาลฎีกาจะเป็นผู้แปลกฎหมายเพื่อเป็นบรรทัดฐาน
วันนี้ (25 เม.ย.) นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีไทยรักไทย เปิดเผยว่า สามารถส่งผลสรุปสำนวนให้ กกต.พิจารณาได้ทันที โดยไม่ต้องรอคำชี้แจงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีก เนื่องจากคณะอนุกรรมการได้ส่งหนังสือเชิญไป 4 ครั้ง แต่ก็ถูกส่งคืนกลับมาทั้งหมด เพราะไม่มีคนรับ แม้จะส่งคนให้นำหนังสือไปยัดใส่ในมือ รปภ.หน้าบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วก็ตาม นอกจากนี้ก็ไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงทนายความส่วนตัวได้ ซึ่งทางคณะอนุกรรมการถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ติดใจที่จะให้การ เพราะอาจเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับตน จึงไม่อยากมาแก้ตัว “กกต.อยากทราบข้อเท็จจริง จึงเปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาชี้แจงบ้างว่าที่มีข้อเท็จจริงพาดพิงถึงเป็นอย่างไร แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงทุกอย่างเรามีหมดแล้ว โดยเอามาจากเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ รวมถึงคำพูดต่างๆ ก็สามารถสรุปได้แล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร” นายไพฑูรย์ กล่าว
นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า ในสำนวนที่จะส่งให้ กกต.จะไม่มีความเห็น แต่มีเพียงข้อเท็จจริงจากเท่าที่สอบเพิ่มเติมทั้งหมด รวมถึงข้อกฎหมาย และจะเรียนในท้ายหนังสือว่าไม่สามารถได้ข้อเท็จจริงจากตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น ทั้งนี้ เชื่อว่าผลสรุปที่จะเสนอให้ กกต.จะสามารถพิจารณาได้ทันที ไม่จำเป็นต้องสอบเพิ่มในประเด็นใดอีก เพราะคณะอนุกรรมการได้นำข้อเท็จจริงมาปรับกับกฎหมายแล้ว ซึ่งจากนี้ไปคิดว่า กกต.จะสามารถหาคำตอบในเรื่องดังกล่าวได้ และท้ายที่สุดศาลฎีกาจะเป็นผู้แปลกฎหมายเพื่อเป็นบรรทัดฐาน
