วานนี้ (9เม.ย.) นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯได้ประชุมเพื่อพิจารณาข้อมูลอีกครั้งโดยมีการรายงานว่า นพ.ศุภผล เอี่ยมเมธากุล ผู้ยื่นคำร้องเพิ่มเติมจากนายวีระ สมความคิด ประธาน อำนวยการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น (คปต.)จะชี้แจงเป็นหนังสือ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นยังไม่ได้ตอบกลับมาว่า จะมาชี้แจงด้วยตัวเอง หรือว่าจะชี้แจงเป็นหนังสือ แต่เจ้าหน้าที่กกต.ได้นำหนังสือเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีผู้เซ็นรับทราบแล้ว ดังนั้นจึงถือว่าพ.ต.ท.ทักษิณ รับทราบแล้วว่าคณะอนุกรรมการฯเชิญมาชี้แจง ซึ่งทางอนุกรรมการฯ จะประชุมหารือเพื่อพิจารณาอีกครั้งในวันนี้ (10เม.ย.) หากภายในวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ประสานมา ว่าจะทำอย่างไร ทางอนุกรรมการฯ อาจจะเสนอเรื่องให้ กกต. ขยายการพิจารณาออกไปอีก เนื่องจากยังไม่มีการชี้แจงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ
"ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะยื้อเวลาหรือไม่ ซึ่งการชี้แจงนั้น ผมเห็นว่า ฝ่ายกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะดำเนินการแทนได้" นายไพฑูรย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมายื่นหนังสือของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่ถูก กกต. เสนอให้ใบแดง กรณีทุจริตเลือกตั้งต่อนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. เพื่อให้ดำเนินการคุ้มครอง นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ พยานปากสำคัญในคดีดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายเกรียงไกร ฉางข้าวคำ บุตรชายของนายชัยวัฒน์ ได้มายื่นหนังสือร้องต่อกกต.เพื่อขอความคุ้มครอง โดยระบุว่า บิดาถูกข่มขู่เอาชีวิต เพราะหากเกิดเหตุไม่ดีต่อนายชัยวัฒน์ สังคมก็จะเข้าใจผิดหาว่า นายยงยุทธ เป็นผู้กระทำ หรือสั่งการ
"ผมว่ามีกระบวนการจัดฉาก เพราะลำพัง นายเกรียงไกรเอง คงไม่สามารถเขียนคำร้องดังกล่าวได้ ถือว่าเป็นวิชามารอย่างหนึ่ง เพราะการมาร้องเรียนในวันดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่เพิ่งจัดงานวันเกิดของนายยงยุทธ ที่ จ.เชียงราย ทำให้สังคมเข้าใจว่านายยงยุทธ ไปข่มขู่ ถ้ากลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจริงๆ ผมอยากให้นายเกรียงไกร พานายชัยวัฒน์ ออกมาเปิดเผยตัวต่อหน้าสื่อมวลชน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีกระบวนการคุ้มครองพยานที่ถูกต้อง เพราะผมก็ไม่มั่นใจทีมคุ้มครองจาก คมช. ที่ดูแลนายชัยวัฒน์อยู่ และไม่ใช่มาเล่นซ่อนหาอย่างนี้ มันดูเหมือนผิดปกติ อีกทั้งใครก็รู้อยู่แล้วว่า นายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และก็ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย" รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าว
"ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะยื้อเวลาหรือไม่ ซึ่งการชี้แจงนั้น ผมเห็นว่า ฝ่ายกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะดำเนินการแทนได้" นายไพฑูรย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมายื่นหนังสือของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่ถูก กกต. เสนอให้ใบแดง กรณีทุจริตเลือกตั้งต่อนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. เพื่อให้ดำเนินการคุ้มครอง นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ พยานปากสำคัญในคดีดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายเกรียงไกร ฉางข้าวคำ บุตรชายของนายชัยวัฒน์ ได้มายื่นหนังสือร้องต่อกกต.เพื่อขอความคุ้มครอง โดยระบุว่า บิดาถูกข่มขู่เอาชีวิต เพราะหากเกิดเหตุไม่ดีต่อนายชัยวัฒน์ สังคมก็จะเข้าใจผิดหาว่า นายยงยุทธ เป็นผู้กระทำ หรือสั่งการ
"ผมว่ามีกระบวนการจัดฉาก เพราะลำพัง นายเกรียงไกรเอง คงไม่สามารถเขียนคำร้องดังกล่าวได้ ถือว่าเป็นวิชามารอย่างหนึ่ง เพราะการมาร้องเรียนในวันดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่เพิ่งจัดงานวันเกิดของนายยงยุทธ ที่ จ.เชียงราย ทำให้สังคมเข้าใจว่านายยงยุทธ ไปข่มขู่ ถ้ากลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจริงๆ ผมอยากให้นายเกรียงไกร พานายชัยวัฒน์ ออกมาเปิดเผยตัวต่อหน้าสื่อมวลชน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีกระบวนการคุ้มครองพยานที่ถูกต้อง เพราะผมก็ไม่มั่นใจทีมคุ้มครองจาก คมช. ที่ดูแลนายชัยวัฒน์อยู่ และไม่ใช่มาเล่นซ่อนหาอย่างนี้ มันดูเหมือนผิดปกติ อีกทั้งใครก็รู้อยู่แล้วว่า นายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และก็ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย" รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าว