ผู้จัดการรายวัน - ธุรกิจรับจัดงานปีนี้จะไปรอด ต้องจับกลุ่มนีช ทาร์เก็ต หาความแตกต่าง เหตุลูกค้าพิถีพิถันการใช้เงินมากขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจฝืด "นีโอ" ผันตัวรับสถานการณ์ เน้นการจัดการภายใน ปูพรมบุกตลาดต่างประเทศ พร้อมคว้างานภาครัฐเข้าช่วย 4-5 งาน มั่นใจพยุงรายได้โตอีก 10% เท่าปีก่อน แย้มปีหน้าปรับราคาบูธแน่
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจรับจัดงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่ายังมีการแข่งขันที่สูงอยู่ โดยลักษณะการจัดงานไม่แตกต่างกัน ธีมการจัดงานก็คล้ายๆกัน เหมือนเลียนแบบกันมา ขณะที่จำนวนผู้เข้าชมงานเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่าลดลงประมาณ 10-15% ซึ่งเกิดจากผู้บริโภคมีการระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมองว่า ครึ่งปีหลังนี้ หากจะจัดงานขึ้น ควรจะมุ่งที่กลุ่มนีช ทาร์เก็ต มีการนำเสนอที่แตกต่าง จึงจะช่วยให้งานนั้นประสบความสำเร็จ และเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
สำหรับนีโอเองนั้น พบว่าขณะนี้กำลังแบกรับต้นทุนต่างๆที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ซึ่งทางบริษัทฯได้มีการปรับการบริหารจัดการภายใน โดยเฉพาะในส่วนของบุคลากร ให้รับผิดชอบงานมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของการจัดงาน นอกจากที่เป็นงานของนีโอเองกว่า 9 งานที่จะจัดในแต่ละปีแล้ว ปีนี้บริษัทฯยังได้รับความไว้วางใจจากทางภาครัฐให้เป็นผู้จัดงานรวมกว่า 4-5 งาน ไม่ว่าจะเป็น งานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของกรมส่งออก, งานเหรียญกษาปณ์ ของกรมธนารักษ์ และงานของกระทรวงพาณิชย์ หรือแม้แต่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ขณะที่งานของนีโอเองนั้น 6 เดือนที่ผ่านมา จัดไปแล้วประมาณ 3-4 งาน เช่น งานประชุมสัมมนาวิชาการสัตว์ปีกสุกร และวัวนม, งานเวดดิ้ง หรืออเมซิ่ง ไทยแลนด์ ส่วนงานในต่างประเทศปีนี้ ไปมาแล้ว 2 ประเทศ กับงานอินเด็กซ์ ที่เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งในส่วนของต่างประเทศนั้น ทางบริษัทฯพยายามที่จะวางแผนงานที่จัดให้เป็นมากกว่าแค่งานแฟร์ แต่ต้องการให้เป็นสื่อกลางสำหรับการทำธุรกิจกับต่างประเทศด้วย
ล่าสุดสำหรับงาน Pet Expo Thailand 2008 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.-3 ส.ค. นี้ ณ ศูนย์สิริกิติ์ ปีนี้ทางบริษัทฯได้จัดโซน International Pavilion เปิดเวทีการเจรจาธุรกิจการค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะมีนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้าร่วมออกบูธประมาณ 30ราย ซึ่งหลังจากนี้บริษัทฯจะพาผู้ประกอบการประมาณ 10 ราย ร่วมออกบูธในประเทศจีนอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ได้มีช่องทางทำธุรกิจเพิ่มขึ้น
นางลัดดา กล่าวต่อว่า กลยุทธ์ที่วางไว้ในปีนี้ น่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯยังคงมีการเติบโตเท่าปีที่ผ่านมา ประมาณ 10% อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มว่า ปีหน้าในการจัดงานแต่ละครั้ง บริษัทฯจะมีการปรับราคาการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ในปีนี้บริษัทฯยังคงราคาเดิม เพราะต้องการดึงลูกค้าไว้ในมือให้มากที่สุด
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจรับจัดงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่ายังมีการแข่งขันที่สูงอยู่ โดยลักษณะการจัดงานไม่แตกต่างกัน ธีมการจัดงานก็คล้ายๆกัน เหมือนเลียนแบบกันมา ขณะที่จำนวนผู้เข้าชมงานเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่าลดลงประมาณ 10-15% ซึ่งเกิดจากผู้บริโภคมีการระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมองว่า ครึ่งปีหลังนี้ หากจะจัดงานขึ้น ควรจะมุ่งที่กลุ่มนีช ทาร์เก็ต มีการนำเสนอที่แตกต่าง จึงจะช่วยให้งานนั้นประสบความสำเร็จ และเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
สำหรับนีโอเองนั้น พบว่าขณะนี้กำลังแบกรับต้นทุนต่างๆที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ซึ่งทางบริษัทฯได้มีการปรับการบริหารจัดการภายใน โดยเฉพาะในส่วนของบุคลากร ให้รับผิดชอบงานมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของการจัดงาน นอกจากที่เป็นงานของนีโอเองกว่า 9 งานที่จะจัดในแต่ละปีแล้ว ปีนี้บริษัทฯยังได้รับความไว้วางใจจากทางภาครัฐให้เป็นผู้จัดงานรวมกว่า 4-5 งาน ไม่ว่าจะเป็น งานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของกรมส่งออก, งานเหรียญกษาปณ์ ของกรมธนารักษ์ และงานของกระทรวงพาณิชย์ หรือแม้แต่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ขณะที่งานของนีโอเองนั้น 6 เดือนที่ผ่านมา จัดไปแล้วประมาณ 3-4 งาน เช่น งานประชุมสัมมนาวิชาการสัตว์ปีกสุกร และวัวนม, งานเวดดิ้ง หรืออเมซิ่ง ไทยแลนด์ ส่วนงานในต่างประเทศปีนี้ ไปมาแล้ว 2 ประเทศ กับงานอินเด็กซ์ ที่เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งในส่วนของต่างประเทศนั้น ทางบริษัทฯพยายามที่จะวางแผนงานที่จัดให้เป็นมากกว่าแค่งานแฟร์ แต่ต้องการให้เป็นสื่อกลางสำหรับการทำธุรกิจกับต่างประเทศด้วย
ล่าสุดสำหรับงาน Pet Expo Thailand 2008 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.-3 ส.ค. นี้ ณ ศูนย์สิริกิติ์ ปีนี้ทางบริษัทฯได้จัดโซน International Pavilion เปิดเวทีการเจรจาธุรกิจการค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะมีนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้าร่วมออกบูธประมาณ 30ราย ซึ่งหลังจากนี้บริษัทฯจะพาผู้ประกอบการประมาณ 10 ราย ร่วมออกบูธในประเทศจีนอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ได้มีช่องทางทำธุรกิจเพิ่มขึ้น
นางลัดดา กล่าวต่อว่า กลยุทธ์ที่วางไว้ในปีนี้ น่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯยังคงมีการเติบโตเท่าปีที่ผ่านมา ประมาณ 10% อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มว่า ปีหน้าในการจัดงานแต่ละครั้ง บริษัทฯจะมีการปรับราคาการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ในปีนี้บริษัทฯยังคงราคาเดิม เพราะต้องการดึงลูกค้าไว้ในมือให้มากที่สุด