“สราวุธ” งดวิจารณ์กระแสข่าวหมายจับ คตส.

รองเลขาฯศาลยุติธรรม ย้ำ ศาลรับ “สุนัย มโนมัยอุดม” กลับปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษา เป็นไปตามกระบวนการปกติ ยันไม่ส่งผลคดีหมิ่น “ทักษิณ” ที่อาจจะเข้าสู่ศาล เพราะห้ามผู้พิพากษามีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวข้องทำคดีอยู่แล้ว ปฏิเสธออกความเห็นล่วงหน้ากรณีกระแสข่าวหมายจับ คตส.

วันนี้ (10 มิ.ย.) นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติให้รับ นายสุนัย มโนมัยอุดม ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กลับเข้าเป็นข้าราชการตุลาการ ว่า เป็นการพิจารณาตามกระบวนการปกติที่จะพิจารณารับผู้พิพากษากลับเข้ามาทำงาน ซึ่งก็ให้มาปฏิบัติหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดี ส่วนเรื่องที่ นายสุนัย ถูกศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับในคดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นการดำเนินคดีตามกระบวนการของศาลยุติธรรมที่ต้องให้เป็นไปตามกฎหมาย

ส่วนที่มีข้อกังวลว่า เมื่อ นายสุนัย กลับเข้ามาเป็นผู้พิพากษาแล้วจะมีผลต่อคดีหมิ่นประมาทที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งความไว้หรือไม่ หากคดีเข้าสู่ศาลและต้องมีการต่อสู้คดีในชั้นศาล นั้น นายสราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่โดยปกติศาลก็ระมัดระวังเรื่องความเป็นกลางอยู่แล้ว หากพบว่า ผู้พิพากษาคนใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ก็จะไม่ได้ถูกจัดให้เป็นผู้พิพากษาทำสำนวนคดีนั้นอยู่แล้ว ซึ่งศาลห้ามให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีอยู่แล้ว อีกทั้งทางปฏิบัติคู่ความในคดีก็สามารถคัดค้านได้ หรือกรณีที่ผู้พิพากษารู้ตัวก็ต้องถอนตัวจากการทำคดี ซึ่งถือเป็นมารยาทของผู้พิพากษาอยู่แล้ว

ส่วนจะดำรงตำแหน่งอะไร ก็ต้องเป็นหน้าที่ของอนุ ก.ต.จะพิจารณาตำแหน่งเสนอให้ที่ประชุม ก.ต.มีมติแต่งตั้ง และเนื่องจากเวลานี้การดำรงตำแหน่งของผู้พิพากษาก็อยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่อายุราชการผู้พิพากษาจาก 60 ปี เป็น 70 ปี ซึ่ง นายสุนัย ขณะนี้กำลังจะครบ 60 ปีก็อาจจะเลือกเป็นผู้พิพากษาอาวุโส หรือจะดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาจนครบ 70 ปีก็ได้

ต่อข้อถามที่ว่า หากมีผู้ยื่นคัดค้านการรับ นายสุนัย กลับมาดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาว่าขาดคุณสมบัตินั้น กระทำได้หรือไม่ นายสราวุธ กล่าวว่า ก็มีสิทธิยื่นได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา

ทั้งนี้ นายสราวุธ ยังกล่าวปฏิเสธถึงกรณีที่จะมีการขออกหมายจับ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ด้วยว่า หากมีการยื่นคำร้อง ก็เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องใช้ดุลยพินิจว่าจะออกหมายจับหรือไม่ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามครรลองของกฎหมาย ส่วนตนเองให้ความเห็นใดๆ ล่วงหน้าไม่ได้