เอเอฟพี - สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศแห่งสตอกโฮล์ม (เอสไอพีอาร์ไอ) เผยรายงานประจำปีเมื่อวันจันทร์ (9) ว่า ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์ และเฉพาะปีที่แล้วปีเดียวเพิ่ม 6 เปอร์เซ็นต์ โดยมีสหรัฐฯ ครองแชมป์ด้วยการใช้จ่ายด้านการทหารสูงสุดเทียบเป็นสัดส่วนได้ถึงเกือบครึ่งหนึ่งของโลก
ในปี 2007 ค่าใช้จ่ายด้านอาวุธและการทหารของทั่วโลกนั้นสูงถึง 1,339,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 2.5 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั่วโลก และหากคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัวของประชากรโลกที่มีอยู่ราว 6,600 ล้านคน ก็จะเท่ากับราวคนละ 202 ดอลลาร์
สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายดังกล่าวสูงที่สุด คือ 547,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว เท่ากับ 45 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลก ส่วนอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น มีการใช้จ่ายด้านการทหารสูงเป็นลำดับรองลงไป แต่อยู่ในราวสี่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์ของโลกเท่านั้น
รายงานยังระบุด้วยว่า "ปัจจัยผลักดันให้ค่าใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลกเพิ่มขึ้นก็คือ เป้าหมายเชิงนโยบายต่างประเทศของประเทศเหล่านั้น ตลอดจนการข่มขู่ทั้งที่เกิดขึ้นจริงและที่เข้าใจว่าเกิดขึ้น ความขัดแย้งทางการทหาร และนโยบายในการสนับสนุนปฏิบัติการรักษาสันติภาพที่ร่วมมือกันหลายฝ่าย รวมทั้งการมีทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่เพียงพอสำหรับการใช้จ่าย"
ภูมิภาคที่มีการใช้จ่ายด้านการทหารเติบโตสูงที่สุดคือยุโรปตะวันออก โดยเพิ่มถึง 162 เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างปี 1998-2007 และเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี 2006-2007
รัสเซียมีการใช้จ่ายด้านการทหารเติบโต 13 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว และคิดเป็น 86 เปอร์เซ็นต์ของการเติบโตในระดับภูมิภาค
ภูมิภาคอเมริกาเหนือมีการใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มขึ้น 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายดังกล่าวเพิ่มขึ้น 59 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่เหตุการณ์11 กันยายน 2001 และ "ในปี 2007 สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มสูงขึ้นกว่าครั้งใดๆ นับจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา"
ในทศวรรษที่ผ่านมา ตะวันออกกลางมีค่าใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่ม 62 เปอร์เซ็นต์ เอเชียใต้เพิ่ม 57 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเพิ่ม 51 เปอร์เซ็นต์เท่ากัน
ยุโรปตะวันตกเป็นภูมิภาคเดียวที่มีการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการทหารน้อยที่สุด คือ ราวหกเปอร์เซ็นต์ รองลงมาคืออเมริกากลาง 14 เปอร์เซ็นต์
ส่วนจีนมีค่าใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มสามเท่าตัวในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่เพราะอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงลิ่ว ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านนี้ถือเป็นภาระระดับแค่พอประมาณ คือ คิดเป็น 2.1 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี
ทั้งนี้ ยอดขายของบริษัทผลิตอาวุธชั้นนำ 100 แห่งทั่วโลก (ยกเว้นจีน) เพื่มพรวดเกือบ 9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2006 เทียบกับปีก่อนหน้าที่มียอดขายรวม 315,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่บริษัทอาวุธ 63 แห่งจาก 100 แห่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตก และเป็นผู้ทำยอดขายในปี 2006 ได้รวม 292,300 ล้านดอลลาร์
ในปี 2007 ค่าใช้จ่ายด้านอาวุธและการทหารของทั่วโลกนั้นสูงถึง 1,339,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 2.5 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั่วโลก และหากคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัวของประชากรโลกที่มีอยู่ราว 6,600 ล้านคน ก็จะเท่ากับราวคนละ 202 ดอลลาร์
สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายดังกล่าวสูงที่สุด คือ 547,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว เท่ากับ 45 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลก ส่วนอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น มีการใช้จ่ายด้านการทหารสูงเป็นลำดับรองลงไป แต่อยู่ในราวสี่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์ของโลกเท่านั้น
รายงานยังระบุด้วยว่า "ปัจจัยผลักดันให้ค่าใช้จ่ายด้านการทหารทั่วโลกเพิ่มขึ้นก็คือ เป้าหมายเชิงนโยบายต่างประเทศของประเทศเหล่านั้น ตลอดจนการข่มขู่ทั้งที่เกิดขึ้นจริงและที่เข้าใจว่าเกิดขึ้น ความขัดแย้งทางการทหาร และนโยบายในการสนับสนุนปฏิบัติการรักษาสันติภาพที่ร่วมมือกันหลายฝ่าย รวมทั้งการมีทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่เพียงพอสำหรับการใช้จ่าย"
ภูมิภาคที่มีการใช้จ่ายด้านการทหารเติบโตสูงที่สุดคือยุโรปตะวันออก โดยเพิ่มถึง 162 เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างปี 1998-2007 และเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี 2006-2007
รัสเซียมีการใช้จ่ายด้านการทหารเติบโต 13 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว และคิดเป็น 86 เปอร์เซ็นต์ของการเติบโตในระดับภูมิภาค
ภูมิภาคอเมริกาเหนือมีการใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มขึ้น 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายดังกล่าวเพิ่มขึ้น 59 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่เหตุการณ์11 กันยายน 2001 และ "ในปี 2007 สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มสูงขึ้นกว่าครั้งใดๆ นับจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา"
ในทศวรรษที่ผ่านมา ตะวันออกกลางมีค่าใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่ม 62 เปอร์เซ็นต์ เอเชียใต้เพิ่ม 57 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเพิ่ม 51 เปอร์เซ็นต์เท่ากัน
ยุโรปตะวันตกเป็นภูมิภาคเดียวที่มีการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการทหารน้อยที่สุด คือ ราวหกเปอร์เซ็นต์ รองลงมาคืออเมริกากลาง 14 เปอร์เซ็นต์
ส่วนจีนมีค่าใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มสามเท่าตัวในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่เพราะอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงลิ่ว ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านนี้ถือเป็นภาระระดับแค่พอประมาณ คือ คิดเป็น 2.1 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี
ทั้งนี้ ยอดขายของบริษัทผลิตอาวุธชั้นนำ 100 แห่งทั่วโลก (ยกเว้นจีน) เพื่มพรวดเกือบ 9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2006 เทียบกับปีก่อนหน้าที่มียอดขายรวม 315,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่บริษัทอาวุธ 63 แห่งจาก 100 แห่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตก และเป็นผู้ทำยอดขายในปี 2006 ได้รวม 292,300 ล้านดอลลาร์