ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (10 มิ.ย.) ว่า นาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางมาถึงสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี(สลค.) เพื่อเป็นประธานการประชุม โดยก่อนเดินขึ้นไปบนห้องประชุมผู้สื่อข่าวถามนายสมัครว่าได้ทราบข่าวที่พรรคร่วมรัฐบาลจะรับประทานอาหารและหารือกันในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้หรือไม่ ซึ่งคำถามนี้ทำให้นายสมัครถึงกับหยุดเดิน และมองตาขวางใส่ผู้สื่อข่าวด้วยมีสีหน้าไม่พอใจที่ตั้งคำถามนั้นประมาณ 5 วินาที ก่อนที่นายสมัครจะเดินขึ้นไปประชุมด้วยอารมณ์ขุ่นมัวและไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช ได้เดินทางไปยังห้องอาหารจีนไชน่า พาเลซ โรงแรมปริ๊นพาเลซ เพื่อเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ตามที่นายสมัครได้โทรศัพท์เชิญทุกคนด้วยตัวเอง โดยเมื่อนายสมัครเห็นกลุ่มผู้สื่อข่าวจำนวนมากยืนสังเกตการณ์และถ่ายภาพอยู่ ถึงกับอุทานเบาๆว่า อะไรกันว่ะ ก่อนจะหยุดยืนนิ่งทำตาขวาง กวาดสายตามองผู้สื่อข่าว ที่ละคนด้วยสีหน้าไม่พอใจเป็นเวลาประมาณ 2 นาที จากนั้นจึงเดินไปยังห้องอาหารโดยไม่พูดอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรับประทานอาหารร่วมกันของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เดินทางมาถึงคนแรก ส่วน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ส่งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคมาแทน นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เดินทางมาด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการหารือดำเนินไปกระทั่งเวลา 15.00 น. หลังเสร็จสิ้นการร่วมรับประทานอาหารของหัวหน้า พรรคร่วมรัฐบาล นายสมัคร ได้เดินออกมาพร้อมกับนายประดิษฐ์ ซึ่งเมื่อพบกับกลุ่ม ผู้ที่พยายามรุมเข้าไปสัมภาษณ์ นายสมัครจึงผลักตัวนายประดิษฐ์ให้ออกหน้าแทน พร้อมทั้งกล่าวว่า ให้สัมภาษณ์คนนี้ สัมภาษณ์คนนี้ จากนั้นนายสมัครจึงเดินเลี่ยง ไปขึ้นลิฟท์โดยไม่ตอบคำถามใดๆ อย่างไรก็ตามนายสมัครมีสีหน้าท่าทีที่ดีขึ้น ยิ้มแย้มมากกว่าตอนที่เดินทางเข้ามายังโรงแรม
เติ้งแย้มกำลังทบทวนร่วมรัฐบาล
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เปิดเผยว่า ได้คุยกันเรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองทั่วๆไปที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานว่าจะมีวิธีการอย่างไร ทั้งเรื่องราคาข้าว เรื่องน้ำ เมื่อถามว่าผมีการพูดถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีไม่ได้พูดเลย
รวมถึงสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯก็ไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนการปรับ ครม.ก็ไม่ได้พูดถึง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ามั่นใจในเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่มีปัญหา นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้พูดกันในเรื่องทั้งหมดนี้ เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาลทบทวน 5 เงื่อนไขก่อนเข้าร่วมรัฐบาล นายบรรหาร หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า กำลังดูอยู่ เรื่องนี้ต้องคุยกับพรรคเพื่อแผ่นดินเสียก่อน มันอยู่ด้วยกัน 2 พรรคคงตัดสินพรรคเดียวไม่ได้ เมื่อถามว่า แสดงว่าท่านก็รู้สึกในเรื่องเงื่อนไข 5 ข้อนี้ นายบรรหารกล่าวว่า กำลังดูอยู่ เมื่อถามว่า แสดงว่าถ้าจะไปก็จะไปด้วยกันกับพรรคเพื่อแผ่นดินใช่มั้ย นายบรรหาร กล่าวว่า คุณนำทางจังเลยนะ
เสนาะอ้างลงเรือลำเดียวกันต้องช่วยกัน
ขณะที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า การหารือไม่มีปะไรมากไปกว่าเรื่องของบ้านเมืองที่วิกฤต เหมือนถ้าเราอยู่เรือลำเดียวกันเราพูดกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องผลผลิตเกษตกร พังน้ำ เงินเฟ้อ เงินฝืด ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญเมื่อตั้งกรรมาธิการแล้วก็เป็นเรื่องของรัฐสภาแต่วันนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
วันนี้ไม่ได้มาคุยกันเรื่องรัฐธรรมนูญหรือเรื่องม๊อบ ทุกอย่างเราจะต้องดูแลเกี่ยวกับวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งเงินเฟ้อ เงินฝืด ข้าวของที่แพงผิดปกติ เรื่องปัจจัยสี่ขึ้นราคาหมด เรื่องปรับ ครม.ก็ไม่ได้พูด
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ายังร่วมกันทำงานต่อไป นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า นายกฯได้ให้คำมั่นขนาดไหนในการแก้ปัญหาวิกฤต นายเสนาะ กล่าวว่า ยัง เราไม่มาเอาคำมั่นสัญญากัน มาคุยออกความคิดเห็นร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาวิกฤตที่ว่านี้จะให้เวลารัฐบาลเท่าไรในการรวมตัวกันเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายเสนาะ กล่าวว่า พูดกันตรงๆวันนี้ มาร่วมกัน 6 พรรค ตั้งรัฐบาล โดยมีนายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี
บรรหารกำชับสมัครอย่าสลายม็อบ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ ทันทีที่ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลมานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกลางวันกันครบ ปรากฎว่านายสมัครได้กล่าวกับที่ประชุมว่าทำไมมีนักข่าวมารอทำข่าวจำนวนมาก เพราะได้กำชับแล้วว่าเรื่องนี้ขอให้เป็นความลับแต่นายสมัครก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดแต่ประการใด จากนั้นก็ได้นำเข้าสู่การหารือโดยนายกฯยืนยันว่าสาเหตุที่ต้องเชิญทั้งนายเสนาะ และ นายบรรหาร มาหาร่วมหารือด้วยเพราะว่าจะได้เห็นแนวทางว่ารัฐบาลกำลังแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งสองท่านอาจจะยังไม่ทราบในรายละเอียดเนื่องจาก ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี พร้อมกับขอให้ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไปบอกกับส.ส.ในพรรคด้วยว่าต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาประเทศเพื่อให้ทุกอย่างสามารถ ผ่านพ้นไปด้วยดี
อย่างไรก็ตามระหว่างการหารือปรากฎว่านายบรรหารได้ชี้แนะนายสมัคร เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯว่าในเมื่อท่านนายกฯรับปากแล้วว่าจะไม่ใช้ ความรุนแรง ก็ขอให้ท่านยึดมั่นคำพูดตรงนี้เอาไว้เพราะถ้าหากไม่ทำตามอย่างที่พูด ผลเสียจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สมศักดิ์สยบข่าวชท.ถอนตัว
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์และฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวปฎิเสธว่าพรรคชาติไทยไม่ได้พิจารณาถอนตัวจากรัฐบาล โดยได้สอบถามนายบรรหารแล้ว ท่านยืนยันว่าเป็นความเข้าใจผิดของสื่อที่นักข่าวคนหนึ่งถามว่า กรณีที่เคยยื่นเงื่อนไข 5 ข้อในการเข้าร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร ซึ่งท่านหัวหน้าก็ตอบไปว่า ต้องไปปรึกษาหารือกับพรรคเพื่อแผ่นดินก่อน แต่สื่อกลับไปตีความหมายเป็นจะลาออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ต้องไปหารือกับพรรคเพื่อแผ่นดินก่อน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีประเด็นที่พรรคชาติไทยจะลาออกจากการร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด
พปช.ไล่ส่งชท.พ้นรัฐบาล
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึง กรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ระบุภายหลังหารือพรรคร่วมโดยยอมรับว่า กำลังพิจารณาการถอนตัวออกจาการร่วมรัฐบาลว่า หากนายบรรหารและพรรคชาติไทย อึดอัดที่จะอยู่เป็นร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนก็ขอให้ลาออกไป เพราะที่ผ่านมาวิถีการทางการเมืองที่เรียกร้อง หรือสไตล์การทำงานทางการเมือง แบบลื่นไหลของพรรคชาติไทยไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจยาก แต่ตนในฐานะสมาชิกพรรคแกนนำรัฐบาลต้องถามว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิด และที่ผ่านมาพรรคชาติไทยเองก็เสนอตัวมาร่วมรัฐบาลเองมาตลอด
อย่างไรก็ตามประเมินว่า การที่นายบรรหารออกมาพูด เป็นเพราะต้องการ สร้างภาพ ดึงกระแสทำให้ประชาชนมองว่า พรรคชาติไทยมีจุดยืน ดูดีในสายตาชาวบ้าน แต่ความจริงแล้วพรรคชาติไทยเองก็ต้องร่วมรับผิดชอบการบริหารงานของรัฐบาลในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาตลอด 4 เดือน หากพรรคชาติไทยจะไปจริง ถอนตัวออกจาการร่วมรัฐบาล ก็ต้องยุบสภาไปเลือกตั้งกันใหม่ ให้ประชาชนเลือกว่าจะเอาใคร
เชื่อว่านายกฯน่ะยุบสภาแน่นอนหากพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการเป็น พรรคร่วมรัฐบาล และหากนายสมัครตัดสินใจยุบสภาและเลิกเล่นการเมือง ยืนยันว่า พรรคจะมีผู้นำคนใหม่ เป็นตัวตายตัวแทน เป็นผู้นำที่ประชาชนยอมรับได้และสามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแน่นอน
ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พรรคชาติไทยเองก็ต้องร่วมรับผิดชอบกับการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลไม่ใช่อยู่ๆจะมาถีบหัวเรือส่ง แต่หากพรรคชาติไทยจะสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง เพราะคิดเพียงแค่จะขอแยกตัวออกไป ก็เชื่อวว่า นายกฯ จะใช้วิธียุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนแน่ ซึ่งเราเชื่อว่าเมื่อมีการเลือกตั้งอีกครั้งส.ส.พรรคพลังประชาชนก็จะได้รับเลือกกลับมาเป็นรัฐบาลอีกแน่นอน
สมชายปัดบ่มบารมีก่อนขึ้นนายกฯ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าปฎิเสธว่าไม่ได้เดินสายทำบุญตามวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อสะเดาะห์เคราะห์แทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะพี่เมียแต่เป็นการไปตรวจงานที่ จ.นครศรีธรรมราชและแวะทำบุญ ไหว้พระสารีลิกธาตุ องค์จาตุคามรามเทพ ศาลหลักเมือง อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน โดยได้ทำหลายวัด แต่ไม่ได้ทำแทนพ.ต.ท.ทักษิณ และยังมีข่าวออกไปมากกว่านั้นอีกว่า ไปทรงเจ้า พร้อมต่อสายให้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่ได้ไปกราบไหว้ ขออธิฐานให้เป็นสิริมงคล ปลอดภัย ปราศจากโคภัยไข้เจ็บ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าสวมใส่ชุดขาวด้วย นายสมชายกล่าวว่า ใส่จริง เพราะหลวงพ่อบอกว่าเวลาไปห่มผ้าให้พระธาตุให้ใสชุดขาวและเดินเวียนเทียน 3 รอบจะได้เป็นมงคล มีโชค มีชัย จิตใจบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร เพราะคนอื่นๆที่ไปก็ใส่ชุดขาวทำกันเยอะแยะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังเดินสายทำบุญทำให้มีบารมีแก่กล้า มีกระแสข่าวจะขึ้นมาเป็นนายกฯคนต่อไป นายสมชาย กล่าวว่า ไม่จริง ไม่ได้ไปบ่มบารมี เคยบอกไปแล้วว่าในพรรคพลังประชาชนและตนสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช ให้เป็นนายกรัฐมนตรีและจะสนับสนุนตลอดไป ในพรรคไม่มีใครวอกแวกเรื่องนี้ ส่วนใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรไม่รู้และไม่เกี่ยว และตนไม่ปรารถนาที่จะขึ้นมามีตำแหน่งอย่างนั้น ไม่ใช่ พรรคต้องเป็นไปตามระบบ เราเป็นลูกพรรคต้องมีวินัย ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ได้เป็นรองนายกฯและรมว.ศึกษานับว่าเพียงพอและเกินพอแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเดินสายร่วมทำบุญกับพ.ต.ท.ทักษิณด้วย นายสมชาย กล่าวว่าขอร้องเถอะว่าถ้าไปไหนกับ พ.ต.ท.ทักษิณอย่าไปคิดเป็นเรื่องการเมือง เพราะไปไหนกับท่านมาตลอดตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ ตนเป็นน้องเขยท่านตั้งแต่ 30-40 ปีมาแล้ว ก็ไปไหนด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วน การไปไหนด้วยกันเป็นเรื่องปกติ ของคนครอบครัวเดียวกัน ไม่ใช่มองเป็นการเมือง ผมไปไหนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่แปลกหรอก แต่ถ้าถามว่า ท่านมายุ่งกับการเมืองหรือไม่ ท่านบอกแล้วว่าไม่เอาแล้ว สบายแล้ว ปล่อยคนที่ยังอยู่ในวังวนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์การเมืองจะนำไปสู่การลาออกของนายสมัคร แล้วให้นายสมชายขึ้นมาเป็นนายกฯแทน นายสมชาย กล่าวว่า วันนี้อย่าคิดมาก อย่าจินตนาการ ความจริงทั้งหมดมีแค่นี้ในพรรคพลังประชาชนเป็นเอกภาพ มีนายสมัครคนเดียวเท่านั้น เราจะร่วมทำงานร่วมกันโดยมีวัตถุประสงค์สูงสุด คือ ทำงานให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่มีหรอกเรื่องตำแหน่งที่จะไปปรับปรุง หรือการปรับ ครม.ก็เป็นอำนาจของนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองกันว่าท่านจะเป็นนายกฯคนต่อไป นายสมชาย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คนจะมอง แต่ขอร้องแล้วอย่าไปคิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เพราะตนยังไม่เคยคิดและไม่เคยมองเลย ขอแค่ตั้งใจและจริงจังในการทำงานเต็มที่ ไม่เคยทะเยอทะยานว่าจากนี้ไปต้องเป็นอะไร จริงอยู่ชีวิตอยู่คนเราอยู่ด้วยความหวัง แต่ความหวังต้องอยู่ในครรลองคลองธรรม เป็นความหวังที่ทำให้เราอยู่ตลอดรอดฝั่ง เป็นมงคลกับชีวิต ไม่ใช่ไปหวังสิ่งที่อยู่นอกสิ่งที่เราพึงจะหวัง พูดแล้วตีความยาก เพราะเป็นปรัชญา คืออย่าไปหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช ได้เดินทางไปยังห้องอาหารจีนไชน่า พาเลซ โรงแรมปริ๊นพาเลซ เพื่อเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ตามที่นายสมัครได้โทรศัพท์เชิญทุกคนด้วยตัวเอง โดยเมื่อนายสมัครเห็นกลุ่มผู้สื่อข่าวจำนวนมากยืนสังเกตการณ์และถ่ายภาพอยู่ ถึงกับอุทานเบาๆว่า อะไรกันว่ะ ก่อนจะหยุดยืนนิ่งทำตาขวาง กวาดสายตามองผู้สื่อข่าว ที่ละคนด้วยสีหน้าไม่พอใจเป็นเวลาประมาณ 2 นาที จากนั้นจึงเดินไปยังห้องอาหารโดยไม่พูดอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรับประทานอาหารร่วมกันของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เดินทางมาถึงคนแรก ส่วน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ส่งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคมาแทน นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เดินทางมาด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการหารือดำเนินไปกระทั่งเวลา 15.00 น. หลังเสร็จสิ้นการร่วมรับประทานอาหารของหัวหน้า พรรคร่วมรัฐบาล นายสมัคร ได้เดินออกมาพร้อมกับนายประดิษฐ์ ซึ่งเมื่อพบกับกลุ่ม ผู้ที่พยายามรุมเข้าไปสัมภาษณ์ นายสมัครจึงผลักตัวนายประดิษฐ์ให้ออกหน้าแทน พร้อมทั้งกล่าวว่า ให้สัมภาษณ์คนนี้ สัมภาษณ์คนนี้ จากนั้นนายสมัครจึงเดินเลี่ยง ไปขึ้นลิฟท์โดยไม่ตอบคำถามใดๆ อย่างไรก็ตามนายสมัครมีสีหน้าท่าทีที่ดีขึ้น ยิ้มแย้มมากกว่าตอนที่เดินทางเข้ามายังโรงแรม
เติ้งแย้มกำลังทบทวนร่วมรัฐบาล
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เปิดเผยว่า ได้คุยกันเรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองทั่วๆไปที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานว่าจะมีวิธีการอย่างไร ทั้งเรื่องราคาข้าว เรื่องน้ำ เมื่อถามว่าผมีการพูดถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีไม่ได้พูดเลย
รวมถึงสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯก็ไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนการปรับ ครม.ก็ไม่ได้พูดถึง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ามั่นใจในเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่มีปัญหา นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้พูดกันในเรื่องทั้งหมดนี้ เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาลทบทวน 5 เงื่อนไขก่อนเข้าร่วมรัฐบาล นายบรรหาร หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า กำลังดูอยู่ เรื่องนี้ต้องคุยกับพรรคเพื่อแผ่นดินเสียก่อน มันอยู่ด้วยกัน 2 พรรคคงตัดสินพรรคเดียวไม่ได้ เมื่อถามว่า แสดงว่าท่านก็รู้สึกในเรื่องเงื่อนไข 5 ข้อนี้ นายบรรหารกล่าวว่า กำลังดูอยู่ เมื่อถามว่า แสดงว่าถ้าจะไปก็จะไปด้วยกันกับพรรคเพื่อแผ่นดินใช่มั้ย นายบรรหาร กล่าวว่า คุณนำทางจังเลยนะ
เสนาะอ้างลงเรือลำเดียวกันต้องช่วยกัน
ขณะที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า การหารือไม่มีปะไรมากไปกว่าเรื่องของบ้านเมืองที่วิกฤต เหมือนถ้าเราอยู่เรือลำเดียวกันเราพูดกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องผลผลิตเกษตกร พังน้ำ เงินเฟ้อ เงินฝืด ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญเมื่อตั้งกรรมาธิการแล้วก็เป็นเรื่องของรัฐสภาแต่วันนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
วันนี้ไม่ได้มาคุยกันเรื่องรัฐธรรมนูญหรือเรื่องม๊อบ ทุกอย่างเราจะต้องดูแลเกี่ยวกับวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งเงินเฟ้อ เงินฝืด ข้าวของที่แพงผิดปกติ เรื่องปัจจัยสี่ขึ้นราคาหมด เรื่องปรับ ครม.ก็ไม่ได้พูด
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ายังร่วมกันทำงานต่อไป นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า นายกฯได้ให้คำมั่นขนาดไหนในการแก้ปัญหาวิกฤต นายเสนาะ กล่าวว่า ยัง เราไม่มาเอาคำมั่นสัญญากัน มาคุยออกความคิดเห็นร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาวิกฤตที่ว่านี้จะให้เวลารัฐบาลเท่าไรในการรวมตัวกันเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายเสนาะ กล่าวว่า พูดกันตรงๆวันนี้ มาร่วมกัน 6 พรรค ตั้งรัฐบาล โดยมีนายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี
บรรหารกำชับสมัครอย่าสลายม็อบ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ ทันทีที่ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลมานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกลางวันกันครบ ปรากฎว่านายสมัครได้กล่าวกับที่ประชุมว่าทำไมมีนักข่าวมารอทำข่าวจำนวนมาก เพราะได้กำชับแล้วว่าเรื่องนี้ขอให้เป็นความลับแต่นายสมัครก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดแต่ประการใด จากนั้นก็ได้นำเข้าสู่การหารือโดยนายกฯยืนยันว่าสาเหตุที่ต้องเชิญทั้งนายเสนาะ และ นายบรรหาร มาหาร่วมหารือด้วยเพราะว่าจะได้เห็นแนวทางว่ารัฐบาลกำลังแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งสองท่านอาจจะยังไม่ทราบในรายละเอียดเนื่องจาก ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี พร้อมกับขอให้ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไปบอกกับส.ส.ในพรรคด้วยว่าต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาประเทศเพื่อให้ทุกอย่างสามารถ ผ่านพ้นไปด้วยดี
อย่างไรก็ตามระหว่างการหารือปรากฎว่านายบรรหารได้ชี้แนะนายสมัคร เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯว่าในเมื่อท่านนายกฯรับปากแล้วว่าจะไม่ใช้ ความรุนแรง ก็ขอให้ท่านยึดมั่นคำพูดตรงนี้เอาไว้เพราะถ้าหากไม่ทำตามอย่างที่พูด ผลเสียจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สมศักดิ์สยบข่าวชท.ถอนตัว
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์และฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวปฎิเสธว่าพรรคชาติไทยไม่ได้พิจารณาถอนตัวจากรัฐบาล โดยได้สอบถามนายบรรหารแล้ว ท่านยืนยันว่าเป็นความเข้าใจผิดของสื่อที่นักข่าวคนหนึ่งถามว่า กรณีที่เคยยื่นเงื่อนไข 5 ข้อในการเข้าร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร ซึ่งท่านหัวหน้าก็ตอบไปว่า ต้องไปปรึกษาหารือกับพรรคเพื่อแผ่นดินก่อน แต่สื่อกลับไปตีความหมายเป็นจะลาออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ต้องไปหารือกับพรรคเพื่อแผ่นดินก่อน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีประเด็นที่พรรคชาติไทยจะลาออกจากการร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด
พปช.ไล่ส่งชท.พ้นรัฐบาล
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึง กรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ระบุภายหลังหารือพรรคร่วมโดยยอมรับว่า กำลังพิจารณาการถอนตัวออกจาการร่วมรัฐบาลว่า หากนายบรรหารและพรรคชาติไทย อึดอัดที่จะอยู่เป็นร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนก็ขอให้ลาออกไป เพราะที่ผ่านมาวิถีการทางการเมืองที่เรียกร้อง หรือสไตล์การทำงานทางการเมือง แบบลื่นไหลของพรรคชาติไทยไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจยาก แต่ตนในฐานะสมาชิกพรรคแกนนำรัฐบาลต้องถามว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิด และที่ผ่านมาพรรคชาติไทยเองก็เสนอตัวมาร่วมรัฐบาลเองมาตลอด
อย่างไรก็ตามประเมินว่า การที่นายบรรหารออกมาพูด เป็นเพราะต้องการ สร้างภาพ ดึงกระแสทำให้ประชาชนมองว่า พรรคชาติไทยมีจุดยืน ดูดีในสายตาชาวบ้าน แต่ความจริงแล้วพรรคชาติไทยเองก็ต้องร่วมรับผิดชอบการบริหารงานของรัฐบาลในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาตลอด 4 เดือน หากพรรคชาติไทยจะไปจริง ถอนตัวออกจาการร่วมรัฐบาล ก็ต้องยุบสภาไปเลือกตั้งกันใหม่ ให้ประชาชนเลือกว่าจะเอาใคร
เชื่อว่านายกฯน่ะยุบสภาแน่นอนหากพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการเป็น พรรคร่วมรัฐบาล และหากนายสมัครตัดสินใจยุบสภาและเลิกเล่นการเมือง ยืนยันว่า พรรคจะมีผู้นำคนใหม่ เป็นตัวตายตัวแทน เป็นผู้นำที่ประชาชนยอมรับได้และสามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแน่นอน
ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พรรคชาติไทยเองก็ต้องร่วมรับผิดชอบกับการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลไม่ใช่อยู่ๆจะมาถีบหัวเรือส่ง แต่หากพรรคชาติไทยจะสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง เพราะคิดเพียงแค่จะขอแยกตัวออกไป ก็เชื่อวว่า นายกฯ จะใช้วิธียุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนแน่ ซึ่งเราเชื่อว่าเมื่อมีการเลือกตั้งอีกครั้งส.ส.พรรคพลังประชาชนก็จะได้รับเลือกกลับมาเป็นรัฐบาลอีกแน่นอน
สมชายปัดบ่มบารมีก่อนขึ้นนายกฯ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าปฎิเสธว่าไม่ได้เดินสายทำบุญตามวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อสะเดาะห์เคราะห์แทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะพี่เมียแต่เป็นการไปตรวจงานที่ จ.นครศรีธรรมราชและแวะทำบุญ ไหว้พระสารีลิกธาตุ องค์จาตุคามรามเทพ ศาลหลักเมือง อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน โดยได้ทำหลายวัด แต่ไม่ได้ทำแทนพ.ต.ท.ทักษิณ และยังมีข่าวออกไปมากกว่านั้นอีกว่า ไปทรงเจ้า พร้อมต่อสายให้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่ได้ไปกราบไหว้ ขออธิฐานให้เป็นสิริมงคล ปลอดภัย ปราศจากโคภัยไข้เจ็บ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าสวมใส่ชุดขาวด้วย นายสมชายกล่าวว่า ใส่จริง เพราะหลวงพ่อบอกว่าเวลาไปห่มผ้าให้พระธาตุให้ใสชุดขาวและเดินเวียนเทียน 3 รอบจะได้เป็นมงคล มีโชค มีชัย จิตใจบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร เพราะคนอื่นๆที่ไปก็ใส่ชุดขาวทำกันเยอะแยะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังเดินสายทำบุญทำให้มีบารมีแก่กล้า มีกระแสข่าวจะขึ้นมาเป็นนายกฯคนต่อไป นายสมชาย กล่าวว่า ไม่จริง ไม่ได้ไปบ่มบารมี เคยบอกไปแล้วว่าในพรรคพลังประชาชนและตนสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช ให้เป็นนายกรัฐมนตรีและจะสนับสนุนตลอดไป ในพรรคไม่มีใครวอกแวกเรื่องนี้ ส่วนใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรไม่รู้และไม่เกี่ยว และตนไม่ปรารถนาที่จะขึ้นมามีตำแหน่งอย่างนั้น ไม่ใช่ พรรคต้องเป็นไปตามระบบ เราเป็นลูกพรรคต้องมีวินัย ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ได้เป็นรองนายกฯและรมว.ศึกษานับว่าเพียงพอและเกินพอแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเดินสายร่วมทำบุญกับพ.ต.ท.ทักษิณด้วย นายสมชาย กล่าวว่าขอร้องเถอะว่าถ้าไปไหนกับ พ.ต.ท.ทักษิณอย่าไปคิดเป็นเรื่องการเมือง เพราะไปไหนกับท่านมาตลอดตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ ตนเป็นน้องเขยท่านตั้งแต่ 30-40 ปีมาแล้ว ก็ไปไหนด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วน การไปไหนด้วยกันเป็นเรื่องปกติ ของคนครอบครัวเดียวกัน ไม่ใช่มองเป็นการเมือง ผมไปไหนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่แปลกหรอก แต่ถ้าถามว่า ท่านมายุ่งกับการเมืองหรือไม่ ท่านบอกแล้วว่าไม่เอาแล้ว สบายแล้ว ปล่อยคนที่ยังอยู่ในวังวนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์การเมืองจะนำไปสู่การลาออกของนายสมัคร แล้วให้นายสมชายขึ้นมาเป็นนายกฯแทน นายสมชาย กล่าวว่า วันนี้อย่าคิดมาก อย่าจินตนาการ ความจริงทั้งหมดมีแค่นี้ในพรรคพลังประชาชนเป็นเอกภาพ มีนายสมัครคนเดียวเท่านั้น เราจะร่วมทำงานร่วมกันโดยมีวัตถุประสงค์สูงสุด คือ ทำงานให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่มีหรอกเรื่องตำแหน่งที่จะไปปรับปรุง หรือการปรับ ครม.ก็เป็นอำนาจของนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองกันว่าท่านจะเป็นนายกฯคนต่อไป นายสมชาย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คนจะมอง แต่ขอร้องแล้วอย่าไปคิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เพราะตนยังไม่เคยคิดและไม่เคยมองเลย ขอแค่ตั้งใจและจริงจังในการทำงานเต็มที่ ไม่เคยทะเยอทะยานว่าจากนี้ไปต้องเป็นอะไร จริงอยู่ชีวิตอยู่คนเราอยู่ด้วยความหวัง แต่ความหวังต้องอยู่ในครรลองคลองธรรม เป็นความหวังที่ทำให้เราอยู่ตลอดรอดฝั่ง เป็นมงคลกับชีวิต ไม่ใช่ไปหวังสิ่งที่อยู่นอกสิ่งที่เราพึงจะหวัง พูดแล้วตีความยาก เพราะเป็นปรัชญา คืออย่าไปหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้