นายสามารถ แก้วมีชัย ประธาน วิปรัฐบาล ไม่รูสึกหนักใจ โดยในส่วนของ วิปจากพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันต่อที่ประชุมวิปว่าแม้รัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ถูกอภิปรายด้วย แต่ก็พร้อมที่จะให้กำลังใจอยู่ร่วมประชุม และลงมติ ซึ่งมั่นใจว่า เสียงในสภาจากทุกพรรค 306 เสียงพร้อมให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ทั้งนี้ในที่ประชุมพรรคพลังประชาชนเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.นายกฯกำชับว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งองครักพิทักษ์นายกฯหรือรัฐมนตรี ซึ่งส.ส.ของพรรคพลังประชาชนได้ถูกกำชับว่าไม่ให้มีการประท้วงให้เสียเวลา
สำหรับกรอบเวลาในการอภิปรายจะเปิดโอกาสให้อภิปรายตั้งแต่เวลา 13.30 น.ของวันที่ 24 มิ.ย.ไปจนถึงเวลา 07.30 น.ของวันที่ 25 มิ.ย.รวมแล้วประมาณ 18 ชั่วโมง จากนั้นจะให้อภิปรายต่อในเวลา 09.30 น.จนถึง24.00 น. รวมแล้วมีเวลา ในการอภิปรายประมาณ 36 ชั่วโมง เฉลี่ยเวลาอภิปรายรัฐมนตรีแต่ละคนประมาณ 4 ชั่วโมง เวลาที่เหลือคือให้รัฐมนตรีได้ชี้แจง ซึ่งคิดว่าเวลาน่าจะพอ โดยฝ่ายค้าน ต้องดูเนื้อหาในการอภิปรายถ้าซ้ำซากประธานในที่ประชุมจะต้องกำชับให้กระชับขึ้น และจะมีการลงมติในวันที่ 26 มิ.ย. ซึ่งน่าจะใช้เวลานาน 3-4 ชั่วโมงจากนั้นจึงจะเข้าเรื่องการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ”นายสามารถกล่าว
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าข้อเสนอของวิปรัฐบาลนั้นถือเป็นการเกินคาดหมาย และรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเหตุการณ์อย่างนี้ เคยเกิดขึ้นในสมัยการอภิปรายรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 1 ซึ่งมีการเล่นเกมกัน ดังนั้นตนจะเข้าหารือกับวิปรัฐบาลเพื่อขอให้ทบทวนเพราะมันเกินกำลังมนุษย์ในการที่จะอภิปรายข้ามคืน แล้วชาวบ้านที่ไหนจะมานั่งฟัง อย่าเอาเรื่องมาเล่นเกมใด ๆมาสกัดกั้นทำให้การอภิปรายของฝ่ายค้านมีปัญหาทำให้บรรยากาศในสภาตึงเครียด และที่ผ่านมานายกฯได้ประกาศว่าจะให้อภิปราย 35 ชั่วโมง ตกลงใครสั่งใครในพรรคพลังประชาชน หรือมีอำนาจเหนือนายกฯมาสั่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นบอกได้เลยว่า บรรยากาศการประชุมจะไม่ราบรื่น ตนไม่เชื่อว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯจะเอากับเขาด้วย และควรจะเข้ามากำหนดบทบาทเวลาในการอภิปรายฯ
“อย่าลืมว่าประชาชนเขาเฝ้าดูอยู่ เขาจะรู้ว่าใครทำอะไรเพื่ออะไร กลัวข้อมูลถึงขั้นจะให้อภิปรายกันข้ามคืนเลยหรือครับ กลัวเรื่องอะไรครับ”
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงหลังการประชุมพรรคว่า เรื่องเขาพระวิหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอฟัง ข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของฝ่ายค้าน และการชี้แจงของนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ก่อน จากนั้นเมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้น พรรคชาติไทยจะเรียกประชุมส.ส.อีกครั้ง เพื่อกำหนดท่าทีในการลงมติว่าจะไว้วางใจหรือไม่ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า หลังการออกมติครม.เรื่องดังกล่าว แต่กลับไม่มีการเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริง ให้สาธารณชนทราบ และสาเหตุที่รมว.ต่างประเทศเร่งดำเนินการเรื่องนี้ เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชาจะมีการเลือกตั้งในกลางเดือน ก.ค. ทำให้ฝ่ายการเมืองในกัมพูชา นำเรื่องนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ จึงต้องเร่งรีบทำเรื่องนี้ คิดว่า รมว.ต่างประเทศเองก็ไม่คาดคิว่า เรื่องจะบานปลายลุกลามขนาดนี้
นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงว่า ที่ประชุมห่วงใยและไม่สบายใจที่สุดคือเรื่องการลงนามแถลงการณ์ร่วมของกระทรวงต่างประเทศที่ให้กัมพูชานำเขาพระวิหารไปเป็นมรดกโลก เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจประชาชน จึงคิดว่าพรรคฝ่ายค้านจะให้ความสำคัญและอภิปรายในเรื่องนี้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม พรรคชาติไทยจะรับฟังข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผล และจะประชุมอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย.เวลา 8.30 น.ซึ่งจะเป็นเวลาก่อนลงมติ โดยในการประชุม จะมีการหารือกันว่า พรรคชาติไทยจะลงคะแนนอย่างไร ทั้งนี้รัฐธรรมนูญได้ให้อิสระในการลงคะแนนของ ส.ส.อย่างเต็มที่ โดยพรรคยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเห็นอย่างไร
นายนิกร กล่าวว่า พรรคไม่ได้หารือว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องเขาพระวิหารแล้วจะปรับ ครม.หรือไม่ แต่เป็นห่วงเรื่องข้อมูลที่รัฐมนตรีจะนำมาชี้แจง เพราะคนทั่วประเทศและพรรคชาติไทยกำลังรอฟัง
ส่วนที่พรรคเพื่อแผ่นดินระบุว่าหากรัฐบาลชี้แจงเรื่องเขาพระวิหารไม่ชัด อาจทบทวนการร่วมรัฐบาล นายนิกร กล่าวว่า พรรคชาติไทย ยังไม่มีบทบาทเช่นนั้น เพราะต้องรอคำชี้แจงของรัฐมนตรีก่อน และจะมีการแลกเปลี่ยนกันอีกครั้ง ทั้งนี้คิดว่า หลังการอภิปรายครั้งนี้จะสามารถลดกระแสกดดันทางการเมืองได้ เพราะการเปิดเวทีอภิปรายในครั้งนี้ ทำให้ความคับข้องใจของประชาชนลดลง และรัฐบาลเอง ก็จะได้ชี้แจงกับประชาชนในเรื่องการบริหารประเทศ
ด้านนายสุวิทย์ คุณกิติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่าถึงการลงมติหลังการอภิปรายว่า เบื้องต้นทางตัวแทนของพรรคเพื่อแผ่นดินที่เป็นวิปรัฐบาล และ ส.ส.ของพรรค จะต้องหารือกันก่อน ทั้งนี้ก็ต้องให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ อย่างไรก็ตามตนจะขอฟังการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน และฟังคำชี้แจงของฝั่งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก่อนจึงจะสามารถตัดสินใจได้ ส่วนจะให้เอกสิทธิ์ ส.ส.ในการ โหวตหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ม.ร.ว.กิติวัฒนา ไชยันต์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าว ว่ามีความเป็นห่วง ในประเด็นเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร และหากนาย นพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ ตอบคำถามเรื่องนี้ไม่เคลียร์และส่อเค้าจะทำให้เสียอธิปไตย ตนก็พร้อมจะใช้เอกสิทธิ์ ส่วนตัวโหวตไม่ไว้วางในรัฐบาล อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ราชนิกูล ให้ความเป็นห่วงมาก แต่ไม่สามารถมาประท้วงตามท้องถนนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเกมของพรรคร่วมรัฐบาลหวังสร้างราคาหรือไม่ ม.ร.ว. กิติวัฒนา กล่าวว่า ไม่ได้สร้างราคาแต่ต้องคำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก
นาย ไชยยศ จิระเมธากร โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า การใช้เอกสิทธิ์ ของส.ส.ในพรรคต่อการยกมือไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นสิทธิส่วนตัวตามรัฐธรรมนูญ ส่วนมติพรรคเป็นแค่การชี้ทางเท่านั้น
พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พานิยช์ รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่าพรรคพลังประชาชนเป็นห่วงว่า ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย อาจจะไม่ลงมติไว้วางใจ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เนื่องจากมีปัญหาเกาเหลาระหว่างรัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์ว่า คงต้องฟังนายมิ่งขวัญชี้แจงก่อน แต่ส่วตตัวคงจะไม่ช่วยนายมิ่งขวัญชี้แจง เนื่องจากเขามีทีมงานของกระทรวงที่คอยช่วยเหลือด้านข้อมูลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามพรรคพลังประชาชนยังไม่ได้ประสานมายังพรรคมัชฌิมาธิปไตยเพื่อที่จะขอเสียงสนับสนุนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 7 คนของพรรคพลังประชาชนแต่อย่างใด
นายจตุพร พรมหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็ออกไปจับขั่วกับพรรคอื่นๆ ได้เลย ซึ่งเชื่อว่ าจำนวนเสียงที่เกินมาเพียง 7 เสียงเท่านั้น จะมีปัญหาในการโหวตเห็นชอบ ในเรื่องต่างๆ และจำนวน ส.ส.ในฟากรัฐบาลจะหายไปไหนไม่ได้เลย อีกทั้งตำแหน่งที่รัฐมนตรีซึ่งส.ส. หลายคนต้องการเป็นก็ไม่มีสิทธิโหวตในเรื่องตัวเองด้วย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสุดท้ายพรรคร่วมเมื่อได้ฟังการชี้แจงต่อพรรคฝ่ายค้าน แล้วคงจะไม่ไปไหน เปรียบเสมือนปลาคราฟในบ่อหน้ารัฐสภาวนเวียนอยู่ไปไหนไม่ได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการอภิปราย ไม่ไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทยจะเป็นข้อมูลทั่วไป แต่จะชี้ให้เห็นว่า ที่ไมสมควรจะดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เนื่องจากมีพฤติกรรมยโส โอหัง ทำตัวเหมือนแมงป่อง ไม่มีคุณสมบัติเหมาะกับตำแหน่ง ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่าจะมีข้อมูลซัดกลับตนนั้น วันนี้ (24 มิ.ย.) การอภิปรายไม่ใช่ ร.ต.อ.เฉลิม แต่คนที่จะถูกน็อคเป็นอันดับแรกคือ นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ
นายสุเทพ กล่าวว่าการอภิปรายเรื่องเขาพระวิหาร เป็นอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ บอก ต้องการเชิญให้ ส.ส.ลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อให้มีความ สำนึกชอบธรรม เพราะเป็นเรื่องของชาติ ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง อยากให้คำนึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งตนอยากยืนยันว่าการอภิปรายครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาแน่นอน
ด้าน ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องเขาพระวิหารเชื่อว่ารัฐบาลจะชี้แจงได้ ไม่มีอะไรน่าหนักใจ
“ทุกรัฐบาลหากจะอยู่ไม่ได้ก็ต้องมีเรื่องทุจริต ส่วนเรื่องอื่น เป็นลำดับรอง ๆ แต่ก็อย่าไปประมาทพรรคประชาธิปัตย์ เพราะค้านเก่ง จึงต้องฟังเขาก่อน ที่ผมให้สัมภาษณ์ว่าถ้ามีหลักฐานหมัดเดียวน็อค การเมืองก็เท่านั้น ไม่ได้ไปท้าทายเขาหรอก ไม่ต้องท้าเพราะเขายื่นมาแล้ว และยิ่งจะเป็นการดีใหญ่ที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คุณชวน หลีกภัย จะร่วมอภิปรายด้วย เพราะท่านก็เป็นดาวสภาเช่นกัน ก็ดี ท่านอยู่เฉยไม่ได้หรอก ท่านชวน สมัคร เฉลิม พี่ทัย เวลามีการอภิปราย”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าถูกต้องแล้วที่พรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าจะขอดูข้อมูล ฝ่ายค้านก่อน ถ้ามีหลักฐานทุจริตชัดเจนใครเขาจะยกมือให้ แต่ถ้าไม่มีอะไร ดีแต่พูดโวหาร ก็ไม่มีปัญหา ดังนั้นต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายเรื่อง การคืนยศ ร.ต.ดวง อยู่บำรุง ว่าไม่ถูกต้อง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายกฯ จะให้ตนตอบอยู่พอดี รับรองไม่มีปัญหา พร้อมกับหัวเราะและกล่าวว่า มั่นใจ อย่างไรก็ตามไม่สามารถไปห้ามพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้อภิปรายเรื่องนี้ไม่ได้ ถือเป็นเรื่องธรรมดาอย่าไปมองว่า เป็นเรื่องซีเรียส
ทั้งนี้ในที่ประชุมพรรคพลังประชาชนเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.นายกฯกำชับว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งองครักพิทักษ์นายกฯหรือรัฐมนตรี ซึ่งส.ส.ของพรรคพลังประชาชนได้ถูกกำชับว่าไม่ให้มีการประท้วงให้เสียเวลา
สำหรับกรอบเวลาในการอภิปรายจะเปิดโอกาสให้อภิปรายตั้งแต่เวลา 13.30 น.ของวันที่ 24 มิ.ย.ไปจนถึงเวลา 07.30 น.ของวันที่ 25 มิ.ย.รวมแล้วประมาณ 18 ชั่วโมง จากนั้นจะให้อภิปรายต่อในเวลา 09.30 น.จนถึง24.00 น. รวมแล้วมีเวลา ในการอภิปรายประมาณ 36 ชั่วโมง เฉลี่ยเวลาอภิปรายรัฐมนตรีแต่ละคนประมาณ 4 ชั่วโมง เวลาที่เหลือคือให้รัฐมนตรีได้ชี้แจง ซึ่งคิดว่าเวลาน่าจะพอ โดยฝ่ายค้าน ต้องดูเนื้อหาในการอภิปรายถ้าซ้ำซากประธานในที่ประชุมจะต้องกำชับให้กระชับขึ้น และจะมีการลงมติในวันที่ 26 มิ.ย. ซึ่งน่าจะใช้เวลานาน 3-4 ชั่วโมงจากนั้นจึงจะเข้าเรื่องการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ”นายสามารถกล่าว
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าข้อเสนอของวิปรัฐบาลนั้นถือเป็นการเกินคาดหมาย และรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเหตุการณ์อย่างนี้ เคยเกิดขึ้นในสมัยการอภิปรายรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 1 ซึ่งมีการเล่นเกมกัน ดังนั้นตนจะเข้าหารือกับวิปรัฐบาลเพื่อขอให้ทบทวนเพราะมันเกินกำลังมนุษย์ในการที่จะอภิปรายข้ามคืน แล้วชาวบ้านที่ไหนจะมานั่งฟัง อย่าเอาเรื่องมาเล่นเกมใด ๆมาสกัดกั้นทำให้การอภิปรายของฝ่ายค้านมีปัญหาทำให้บรรยากาศในสภาตึงเครียด และที่ผ่านมานายกฯได้ประกาศว่าจะให้อภิปราย 35 ชั่วโมง ตกลงใครสั่งใครในพรรคพลังประชาชน หรือมีอำนาจเหนือนายกฯมาสั่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นบอกได้เลยว่า บรรยากาศการประชุมจะไม่ราบรื่น ตนไม่เชื่อว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯจะเอากับเขาด้วย และควรจะเข้ามากำหนดบทบาทเวลาในการอภิปรายฯ
“อย่าลืมว่าประชาชนเขาเฝ้าดูอยู่ เขาจะรู้ว่าใครทำอะไรเพื่ออะไร กลัวข้อมูลถึงขั้นจะให้อภิปรายกันข้ามคืนเลยหรือครับ กลัวเรื่องอะไรครับ”
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงหลังการประชุมพรรคว่า เรื่องเขาพระวิหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอฟัง ข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของฝ่ายค้าน และการชี้แจงของนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ก่อน จากนั้นเมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้น พรรคชาติไทยจะเรียกประชุมส.ส.อีกครั้ง เพื่อกำหนดท่าทีในการลงมติว่าจะไว้วางใจหรือไม่ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า หลังการออกมติครม.เรื่องดังกล่าว แต่กลับไม่มีการเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริง ให้สาธารณชนทราบ และสาเหตุที่รมว.ต่างประเทศเร่งดำเนินการเรื่องนี้ เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชาจะมีการเลือกตั้งในกลางเดือน ก.ค. ทำให้ฝ่ายการเมืองในกัมพูชา นำเรื่องนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ จึงต้องเร่งรีบทำเรื่องนี้ คิดว่า รมว.ต่างประเทศเองก็ไม่คาดคิว่า เรื่องจะบานปลายลุกลามขนาดนี้
นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงว่า ที่ประชุมห่วงใยและไม่สบายใจที่สุดคือเรื่องการลงนามแถลงการณ์ร่วมของกระทรวงต่างประเทศที่ให้กัมพูชานำเขาพระวิหารไปเป็นมรดกโลก เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจประชาชน จึงคิดว่าพรรคฝ่ายค้านจะให้ความสำคัญและอภิปรายในเรื่องนี้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม พรรคชาติไทยจะรับฟังข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผล และจะประชุมอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย.เวลา 8.30 น.ซึ่งจะเป็นเวลาก่อนลงมติ โดยในการประชุม จะมีการหารือกันว่า พรรคชาติไทยจะลงคะแนนอย่างไร ทั้งนี้รัฐธรรมนูญได้ให้อิสระในการลงคะแนนของ ส.ส.อย่างเต็มที่ โดยพรรคยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเห็นอย่างไร
นายนิกร กล่าวว่า พรรคไม่ได้หารือว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องเขาพระวิหารแล้วจะปรับ ครม.หรือไม่ แต่เป็นห่วงเรื่องข้อมูลที่รัฐมนตรีจะนำมาชี้แจง เพราะคนทั่วประเทศและพรรคชาติไทยกำลังรอฟัง
ส่วนที่พรรคเพื่อแผ่นดินระบุว่าหากรัฐบาลชี้แจงเรื่องเขาพระวิหารไม่ชัด อาจทบทวนการร่วมรัฐบาล นายนิกร กล่าวว่า พรรคชาติไทย ยังไม่มีบทบาทเช่นนั้น เพราะต้องรอคำชี้แจงของรัฐมนตรีก่อน และจะมีการแลกเปลี่ยนกันอีกครั้ง ทั้งนี้คิดว่า หลังการอภิปรายครั้งนี้จะสามารถลดกระแสกดดันทางการเมืองได้ เพราะการเปิดเวทีอภิปรายในครั้งนี้ ทำให้ความคับข้องใจของประชาชนลดลง และรัฐบาลเอง ก็จะได้ชี้แจงกับประชาชนในเรื่องการบริหารประเทศ
ด้านนายสุวิทย์ คุณกิติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่าถึงการลงมติหลังการอภิปรายว่า เบื้องต้นทางตัวแทนของพรรคเพื่อแผ่นดินที่เป็นวิปรัฐบาล และ ส.ส.ของพรรค จะต้องหารือกันก่อน ทั้งนี้ก็ต้องให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ อย่างไรก็ตามตนจะขอฟังการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน และฟังคำชี้แจงของฝั่งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก่อนจึงจะสามารถตัดสินใจได้ ส่วนจะให้เอกสิทธิ์ ส.ส.ในการ โหวตหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ม.ร.ว.กิติวัฒนา ไชยันต์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าว ว่ามีความเป็นห่วง ในประเด็นเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร และหากนาย นพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ ตอบคำถามเรื่องนี้ไม่เคลียร์และส่อเค้าจะทำให้เสียอธิปไตย ตนก็พร้อมจะใช้เอกสิทธิ์ ส่วนตัวโหวตไม่ไว้วางในรัฐบาล อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ราชนิกูล ให้ความเป็นห่วงมาก แต่ไม่สามารถมาประท้วงตามท้องถนนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเกมของพรรคร่วมรัฐบาลหวังสร้างราคาหรือไม่ ม.ร.ว. กิติวัฒนา กล่าวว่า ไม่ได้สร้างราคาแต่ต้องคำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก
นาย ไชยยศ จิระเมธากร โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า การใช้เอกสิทธิ์ ของส.ส.ในพรรคต่อการยกมือไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นสิทธิส่วนตัวตามรัฐธรรมนูญ ส่วนมติพรรคเป็นแค่การชี้ทางเท่านั้น
พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พานิยช์ รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่าพรรคพลังประชาชนเป็นห่วงว่า ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย อาจจะไม่ลงมติไว้วางใจ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เนื่องจากมีปัญหาเกาเหลาระหว่างรัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์ว่า คงต้องฟังนายมิ่งขวัญชี้แจงก่อน แต่ส่วตตัวคงจะไม่ช่วยนายมิ่งขวัญชี้แจง เนื่องจากเขามีทีมงานของกระทรวงที่คอยช่วยเหลือด้านข้อมูลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามพรรคพลังประชาชนยังไม่ได้ประสานมายังพรรคมัชฌิมาธิปไตยเพื่อที่จะขอเสียงสนับสนุนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 7 คนของพรรคพลังประชาชนแต่อย่างใด
นายจตุพร พรมหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็ออกไปจับขั่วกับพรรคอื่นๆ ได้เลย ซึ่งเชื่อว่ าจำนวนเสียงที่เกินมาเพียง 7 เสียงเท่านั้น จะมีปัญหาในการโหวตเห็นชอบ ในเรื่องต่างๆ และจำนวน ส.ส.ในฟากรัฐบาลจะหายไปไหนไม่ได้เลย อีกทั้งตำแหน่งที่รัฐมนตรีซึ่งส.ส. หลายคนต้องการเป็นก็ไม่มีสิทธิโหวตในเรื่องตัวเองด้วย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสุดท้ายพรรคร่วมเมื่อได้ฟังการชี้แจงต่อพรรคฝ่ายค้าน แล้วคงจะไม่ไปไหน เปรียบเสมือนปลาคราฟในบ่อหน้ารัฐสภาวนเวียนอยู่ไปไหนไม่ได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการอภิปราย ไม่ไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทยจะเป็นข้อมูลทั่วไป แต่จะชี้ให้เห็นว่า ที่ไมสมควรจะดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เนื่องจากมีพฤติกรรมยโส โอหัง ทำตัวเหมือนแมงป่อง ไม่มีคุณสมบัติเหมาะกับตำแหน่ง ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่าจะมีข้อมูลซัดกลับตนนั้น วันนี้ (24 มิ.ย.) การอภิปรายไม่ใช่ ร.ต.อ.เฉลิม แต่คนที่จะถูกน็อคเป็นอันดับแรกคือ นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ
นายสุเทพ กล่าวว่าการอภิปรายเรื่องเขาพระวิหาร เป็นอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ บอก ต้องการเชิญให้ ส.ส.ลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อให้มีความ สำนึกชอบธรรม เพราะเป็นเรื่องของชาติ ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง อยากให้คำนึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งตนอยากยืนยันว่าการอภิปรายครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาแน่นอน
ด้าน ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องเขาพระวิหารเชื่อว่ารัฐบาลจะชี้แจงได้ ไม่มีอะไรน่าหนักใจ
“ทุกรัฐบาลหากจะอยู่ไม่ได้ก็ต้องมีเรื่องทุจริต ส่วนเรื่องอื่น เป็นลำดับรอง ๆ แต่ก็อย่าไปประมาทพรรคประชาธิปัตย์ เพราะค้านเก่ง จึงต้องฟังเขาก่อน ที่ผมให้สัมภาษณ์ว่าถ้ามีหลักฐานหมัดเดียวน็อค การเมืองก็เท่านั้น ไม่ได้ไปท้าทายเขาหรอก ไม่ต้องท้าเพราะเขายื่นมาแล้ว และยิ่งจะเป็นการดีใหญ่ที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คุณชวน หลีกภัย จะร่วมอภิปรายด้วย เพราะท่านก็เป็นดาวสภาเช่นกัน ก็ดี ท่านอยู่เฉยไม่ได้หรอก ท่านชวน สมัคร เฉลิม พี่ทัย เวลามีการอภิปราย”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าถูกต้องแล้วที่พรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าจะขอดูข้อมูล ฝ่ายค้านก่อน ถ้ามีหลักฐานทุจริตชัดเจนใครเขาจะยกมือให้ แต่ถ้าไม่มีอะไร ดีแต่พูดโวหาร ก็ไม่มีปัญหา ดังนั้นต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายเรื่อง การคืนยศ ร.ต.ดวง อยู่บำรุง ว่าไม่ถูกต้อง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายกฯ จะให้ตนตอบอยู่พอดี รับรองไม่มีปัญหา พร้อมกับหัวเราะและกล่าวว่า มั่นใจ อย่างไรก็ตามไม่สามารถไปห้ามพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้อภิปรายเรื่องนี้ไม่ได้ ถือเป็นเรื่องธรรมดาอย่าไปมองว่า เป็นเรื่องซีเรียส