00 ฉับพลันที่สิ้นเสียงคำแถลงมติคณะกรรมการตุลาการ(ก.ต.) รับ สุนัย มโนมัยอุดม จากเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.) กลับศาลยุติธรรมทำให้ได้ข้อคิด และมีข้อสังเกตมากมายต่างๆนานา
00 อย่างแรกมติของกต.ดังกล่าวเป็นมติเอกฉันท์ ไม่มีใครคัดค้านหรืองดออกเสียงแม้แต่คนเดียว สองไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่อง “บังเอิญ” หรือมีขั้นตอนอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่น่าสังเกตอย่างยิ่งก็คือมติที่ออกมาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ สุนัย กำลังถูกออกหมายจับ ถูกตามล่าอย่างหยามเกียรติ ผิดวิสัยของคนที่เป็นข้าราชการดับสูง และข้อหาที่ถูกยกขึ้นมาในการออกหมายจับก็คือ “หมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ที่เป็นผลพวงมาจากการทำคดีโกงชาติ โกงบ้านเมืองนั่นแหละ ไม่ใช่มีสาเหตุจากการไปเที่ยวยืนด่ากุ๊ยที่ไหน
00 ข้อสังเกตที่น่าสนใจและ “สะกิดใจ” ในคำแถลงอีกอย่างก็คือ ก.ต.เข้าใจในหนังสือชี้แจงเรื่องคดีต่างๆของสุนัยอย่างไร้ข้อสงสัย ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าทำไมทางตำรวจ “วังน้อย” ที่ทำคดีหมิ่นประมาททักษิณถึงไม่เข้าใจหนังสือชี้แจงของสุนัยจนต้องตามจับกุม พยายามล็อกตัวคาประตูเครื่องบิน ลักษณะกระเหี้ยนกระหือรือจนผิดปกติหรือไม่
00 นาทีนี้แม้ว่าในเรื่องของคดีหมิ่นประมาทแม้วจะต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งหลักการก็ต้องว่ากันไปไม่มีข้อยกเว้น ที่น่าจับตาก็คือการกลับคืนสู่ศาลยุติธรรมคราวนี้จะมานั่งในตำแหน่งอะไร เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอคงได้เห็นกัน แต่ด้วยชื่อชั้นเคยเป็นถึงระดับหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์มาก่อน กลับไปคราวนี้ก็ไม่น่าจะ “ดูเบา”
00 อย่างไรก็ดีกรณีที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะมองมุมไหนย่อมไม่ธรรมดาแน่ เพราะจากการตรวจสอบเบื้องลึกยังพบว่ามติ ก.ต.ที่ออกมามีขึ้นหลังจาก สุนัยทำหนังสือชี้แจงไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2551 หลังถูกตำรวจขอหมายจับเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2551 และในหนังสือชี้แจงครั้งนั้นได้อธิบายเกี่ยวกับที่มาที่ไปที่สำคัญชี้ให้เห็นว่าสาเหตุของเรื่องมาจากการตรวจสอบคดีทุจริตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดี “ซุกหุ้น” เอสซีแอสเซท นั่นเอง
00 และพื่อให้การปะติดปะต่อภาพจิ๊กซอร์ให้สมบูรณ์มากขึ้นก็ต้องบอกข้อมูลให้ตั้งเป็นข้อสงสัยไว้ก็คือวันที่ออกหมายจับ สุนัย เป็นวันที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) แบ่งงานให้ “พี่เขย” คือพล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงษ์” ดูแลคดีสำคัญทั้งหมด และในช่วงไล่เลี่ยกันยังบังเอิญอย่างยิ่งว่ามีคนเห็น “เป็ดเหลิม” ไปเดินท่อมๆอยู่แถวๆอยุธยาเสียด้วยซีครับพี่น้อง !!
00 ดังนั้นเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดสำคัญเข้าใกล้จะถึง “ไคลแม็กซ์” ทุกขณะ ก็อย่ากระพริบตาเป็นอันขาด กรณีของ สุนัย น่าจะเป็นอีกบทพิสูจน์ความเชื่อ ความศรัทธาที่มีมานานนมว่า “คนดีฟ้าย่อมคุ้มครอง” หรือคนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
00 อีกมุมหนึ่งย่อมเป็นสัญญาณว่า “ธรรมะ” ย่อมชนะ “อธรรม” เสมอ และเชื่อว่าอีกไม่นาน “คนชั่ว คนโกง” จะต้องรับกรรม ติดคุกอย่างแน่นอน อีกไม่นานเกินรอ !!
00 อย่างแรกมติของกต.ดังกล่าวเป็นมติเอกฉันท์ ไม่มีใครคัดค้านหรืองดออกเสียงแม้แต่คนเดียว สองไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่อง “บังเอิญ” หรือมีขั้นตอนอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่น่าสังเกตอย่างยิ่งก็คือมติที่ออกมาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ สุนัย กำลังถูกออกหมายจับ ถูกตามล่าอย่างหยามเกียรติ ผิดวิสัยของคนที่เป็นข้าราชการดับสูง และข้อหาที่ถูกยกขึ้นมาในการออกหมายจับก็คือ “หมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ที่เป็นผลพวงมาจากการทำคดีโกงชาติ โกงบ้านเมืองนั่นแหละ ไม่ใช่มีสาเหตุจากการไปเที่ยวยืนด่ากุ๊ยที่ไหน
00 ข้อสังเกตที่น่าสนใจและ “สะกิดใจ” ในคำแถลงอีกอย่างก็คือ ก.ต.เข้าใจในหนังสือชี้แจงเรื่องคดีต่างๆของสุนัยอย่างไร้ข้อสงสัย ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าทำไมทางตำรวจ “วังน้อย” ที่ทำคดีหมิ่นประมาททักษิณถึงไม่เข้าใจหนังสือชี้แจงของสุนัยจนต้องตามจับกุม พยายามล็อกตัวคาประตูเครื่องบิน ลักษณะกระเหี้ยนกระหือรือจนผิดปกติหรือไม่
00 นาทีนี้แม้ว่าในเรื่องของคดีหมิ่นประมาทแม้วจะต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งหลักการก็ต้องว่ากันไปไม่มีข้อยกเว้น ที่น่าจับตาก็คือการกลับคืนสู่ศาลยุติธรรมคราวนี้จะมานั่งในตำแหน่งอะไร เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอคงได้เห็นกัน แต่ด้วยชื่อชั้นเคยเป็นถึงระดับหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์มาก่อน กลับไปคราวนี้ก็ไม่น่าจะ “ดูเบา”
00 อย่างไรก็ดีกรณีที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะมองมุมไหนย่อมไม่ธรรมดาแน่ เพราะจากการตรวจสอบเบื้องลึกยังพบว่ามติ ก.ต.ที่ออกมามีขึ้นหลังจาก สุนัยทำหนังสือชี้แจงไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2551 หลังถูกตำรวจขอหมายจับเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2551 และในหนังสือชี้แจงครั้งนั้นได้อธิบายเกี่ยวกับที่มาที่ไปที่สำคัญชี้ให้เห็นว่าสาเหตุของเรื่องมาจากการตรวจสอบคดีทุจริตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดี “ซุกหุ้น” เอสซีแอสเซท นั่นเอง
00 และพื่อให้การปะติดปะต่อภาพจิ๊กซอร์ให้สมบูรณ์มากขึ้นก็ต้องบอกข้อมูลให้ตั้งเป็นข้อสงสัยไว้ก็คือวันที่ออกหมายจับ สุนัย เป็นวันที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) แบ่งงานให้ “พี่เขย” คือพล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงษ์” ดูแลคดีสำคัญทั้งหมด และในช่วงไล่เลี่ยกันยังบังเอิญอย่างยิ่งว่ามีคนเห็น “เป็ดเหลิม” ไปเดินท่อมๆอยู่แถวๆอยุธยาเสียด้วยซีครับพี่น้อง !!
00 ดังนั้นเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดสำคัญเข้าใกล้จะถึง “ไคลแม็กซ์” ทุกขณะ ก็อย่ากระพริบตาเป็นอันขาด กรณีของ สุนัย น่าจะเป็นอีกบทพิสูจน์ความเชื่อ ความศรัทธาที่มีมานานนมว่า “คนดีฟ้าย่อมคุ้มครอง” หรือคนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
00 อีกมุมหนึ่งย่อมเป็นสัญญาณว่า “ธรรมะ” ย่อมชนะ “อธรรม” เสมอ และเชื่อว่าอีกไม่นาน “คนชั่ว คนโกง” จะต้องรับกรรม ติดคุกอย่างแน่นอน อีกไม่นานเกินรอ !!