ในที่สุดรัฐบาลก็ประจักษ์แจ้งแก่ใจว่าการใช้อันธพาลถ่อยข่มขู่คุกคามการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อพิทักษ์ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ล้มเหลวลงอย่างไม่เป็นท่า
เป็นความล้มเหลวที่ทำลายผลพวงของชัยชนะจากการเลือกตั้งไปจนหมดสิ้น แม้ว่ามันจะเป็นการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยการทุจริตและฉ้อฉลก็ตาม
เมื่อล้มเหลวลงแล้วก็เริ่มปรับปรุงเปลี่ยนแปลงท่าทีใหม่ จากการใช้อันธพาลมาเป็นใช้เกมกลมนต์มายาเพื่อทำให้เกิดความสับสนงุนงงสงสัย แล้วใช้กลไกสื่อมวลชนของรัฐโหมกระหน่ำเพื่อสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พูดง่าย ๆ ก็คือการใช้วิธีบู๊ไม่สำเร็จ จึงต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีบุ๋น แต่การเปลี่ยนมาใช้วิธีบุ๋นเช่นนี้ พวกฝ่ายบู๊หรือสายเหยี่ยวในรัฐบาลต่างก็ไม่ยินยอมพร้อมใจ
พวกหนึ่งประกาศจุดยืนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ต่อไป โดยไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น เพราะถือว่ามีเสียง ส.ส. อยู่ในมือกว่าร้อยคน เป็นผู้กุมความเป็นความตายของพรรคพลังประชาชน ใครไหนจะกล้าแหยม
พวกหนึ่งก็เห่าหอนข่มขู่ว่าจะใช้อำนาจรัฐตำรวจ อำนาจเถื่อน และอำนาจมืด เข้าปราบปรามประชาชน
จึงเกิดสภาพที่เป็นความขัดแย้งภายในพรรครัฐบาลระหว่างสายบู๊กับสายบุ๋น แต่ถึงกระนั้นก็มีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อสลายการชุมนุมของประชาชน และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของรัฐบาลหุ่นเชิดเพื่อฟื้นระบอบเผด็จการให้ยึดครองประเทศไทยโดยเบ็ดเสร็จต่อไป
การเคลื่อนไหวของสายบุ๋นเป็นไปอย่างคึกคักและน่าสนใจอย่างยิ่ง มันเป็นเกมกลอุบายที่ความจริงควรจะนำมาใช้กับข้าศึกศัตรู แต่มันก็กลับเอามาใช้กับประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างเหี้ยมโหดอำมหิต
การเคลื่อนไหวของสายบุ๋นที่ประจักษ์แล้วในวันนี้ที่สำคัญคือ
กระบวนหนึ่ง เป็นการสร้างสถานการณ์และโหมกระแสหุ้นตก รถติด ว่าเป็นความผิดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วการที่หุ้นตกนั้นเพราะไม่มีใครเชื่อถือตลาดหุ้นของประเทศไทย นักลงทุนต่างชาติพากันเทขายจ้าละหวั่น เพราะได้แลเห็นแล้วว่าอำนาจเผด็จการกำลังก่อตัวขึ้นอย่างกว้างขวาง
อำนาจเผด็จการแบบนี้นักลงทุนล้วนเข็ดขยาด เพราะมันสามารถยึดกิจการ รีดไถ และกดขี่ข่มเหงอย่างไรก็ได้
แหล่งที่น่าลงทุนในโลกนี้มีมากมายให้เลือก จึงเผ่นหนีเสียก่อนจะดีกว่า นี่คือสาเหตุของการที่หุ้นตก
ส่วนรถติดนั้นมันติดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และรัฐบาลก็ได้ใช้เหตุผลนี้ในการประพฤติตนเป็นขอทานอยากนอนตึก ด้วยการเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจก โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน
คิดว่าจะหลอกลวงประชาชนได้ แต่ในที่สุดก็หลอกไม่ได้เพราะถูกจับได้ไล่ทันว่าเที่ยวไปเกณฑ์เด็กนักเรียนบ้าง พ่อค้าแม่ค้าบ้าง ให้มาช่วยพูดจาว่ารถติดเพราะพันธมิตรฯ ชุมนุม
จนครูบาอาจารย์และผู้บริหารหลายโรงเรียนต้องนำความมาบอกเล่าให้ผู้ที่ชุมนุมอยู่ได้รู้ว่ามีการใช้อำนาจบีบบังคับเพื่อหลอกลวงประชาชนได้ถึงเพียงนี้!
กระบวนหนึ่ง ใช้ตำรวจเป็นกระบอกเสียงทำสงครามจิตวิทยาว่าตำรวจเหนื่อย ตำรวจเพลีย เพราะต้องมาดูแลความปลอดภัยของประชาชน แล้วยังออกความเห็นส่งเดชว่าการชุมนุมมีเสียงดังจึงไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ เป็นการผิดต่อรัฐธรรมนูญ
เป็นการเปิดหน้ากากรัฐตำรวจให้ผู้คนเห็นอย่างล่อนจ้อนโดยไม่รู้สึกตัว เหมือนกับการแก้ผ้าให้ปวงประชาได้แลเห็น
เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าที่ผ่านมานั้นตำรวจไม่ได้ดูแลความปลอดภัยของประชาชน ละเว้นหน้าที่ ปล่อยให้อันธพาลไล่ขว้าง ไล่ทุบ ไล่ตีและทำร้ายประชาชนแม้ใจกลางพระนคร
ที่มายืนเฝ้าเวรยามอยู่บ้างก็เพื่อสกัดกั้นขัดขวางการเคลื่อนไหวและสืบข่าวคราวเท่านั้น ยังไม่มีใครยอมรับนับถือว่านี่คือการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน
ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจไม่ใช่หรือที่จะต้องดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน แล้วจะมาบ่นทำไม! ไม่คิดบ้างหรือว่าประชาชนเขาอดหลับอดนอน ตากแดด ตากฝนจนสุดแสนจะทรมาน เพื่อให้เกิดความถูกต้อง เพื่อพิทักษ์รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์นั้นเขาก็อดหลับอดนอนยิ่งกว่าตำรวจเสียอีก
กระบวนหนึ่ง เป็นกระบวนที่ทำทีท่าว่ารักสงบสันติเสียเต็มประดา เปิดฉากเคลื่อนไหวภายใต้ธงคำขวัญว่าอย่าใช้ความรุนแรง ให้ถอยคนละก้าว
ทำตัวเป็นพระปางห้ามญาติไปแล้ว!
กระบวนนี้ใช้นักวิชาการที่ไม่เคยเคลื่อนไหวร่วมต่อสู้กับประชาชนและเป็นที่รู้ดีกันด้วยว่าหัวโจกจำนวนหนึ่งเป็นลูกจ้างหรือได้รับผลประโยชน์อยู่กับกลุ่มธุรกิจของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง
เป็นทาสรับใช้ของกลุ่มการเมืองที่ประชาชนกำลังคัดค้านต่อต้านและต้องการโค่นล้มนั่นเอง แต่กลับแฝงกายมาในคราบนักวิชาการผู้รักสันติ เชิญชวนว่าอย่าใช้ความรุนแรง ให้ถอยคนละก้าว
ไม่ต่างอะไรกับโจรเอาผ้ากาสาวพัสตร์ไปคลุมตัว แล้วเที่ยวหลอกหลอนสอนสั่งผู้คนว่าบ้านเมืองสุขสงบปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกวดขันป้องกันโจรอีกต่อไป ในขณะที่ผลแท้จริงคือเปิดประตูให้โจรปล้นบ้านปล้นเมืองหนักกว่าเก่าเสียอีก
คนพวกนี้ดูถูกประชาชนว่ารู้ไม่เท่าทัน และความจริงก็ได้เปิดเผยพิรุธให้เห็นอย่างเด่นชัดหลายประการ เช่น
ประการหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มอันธพาลไล่ทุบไล่ตีทำร้ายประชาชน พวกมารขาวพวกนี้กลับหลบหัวหลบหาง ไม่พูด ไม่จา ไม่ทักท้วง ไม่ตำหนิติเตียน และไม่เคยเรียกร้องให้พวกอันธพาลหยุดใช้ความรุนแรงกับประชาชน
ประการหนึ่ง ในขณะที่ฆาตกรกระหายเลือดออกมาข่มขู่ว่าจะสลายม็อบปราบปรามประชาชน พวกมารขาวพวกนี้กลับเงียบกริบ ไม่เคยทักท้วงหรือห้ามปรามหรือประณามพวกกระหายเลือดว่าอย่าใช้ความรุนแรง
ประการหนึ่ง ในขณะที่นักการเมืองสายเหยี่ยวระดับโฆษกพรรคสนับสนุนให้สลายการชุมนุมของประชาชน พวกมารขาวพวกนี้ก็เงียบกริบ ซึ่งต้องถือว่าเห็นด้วยและสนับสนุนกับข้อเรียกร้องให้ปราบปรามประชาชนนั้น
ประการหนึ่ง การเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวของพวกมารขาวไปโผล่หางที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยการเกณฑ์นักเรียนมาผูกริบบิ้นขาวกันเป็นการใหญ่ ซึ่งคนในพื้นที่ก็รู้กันดีว่าใครเป็นคนต้นคิดต้นสั่งและออกค่าใช้จ่าย
ด้วยประการเหล่านี้ก็เห็นได้ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวริบบิ้นขาว ถอยคนละก้าว และคัดค้านความรุนแรงนั้นเป็นเพียงการเคลื่อนไหวของมารขาว ภายใต้กลอุบายฝ่ายบุ๋นของนักการเมืองเท่านั้น
มันไม่ได้เรียกร้องให้พวกกระหายเลือดหยุดทำร้ายประชาชนแต่ประการใดเลย แล้วที่บอกว่าถอยคนละก้าวนั้น แท้จริงแล้วก็คือเรียกร้องให้พันธมิตรฯ สลายการชุมนุม ในขณะที่การฉีกรัฐธรรมนูญก็ยังคงเดินหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง
และถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าการลาออกจากตำแหน่งของนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นจริงหรือไม่ มีผลแล้วหรือไม่ หรือว่ายังไม่มีผลประการใด หรือว่าเป็นมายาหลอก ลวงแบบเดียวกับการหลอกลวงเรื่องการทำให้ญัตติฉีกรัฐธรรมนูญตกไปโดยที่ยังไม่ได้ตกไปแต่ประการใด
ดังนั้นการเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวของพวกมารกระดูกขาวหรือมารขาวในคราวนี้เนื้อแท้ของมันก็คือสนับสนุนและยืนข้างรัฐบาลหุ่นเชิด มีเป้าหมายเพื่อสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น
ผลของมันไม่ต่างกับการสลายม็อบด้วยการปราบปรามแต่ประการใดเลย และความจริงอาจจะหนักหนาสาหัสกว่าการปราบปรามด้วยอาวุธเสียอีก
เพราะด้านหนึ่ง มันทำลายจิตวิญญาณในการต่อสู้เพื่อพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของปวงประชาผู้จงรักภักดี และอีกด้านหนึ่งก็คือการใส่ร้ายป้ายสีทำลายความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวต่อสู้ของผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทั้งมวล
การเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวของพวกมารกระดูกขาวหรือพวกมารขาว โดยผลที่แท้จริงก็คือการสนับสนุนระบอบเผด็จการทรราช ที่หมายเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั่นเอง
จึงต้องช่วยกันฉีกหน้ากากพวกมารกระดูกขาวเหล่านี้ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในหมู่ประชาชน
ว่าการเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวนั้นแท้จริงแล้วก็คือการเคลื่อนไหวของโจรที่เอาผ้ากาสาวพัสตร์มาคลุมตัวเท่านั้น
มันเป็นการเคลื่อนไหวที่หลอกลวงและบิดเบือนอย่างแท้จริง เพราะเป็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องผู้ใฝ่สันติให้หยุดใช้ความรุนแรง แต่ไม่ได้เรียกร้องพวกอันธพาลหรือพวกกระหายเลือดให้หยุดใช้ความรุนแรง
มันเป็นการเคลื่อนไหวที่หลอกลวงและบิดเบือนอย่างแท้จริง เพราะฝ่ายหนึ่งไม่เคยถอยอะไรเลย ยิ่งกว่านั้นยังแผ่อาณาจักรและสยายกรงเล็บปีศาจข่มขู่คุกคามจนเกือบจะปราบดาภิเษกได้สำเร็จอยู่แล้ว
การเคลื่อนไหวของพวกมารกระดูกขาวหรือการเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวในคราวนี้จึงเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อไว้ทุกข์ไว้อาลัยให้แก่ประเทศไทยและคนไทยทั้งมวล
ริบบิ้นขาวจึงกลายเป็นสิ่งอัปมงคลเหมือนกับเสื้อขาวหรือผ้าขาวหรือเครื่องขาวทั้งปวงที่ใช้ในงานศพชาวจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนเท่านั้น
ผู้หวังความมงคลต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความสวัสดีในชีวิตตนเองและครอบครัวจึงต้องไม่หลงมนต์มายาของพวกมารกระดูกขาว ทำพิธีกงเต๊กให้กับตนเองหรือครอบครัวของตนเองเป็นอันขาด.
เป็นความล้มเหลวที่ทำลายผลพวงของชัยชนะจากการเลือกตั้งไปจนหมดสิ้น แม้ว่ามันจะเป็นการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยการทุจริตและฉ้อฉลก็ตาม
เมื่อล้มเหลวลงแล้วก็เริ่มปรับปรุงเปลี่ยนแปลงท่าทีใหม่ จากการใช้อันธพาลมาเป็นใช้เกมกลมนต์มายาเพื่อทำให้เกิดความสับสนงุนงงสงสัย แล้วใช้กลไกสื่อมวลชนของรัฐโหมกระหน่ำเพื่อสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พูดง่าย ๆ ก็คือการใช้วิธีบู๊ไม่สำเร็จ จึงต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีบุ๋น แต่การเปลี่ยนมาใช้วิธีบุ๋นเช่นนี้ พวกฝ่ายบู๊หรือสายเหยี่ยวในรัฐบาลต่างก็ไม่ยินยอมพร้อมใจ
พวกหนึ่งประกาศจุดยืนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ต่อไป โดยไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น เพราะถือว่ามีเสียง ส.ส. อยู่ในมือกว่าร้อยคน เป็นผู้กุมความเป็นความตายของพรรคพลังประชาชน ใครไหนจะกล้าแหยม
พวกหนึ่งก็เห่าหอนข่มขู่ว่าจะใช้อำนาจรัฐตำรวจ อำนาจเถื่อน และอำนาจมืด เข้าปราบปรามประชาชน
จึงเกิดสภาพที่เป็นความขัดแย้งภายในพรรครัฐบาลระหว่างสายบู๊กับสายบุ๋น แต่ถึงกระนั้นก็มีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อสลายการชุมนุมของประชาชน และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของรัฐบาลหุ่นเชิดเพื่อฟื้นระบอบเผด็จการให้ยึดครองประเทศไทยโดยเบ็ดเสร็จต่อไป
การเคลื่อนไหวของสายบุ๋นเป็นไปอย่างคึกคักและน่าสนใจอย่างยิ่ง มันเป็นเกมกลอุบายที่ความจริงควรจะนำมาใช้กับข้าศึกศัตรู แต่มันก็กลับเอามาใช้กับประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างเหี้ยมโหดอำมหิต
การเคลื่อนไหวของสายบุ๋นที่ประจักษ์แล้วในวันนี้ที่สำคัญคือ
กระบวนหนึ่ง เป็นการสร้างสถานการณ์และโหมกระแสหุ้นตก รถติด ว่าเป็นความผิดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วการที่หุ้นตกนั้นเพราะไม่มีใครเชื่อถือตลาดหุ้นของประเทศไทย นักลงทุนต่างชาติพากันเทขายจ้าละหวั่น เพราะได้แลเห็นแล้วว่าอำนาจเผด็จการกำลังก่อตัวขึ้นอย่างกว้างขวาง
อำนาจเผด็จการแบบนี้นักลงทุนล้วนเข็ดขยาด เพราะมันสามารถยึดกิจการ รีดไถ และกดขี่ข่มเหงอย่างไรก็ได้
แหล่งที่น่าลงทุนในโลกนี้มีมากมายให้เลือก จึงเผ่นหนีเสียก่อนจะดีกว่า นี่คือสาเหตุของการที่หุ้นตก
ส่วนรถติดนั้นมันติดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และรัฐบาลก็ได้ใช้เหตุผลนี้ในการประพฤติตนเป็นขอทานอยากนอนตึก ด้วยการเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจก โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน
คิดว่าจะหลอกลวงประชาชนได้ แต่ในที่สุดก็หลอกไม่ได้เพราะถูกจับได้ไล่ทันว่าเที่ยวไปเกณฑ์เด็กนักเรียนบ้าง พ่อค้าแม่ค้าบ้าง ให้มาช่วยพูดจาว่ารถติดเพราะพันธมิตรฯ ชุมนุม
จนครูบาอาจารย์และผู้บริหารหลายโรงเรียนต้องนำความมาบอกเล่าให้ผู้ที่ชุมนุมอยู่ได้รู้ว่ามีการใช้อำนาจบีบบังคับเพื่อหลอกลวงประชาชนได้ถึงเพียงนี้!
กระบวนหนึ่ง ใช้ตำรวจเป็นกระบอกเสียงทำสงครามจิตวิทยาว่าตำรวจเหนื่อย ตำรวจเพลีย เพราะต้องมาดูแลความปลอดภัยของประชาชน แล้วยังออกความเห็นส่งเดชว่าการชุมนุมมีเสียงดังจึงไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ เป็นการผิดต่อรัฐธรรมนูญ
เป็นการเปิดหน้ากากรัฐตำรวจให้ผู้คนเห็นอย่างล่อนจ้อนโดยไม่รู้สึกตัว เหมือนกับการแก้ผ้าให้ปวงประชาได้แลเห็น
เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าที่ผ่านมานั้นตำรวจไม่ได้ดูแลความปลอดภัยของประชาชน ละเว้นหน้าที่ ปล่อยให้อันธพาลไล่ขว้าง ไล่ทุบ ไล่ตีและทำร้ายประชาชนแม้ใจกลางพระนคร
ที่มายืนเฝ้าเวรยามอยู่บ้างก็เพื่อสกัดกั้นขัดขวางการเคลื่อนไหวและสืบข่าวคราวเท่านั้น ยังไม่มีใครยอมรับนับถือว่านี่คือการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน
ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจไม่ใช่หรือที่จะต้องดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน แล้วจะมาบ่นทำไม! ไม่คิดบ้างหรือว่าประชาชนเขาอดหลับอดนอน ตากแดด ตากฝนจนสุดแสนจะทรมาน เพื่อให้เกิดความถูกต้อง เพื่อพิทักษ์รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์นั้นเขาก็อดหลับอดนอนยิ่งกว่าตำรวจเสียอีก
กระบวนหนึ่ง เป็นกระบวนที่ทำทีท่าว่ารักสงบสันติเสียเต็มประดา เปิดฉากเคลื่อนไหวภายใต้ธงคำขวัญว่าอย่าใช้ความรุนแรง ให้ถอยคนละก้าว
ทำตัวเป็นพระปางห้ามญาติไปแล้ว!
กระบวนนี้ใช้นักวิชาการที่ไม่เคยเคลื่อนไหวร่วมต่อสู้กับประชาชนและเป็นที่รู้ดีกันด้วยว่าหัวโจกจำนวนหนึ่งเป็นลูกจ้างหรือได้รับผลประโยชน์อยู่กับกลุ่มธุรกิจของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง
เป็นทาสรับใช้ของกลุ่มการเมืองที่ประชาชนกำลังคัดค้านต่อต้านและต้องการโค่นล้มนั่นเอง แต่กลับแฝงกายมาในคราบนักวิชาการผู้รักสันติ เชิญชวนว่าอย่าใช้ความรุนแรง ให้ถอยคนละก้าว
ไม่ต่างอะไรกับโจรเอาผ้ากาสาวพัสตร์ไปคลุมตัว แล้วเที่ยวหลอกหลอนสอนสั่งผู้คนว่าบ้านเมืองสุขสงบปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกวดขันป้องกันโจรอีกต่อไป ในขณะที่ผลแท้จริงคือเปิดประตูให้โจรปล้นบ้านปล้นเมืองหนักกว่าเก่าเสียอีก
คนพวกนี้ดูถูกประชาชนว่ารู้ไม่เท่าทัน และความจริงก็ได้เปิดเผยพิรุธให้เห็นอย่างเด่นชัดหลายประการ เช่น
ประการหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มอันธพาลไล่ทุบไล่ตีทำร้ายประชาชน พวกมารขาวพวกนี้กลับหลบหัวหลบหาง ไม่พูด ไม่จา ไม่ทักท้วง ไม่ตำหนิติเตียน และไม่เคยเรียกร้องให้พวกอันธพาลหยุดใช้ความรุนแรงกับประชาชน
ประการหนึ่ง ในขณะที่ฆาตกรกระหายเลือดออกมาข่มขู่ว่าจะสลายม็อบปราบปรามประชาชน พวกมารขาวพวกนี้กลับเงียบกริบ ไม่เคยทักท้วงหรือห้ามปรามหรือประณามพวกกระหายเลือดว่าอย่าใช้ความรุนแรง
ประการหนึ่ง ในขณะที่นักการเมืองสายเหยี่ยวระดับโฆษกพรรคสนับสนุนให้สลายการชุมนุมของประชาชน พวกมารขาวพวกนี้ก็เงียบกริบ ซึ่งต้องถือว่าเห็นด้วยและสนับสนุนกับข้อเรียกร้องให้ปราบปรามประชาชนนั้น
ประการหนึ่ง การเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวของพวกมารขาวไปโผล่หางที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยการเกณฑ์นักเรียนมาผูกริบบิ้นขาวกันเป็นการใหญ่ ซึ่งคนในพื้นที่ก็รู้กันดีว่าใครเป็นคนต้นคิดต้นสั่งและออกค่าใช้จ่าย
ด้วยประการเหล่านี้ก็เห็นได้ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวริบบิ้นขาว ถอยคนละก้าว และคัดค้านความรุนแรงนั้นเป็นเพียงการเคลื่อนไหวของมารขาว ภายใต้กลอุบายฝ่ายบุ๋นของนักการเมืองเท่านั้น
มันไม่ได้เรียกร้องให้พวกกระหายเลือดหยุดทำร้ายประชาชนแต่ประการใดเลย แล้วที่บอกว่าถอยคนละก้าวนั้น แท้จริงแล้วก็คือเรียกร้องให้พันธมิตรฯ สลายการชุมนุม ในขณะที่การฉีกรัฐธรรมนูญก็ยังคงเดินหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง
และถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าการลาออกจากตำแหน่งของนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นจริงหรือไม่ มีผลแล้วหรือไม่ หรือว่ายังไม่มีผลประการใด หรือว่าเป็นมายาหลอก ลวงแบบเดียวกับการหลอกลวงเรื่องการทำให้ญัตติฉีกรัฐธรรมนูญตกไปโดยที่ยังไม่ได้ตกไปแต่ประการใด
ดังนั้นการเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวของพวกมารกระดูกขาวหรือมารขาวในคราวนี้เนื้อแท้ของมันก็คือสนับสนุนและยืนข้างรัฐบาลหุ่นเชิด มีเป้าหมายเพื่อสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น
ผลของมันไม่ต่างกับการสลายม็อบด้วยการปราบปรามแต่ประการใดเลย และความจริงอาจจะหนักหนาสาหัสกว่าการปราบปรามด้วยอาวุธเสียอีก
เพราะด้านหนึ่ง มันทำลายจิตวิญญาณในการต่อสู้เพื่อพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของปวงประชาผู้จงรักภักดี และอีกด้านหนึ่งก็คือการใส่ร้ายป้ายสีทำลายความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวต่อสู้ของผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทั้งมวล
การเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวของพวกมารกระดูกขาวหรือพวกมารขาว โดยผลที่แท้จริงก็คือการสนับสนุนระบอบเผด็จการทรราช ที่หมายเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั่นเอง
จึงต้องช่วยกันฉีกหน้ากากพวกมารกระดูกขาวเหล่านี้ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในหมู่ประชาชน
ว่าการเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวนั้นแท้จริงแล้วก็คือการเคลื่อนไหวของโจรที่เอาผ้ากาสาวพัสตร์มาคลุมตัวเท่านั้น
มันเป็นการเคลื่อนไหวที่หลอกลวงและบิดเบือนอย่างแท้จริง เพราะเป็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องผู้ใฝ่สันติให้หยุดใช้ความรุนแรง แต่ไม่ได้เรียกร้องพวกอันธพาลหรือพวกกระหายเลือดให้หยุดใช้ความรุนแรง
มันเป็นการเคลื่อนไหวที่หลอกลวงและบิดเบือนอย่างแท้จริง เพราะฝ่ายหนึ่งไม่เคยถอยอะไรเลย ยิ่งกว่านั้นยังแผ่อาณาจักรและสยายกรงเล็บปีศาจข่มขู่คุกคามจนเกือบจะปราบดาภิเษกได้สำเร็จอยู่แล้ว
การเคลื่อนไหวของพวกมารกระดูกขาวหรือการเคลื่อนไหวริบบิ้นขาวในคราวนี้จึงเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อไว้ทุกข์ไว้อาลัยให้แก่ประเทศไทยและคนไทยทั้งมวล
ริบบิ้นขาวจึงกลายเป็นสิ่งอัปมงคลเหมือนกับเสื้อขาวหรือผ้าขาวหรือเครื่องขาวทั้งปวงที่ใช้ในงานศพชาวจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนเท่านั้น
ผู้หวังความมงคลต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความสวัสดีในชีวิตตนเองและครอบครัวจึงต้องไม่หลงมนต์มายาของพวกมารกระดูกขาว ทำพิธีกงเต๊กให้กับตนเองหรือครอบครัวของตนเองเป็นอันขาด.