ของเล่นไม่ได้จำกัดไว้สำหรับเด็กอีกต่อไปในญี่ปุ่น ที่ซึ่งประชากรสูงวัยและคนอ้วนกลายเป็นลูกค้าสำคัญของอุปกรณ์คลายเครียด กำจัดไขมันหน้าท้อง หรืออุปกรณ์สลายความเหงา
จากผู้ช่วยในการออกกำลังกายไปจนถึงหุ่นยนต์ลีลาศ ต้นไม้ที่พยักหน้าได้ และอื่นๆ อีกมากมาย สะท้อนว่าผู้ผลิตของเล่นในแดนซากุระกำลังเบนความสนใจมาที่ผู้บริโภควัยผู้ใหญ่ ที่กลับกลายเป็นตลาดที่โตเร็วชดเชยยอดขายของเล่นสำหรับเด็ก
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามในการปฏิรูปสังคมรองรับภาวะที่ประชากรกว่า 1 ใน 5 ของญี่ปุ่นมีอายุ 65 ปีขึ้นไป และคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 40.5% ในปี 2055
เซอิ โทยามะ หนึ่งในผู้จัดงานโตเกียว ทอย โชว์ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (19) บอกว่าบริษัทของเล่นหันมามุ่งเน้นของเล่นสำหรับผู้ใหญ่มากขึ้น สืบเนื่องจากความกังวลต่อสุขภาพ และภาวะที่มีคนโสดเป็นจำนวนมาก จากภาวะสังคมชราภาพและการที่ผู้หญิงยุคใหม่ไม่นิยมแต่งงาน
เดือนเมษายนที่ผ่านมา โตเกียวผ่านกฎหมายเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ตลอดทั้งหน่วยงานรัฐบาลจัดการวัดรอบเอวพนักงานอายุระหว่าง 40-74 ปี หากรอบเอวพนักงานชายเกินกว่า 33.5 นิ้ว และเกิน 35.4 นิ้วสำหรับพนักงานหญิง พนักงานเหล่านั้นจะถูกระบุว่าเป็นโรค metabolic syndrome หรือกลุ่มโรคที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารผิดปกติที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน หรือเรียกสั้นๆ ได้ว่าโรคอ้วนลงพุง และบริษัทที่มีพนักงานเหล่านี้อยู่จะต้องถูกปรับ
เล่นเอาบริษัทน้อยใหญ่ต้องคิดหาวิธีกำจัดไขมันส่วนเกินของพนักงานกันจ้าละหวั่น
หนึ่งในนั้นคือ บันได นัมโค กรุ๊ป ที่มาพร้อมไอเดีย ‘แท็กซี่ วอล์กเกอร์’ หรือเครื่องวัดจำนวนก้าวเพื่อส่งเสริมให้พนักงานเดินแทนที่จะนั่งแท็กซี่ โดยอุปกรณ์นี้จะแสดงข้อมูลว่าการเดิน 2 กิโลเมตร หมายถึงราคาเริ่มต้นในการนั่งแท็กซี่ที่ 710 เยน (7 ดอลลาร์) และเพิ่มอีก 90 เยนทุกๆ 280 เมตร ช่วยให้พนักงานรับรู้ว่าการเดินด้วยสองขาของตัวเองช่วยประหยัดเงินได้แค่ไหน
บันไดสำทับว่าที่คิดค้นแท็กซี่ วอล์กเกอร์ขึ้นมา เพราะอยากให้พนักงานต่อสู้กับโรคอ้วนลงพุงอย่างสนุกสนาน
ภายในงานโตเกียว ทอย โชว์ ยังมีบริษัทของเล่นทั้งเจ้าถิ่นและต่างแดนรวม 134 แห่งนำนวัตกรรมล่าสุดมาประชันกัน
คู่แข่งสำคัญของบันไดคือ เซก้ามาพร้อมต้นไม้ที่พยักเพยิดได้เมื่อได้ยินเสียงพูด จุดประสงค์คือเพื่อเป็นเพื่อนสำหรับคนเหงาหรือคนที่มีอาการเครียด โดยลำต้นของ ‘พีค็อปปา’ จะตอบสนองต่อเสียงด้วยการค้อมลง
“พีค็อปปาเหมาะสำหรับคนที่อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครคุยด้วย หรือพนักงานที่เครียดและคิดว่าไม่มีใครเห็นด้วยกับตัวเองเลย นอกจากนั้น ยังเหมาะสำหรับผู้จัดการที่หัวเสียกับลูกน้องที่ไม่ยอมฟัง พีค็อปปาเป็นต้นไม้ที่ปรับสภาพให้เข้ากับอารมณ์ของคน” พนักงานของเซก้าสาธยายสรรพคุณ
แต่ถ้ายังไม่ได้ผล บันไดขอแนะนำ ‘อิเดมาเม’ หรือฝักถั่วแระที่สามารถบีบเล่นแก้เครียด เพื่อให้พนักงานพักสมองจากงาน
ส่วนคนที่ยุ่งหรือขี้อายจนไม่กล้าออกไปเต้นระบำ เซก้าและฮาสโบรรวมสมองกันพัฒนา ‘แอมป์บ็อต’ หุ่นยนต์นักเต้นรำที่เป็นเครื่องเล่นสเตอริโอในตัว
“แอมป์บ็อตเหมาะสำหรับผู้ชายที่ชอบหุ่นยนต์ ที่ตอนเด็กๆ เคยฝันว่าวันหนึ่งจะได้มีหุ่นยนต์มาอยู่ร่วมบ้านด้วย” โอซามุ ทาเคยูชิ พนักงานของเซก้าทิ้งท้าย
จากผู้ช่วยในการออกกำลังกายไปจนถึงหุ่นยนต์ลีลาศ ต้นไม้ที่พยักหน้าได้ และอื่นๆ อีกมากมาย สะท้อนว่าผู้ผลิตของเล่นในแดนซากุระกำลังเบนความสนใจมาที่ผู้บริโภควัยผู้ใหญ่ ที่กลับกลายเป็นตลาดที่โตเร็วชดเชยยอดขายของเล่นสำหรับเด็ก
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามในการปฏิรูปสังคมรองรับภาวะที่ประชากรกว่า 1 ใน 5 ของญี่ปุ่นมีอายุ 65 ปีขึ้นไป และคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 40.5% ในปี 2055
เซอิ โทยามะ หนึ่งในผู้จัดงานโตเกียว ทอย โชว์ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (19) บอกว่าบริษัทของเล่นหันมามุ่งเน้นของเล่นสำหรับผู้ใหญ่มากขึ้น สืบเนื่องจากความกังวลต่อสุขภาพ และภาวะที่มีคนโสดเป็นจำนวนมาก จากภาวะสังคมชราภาพและการที่ผู้หญิงยุคใหม่ไม่นิยมแต่งงาน
เดือนเมษายนที่ผ่านมา โตเกียวผ่านกฎหมายเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ตลอดทั้งหน่วยงานรัฐบาลจัดการวัดรอบเอวพนักงานอายุระหว่าง 40-74 ปี หากรอบเอวพนักงานชายเกินกว่า 33.5 นิ้ว และเกิน 35.4 นิ้วสำหรับพนักงานหญิง พนักงานเหล่านั้นจะถูกระบุว่าเป็นโรค metabolic syndrome หรือกลุ่มโรคที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารผิดปกติที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน หรือเรียกสั้นๆ ได้ว่าโรคอ้วนลงพุง และบริษัทที่มีพนักงานเหล่านี้อยู่จะต้องถูกปรับ
เล่นเอาบริษัทน้อยใหญ่ต้องคิดหาวิธีกำจัดไขมันส่วนเกินของพนักงานกันจ้าละหวั่น
หนึ่งในนั้นคือ บันได นัมโค กรุ๊ป ที่มาพร้อมไอเดีย ‘แท็กซี่ วอล์กเกอร์’ หรือเครื่องวัดจำนวนก้าวเพื่อส่งเสริมให้พนักงานเดินแทนที่จะนั่งแท็กซี่ โดยอุปกรณ์นี้จะแสดงข้อมูลว่าการเดิน 2 กิโลเมตร หมายถึงราคาเริ่มต้นในการนั่งแท็กซี่ที่ 710 เยน (7 ดอลลาร์) และเพิ่มอีก 90 เยนทุกๆ 280 เมตร ช่วยให้พนักงานรับรู้ว่าการเดินด้วยสองขาของตัวเองช่วยประหยัดเงินได้แค่ไหน
บันไดสำทับว่าที่คิดค้นแท็กซี่ วอล์กเกอร์ขึ้นมา เพราะอยากให้พนักงานต่อสู้กับโรคอ้วนลงพุงอย่างสนุกสนาน
ภายในงานโตเกียว ทอย โชว์ ยังมีบริษัทของเล่นทั้งเจ้าถิ่นและต่างแดนรวม 134 แห่งนำนวัตกรรมล่าสุดมาประชันกัน
คู่แข่งสำคัญของบันไดคือ เซก้ามาพร้อมต้นไม้ที่พยักเพยิดได้เมื่อได้ยินเสียงพูด จุดประสงค์คือเพื่อเป็นเพื่อนสำหรับคนเหงาหรือคนที่มีอาการเครียด โดยลำต้นของ ‘พีค็อปปา’ จะตอบสนองต่อเสียงด้วยการค้อมลง
“พีค็อปปาเหมาะสำหรับคนที่อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครคุยด้วย หรือพนักงานที่เครียดและคิดว่าไม่มีใครเห็นด้วยกับตัวเองเลย นอกจากนั้น ยังเหมาะสำหรับผู้จัดการที่หัวเสียกับลูกน้องที่ไม่ยอมฟัง พีค็อปปาเป็นต้นไม้ที่ปรับสภาพให้เข้ากับอารมณ์ของคน” พนักงานของเซก้าสาธยายสรรพคุณ
แต่ถ้ายังไม่ได้ผล บันไดขอแนะนำ ‘อิเดมาเม’ หรือฝักถั่วแระที่สามารถบีบเล่นแก้เครียด เพื่อให้พนักงานพักสมองจากงาน
ส่วนคนที่ยุ่งหรือขี้อายจนไม่กล้าออกไปเต้นระบำ เซก้าและฮาสโบรรวมสมองกันพัฒนา ‘แอมป์บ็อต’ หุ่นยนต์นักเต้นรำที่เป็นเครื่องเล่นสเตอริโอในตัว
“แอมป์บ็อตเหมาะสำหรับผู้ชายที่ชอบหุ่นยนต์ ที่ตอนเด็กๆ เคยฝันว่าวันหนึ่งจะได้มีหุ่นยนต์มาอยู่ร่วมบ้านด้วย” โอซามุ ทาเคยูชิ พนักงานของเซก้าทิ้งท้าย
