ผู้จัดการรายวัน – อีลิทกลับลำ คงเป้าหาสมาชิกใหม่ปีนี้เท่าเดิม 800 ใบ ชงแผนแนวรุกอัดกิจกรรมกระตุ้นตลาด เพิ่มตัวแทนขายอีก เสนอบอร์ดวันศุกร์ นี้
แหล่งข่าวจาก บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิลเลจ คาร์ด จำกัด หรือทีพีซี ผู้บริหารโครงการอีลิทการ์ด เปิดเผยว่า ทีพีซีเตรียมเสนอแผนการทำงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร หรือบอร์ด ในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย. นี้ สาระสำคัญคือ บริษัทฯจะยังคงเป้าหมายยอดจำหน่ายบัตรอีลิทการ์ดไว้ที่ 800 ใบไว้ที่เดิม แต่จะหันมาปรับแผนการตลาด ทำงานเชิงรุกมากขึ้น ทั้งตลาดในและต่างประทศ รวมถึง การพิจารณา เพิ่มตัวแทนจำหน่ายในตลาดเป้าหมาย ที่คาดว่าจะมีกำลังซื้อสูง เช่น ประเทศในตะวันออกกลาง เป็นต้น
ที่ผ่านมา ทีพีซี ยังไม่เคยทำกิจกรรมการรุกตลาดเลย และไม่เคยมีการติตต่อสื่อสาร กับลูกค้าโดยตรง เพียงแต่ มีการทำร่วมกับคันทรี่พาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ และโรดโชว์เท่านั้น แต่ยังไม่เคยแจ้งข่าวสารให้สมาชิกได้รับทราบ เพราะฉะนั้น นับจากนี้ไป ทีพีซีจะเริ่มทำกิจกรรมกับสมาชิกบ้าง เพื่อให้สมาชิก เกิดความมั่นใจต่อบริษัทฯ และผู้ที่กำลังสนใจเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่
“เราต้องบอกให้เขารู้ว่า ทีพีซีเป็นบริษัทที่มั่นคง เราเดินหน้าทำงานต่อไป เพราะเรามีสมาชิกระดับวีไอพีอีที่ต้องรับผิอชอบอยู่แล้วกว่า 2,000 ราย ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนเข้ามาบริหารประเทศบริษัทฯก็จะทำงานต่อ และต้องยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งงบประมาณแผ่นดิน โดยการทำงานทั้งหมด จะร่วมกับทีมไทยแลนด์ และสถานกงสุลในต่างประเทศ” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับยอดขายบัตรอีลิท 800 ใบที่ตั้งไว้นั้น แม้ขณะนี้จะจำหน่ายได้เพียงไม่กี่ใบทั้ง
ที่ผ่านมา 5 เดือนแล้วก็ตาม จากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่ายอดขายแต่ละเดือนจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด บางเดือนยอดจะได้มากกว่า 200-300 ใบ บางเดือนได้มากได้น้อยแล้วแต่ ซึ่งวันนี้เรายังยืนยันเป้าหมายเดิม แต่หากถึงสิ้นปีแล้วทำไม่ได้จริงก็ต้องชี้แจงให้ได้ด้วยว่าเป็นเพราะเหตุใด
ด้านแผนงานในประเทศ จะเน้นทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ ให้กับองค์กร เปลี่ยนทัศนคติคนไทย ให้รู้จักอีลิทการ์ดมากขึ้น เช่น ผลกำไรที่ได้จากการดำเนินงาน ส่วนหนึ่งจะคืนให้กับสังคม ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ขององค์กร ที่ผ่านมายอมรับว่าคนไทยขาดการรับรู้ แต่บริษัทฯไม่มีแผนที่จะโฆษณาผ่านสื่อ
อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์นี้จะต้องได้ข้อสรุปแผนการตลาดของทีพีซีทั้งหมด เพื่อให้เดินหน้าต่อไป และต้องเห็นผลงานภายไตรมาสที่สามและสี่ปีนี้ งบประมาณที่จะทำกิจกรรมการตลาด จะยังคงที่ตัวเลขเดิม 400 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทฯไม่มีแผนปรับโครงสร้างองค์กรแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้แต่ละหน่วยงานทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายก่อน
แหล่งข่าวจาก บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิลเลจ คาร์ด จำกัด หรือทีพีซี ผู้บริหารโครงการอีลิทการ์ด เปิดเผยว่า ทีพีซีเตรียมเสนอแผนการทำงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร หรือบอร์ด ในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย. นี้ สาระสำคัญคือ บริษัทฯจะยังคงเป้าหมายยอดจำหน่ายบัตรอีลิทการ์ดไว้ที่ 800 ใบไว้ที่เดิม แต่จะหันมาปรับแผนการตลาด ทำงานเชิงรุกมากขึ้น ทั้งตลาดในและต่างประทศ รวมถึง การพิจารณา เพิ่มตัวแทนจำหน่ายในตลาดเป้าหมาย ที่คาดว่าจะมีกำลังซื้อสูง เช่น ประเทศในตะวันออกกลาง เป็นต้น
ที่ผ่านมา ทีพีซี ยังไม่เคยทำกิจกรรมการรุกตลาดเลย และไม่เคยมีการติตต่อสื่อสาร กับลูกค้าโดยตรง เพียงแต่ มีการทำร่วมกับคันทรี่พาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ และโรดโชว์เท่านั้น แต่ยังไม่เคยแจ้งข่าวสารให้สมาชิกได้รับทราบ เพราะฉะนั้น นับจากนี้ไป ทีพีซีจะเริ่มทำกิจกรรมกับสมาชิกบ้าง เพื่อให้สมาชิก เกิดความมั่นใจต่อบริษัทฯ และผู้ที่กำลังสนใจเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่
“เราต้องบอกให้เขารู้ว่า ทีพีซีเป็นบริษัทที่มั่นคง เราเดินหน้าทำงานต่อไป เพราะเรามีสมาชิกระดับวีไอพีอีที่ต้องรับผิอชอบอยู่แล้วกว่า 2,000 ราย ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนเข้ามาบริหารประเทศบริษัทฯก็จะทำงานต่อ และต้องยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งงบประมาณแผ่นดิน โดยการทำงานทั้งหมด จะร่วมกับทีมไทยแลนด์ และสถานกงสุลในต่างประเทศ” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับยอดขายบัตรอีลิท 800 ใบที่ตั้งไว้นั้น แม้ขณะนี้จะจำหน่ายได้เพียงไม่กี่ใบทั้ง
ที่ผ่านมา 5 เดือนแล้วก็ตาม จากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่ายอดขายแต่ละเดือนจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด บางเดือนยอดจะได้มากกว่า 200-300 ใบ บางเดือนได้มากได้น้อยแล้วแต่ ซึ่งวันนี้เรายังยืนยันเป้าหมายเดิม แต่หากถึงสิ้นปีแล้วทำไม่ได้จริงก็ต้องชี้แจงให้ได้ด้วยว่าเป็นเพราะเหตุใด
ด้านแผนงานในประเทศ จะเน้นทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ ให้กับองค์กร เปลี่ยนทัศนคติคนไทย ให้รู้จักอีลิทการ์ดมากขึ้น เช่น ผลกำไรที่ได้จากการดำเนินงาน ส่วนหนึ่งจะคืนให้กับสังคม ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ขององค์กร ที่ผ่านมายอมรับว่าคนไทยขาดการรับรู้ แต่บริษัทฯไม่มีแผนที่จะโฆษณาผ่านสื่อ
อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์นี้จะต้องได้ข้อสรุปแผนการตลาดของทีพีซีทั้งหมด เพื่อให้เดินหน้าต่อไป และต้องเห็นผลงานภายไตรมาสที่สามและสี่ปีนี้ งบประมาณที่จะทำกิจกรรมการตลาด จะยังคงที่ตัวเลขเดิม 400 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทฯไม่มีแผนปรับโครงสร้างองค์กรแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้แต่ละหน่วยงานทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายก่อน