วานนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่าเวลา 16.10 น.ศูนย์วิทยุนครฯ ซึ่งเป็นศูนย์วิทยุควบคุมข่ายการสื่อสารของทุกสถานีตำรวจในทุกอำเภอของจ.นครศรีธรรมราช ได้ออกคำสั่งด่วนให้ทุกสถานีตำรวจ โดยเฉพาะห้องคดีที่ดูแลเกี่ยวกับสถิติ และการเก็บสำนวนคดี ทุกประเภทให้เร่งตรวจสอบคดีย้อนหลังไปจนถึงปี 2548 ในส่วนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ หรือไม่
โดยเฉพาะ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสมศักดิ์ โกสัยสุข, นายพิภพ ธงชัย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งในการสั่งการนั้นให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อมูลอย่างเร่งด่วน และรายงานผลการดำเนินคดีหรือขั้นตอนการดำเนินคดีทันที
แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า การสั่งการนั้นได้มีการสั่งการมาเป็นลำดับ ซึ่งจุดประสงค์ที่มีการค้นหาคดีนั้นเพื่อต้องการรื้อ และเอาผิดกับแกนนำหากมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ และต้องการรวบรวมคดีที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด เพื่อที่พร้อมจะดำเนินการกับแกนนำพันธมิตรฯทันที หากมีการสั่งการ และมีแนวโน้มว่าจะมีการจู่โจมเข้าจับกุมแกนนำพันธมิตรฯในช่วงที่การชุมนุมมีคนน้อย ก่อนที่จะถึงวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าคนจะเข้าร่วมมากขึ้นกว่าเดิม
**สงขลาเคลื่อนพลเข้ากรุงอีกศุกร์นี้
นายสุมิตร นวลมณี หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯสงขลา พร้อมที่จะสนับสนุนประชาชนเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสัปดาห์นี้ ซึ่งประชาชนได้แจ้งชื่อขอร่วมเดินทาง ณ กองอำนวยการพันธมิตรฯ ลานสถานีรถไฟหาดใหญ่ทุกวัน รวมยอดถึงขณะนี้กว่า 100 รายแล้ว โดยจะเริ่มเดินทางในวันพฤหัสฯที่ 5 มิ.ย. เพื่อร่วมปักหลักกับพี่น้องทั่วประเทศ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นเวลา 3 วัน
"ตอนนี้ประชาชนที่กลับมาจากชุมนุมใหญ่ เตรียมตัวจะกลับขึ้นไปร่วมชุมนุมอีกรอบ หลังจากที่เคลียร์ธุระส่วนตัวแล้ว โดยจะคอยเป็นแกนนำในการดูแลผู้ร่วมชุมนุมรายใหม่ที่ประสงค์จะเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งมีสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยพันธมิตรฯได้รับเงินบริจาคจากประชาชนในแต่ละวันมาเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไป-กลับให้กับผู้ที่มาลงชื่อร่วมชุมนุมเพื่อสนับสนุนพันธมิตรฯ ที่ปักหลักชุมนุมที่กรุงเทพฯ อีกทางหนึ่ง" นายสุมิตรกล่าว
สำหรับลานประวัติศาสตร์การเมือง หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ กลุ่มพันธมิตรฯสงขลา ยังถือเป็นศูนย์รวมความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยยังคงถ่ายทอดสดช่อง NEWS1 ของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV และถ่ายทอดเสียงผ่านสถานีวิทยุกรรมกร FM 102.75 MHz ตลอด 24 ชั่วโมง ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ซึ่งควบคู่กับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ
ตลอดทั้งวันก็จะมีประชาชนแวะเวียนเข้ามารับชม ส่วนบรรยากาศกลางคืนหลังเลิกงานแล้วก็จะมีประชาชนมาร่วมชมเป็นจำนวนมาก และอยู่จนกว่าแกนนำพันธมิตรฯ จะขึ้นเวทีปราศรัยเสร็จ หรือได้ฟังนักวิชาการฝีปากกล้าร่วมแฉเบื้องหลังการทุจริต จึงจะทยอยกลับบ้านเพื่อพักผ่อน
นายเอกชัย อิสระทะ โฆษกพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า จุดยืนของพันธมิตรฯสงขลานั้นอยู่เคียงข้างกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือร่วมขจัดระบอบทักษิณ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศไทย ในเรื่องการทุจริต คอร์รัปชั่น รวมถึงต่อต้านรัฐบาลซึ่งเป็นนอมินี ที่พยายามรับใช้และช่วยเหลือระบอบทักษิณ ให้ฟื้นอีกครั้ง
นายเอกชัย กล่าวด้วยว่า แม้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี จะลาออก หรือญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จะตกไป แต่ภารกิจของพันธมิตรฯ ก็ยังไม่บรรลุ เพราะยังไม่สามารถล้มระบอบทักษิณได้ จึงต้องยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป
นายเอกชัย ยังกล่าวถึง การโหมกระแสริบบิ้นสีขาว ทำให้ประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารโดยตลอด เกิดความสับสน อีกทั้งสื่อสาธารณะบางส่วนไม่ได้เสนอข่าวครอบคลุมทั้งหมด แต่เลือกเสนอตามกระแส และบางประเด็น พันธมิตรฯ จึงต้องชี้แจงให้ประชาชนมีความเข้าใจ ยกเว้นประเด็นปัญหาเศรษฐกิจ ที่ประชาชนได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า จากการไม่แก้ปัญหาของรัฐบาล
"สถานการณ์ใน จ.สงขลา ประชาชนส่วนใหญ่ตื่นตัวที่จะติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด และเข้าใจในจุดยืนของพันธมิตรฯ แต่ก็ยังเป็นห่วงที่อื่นๆ ซึ่งต้องทำความเข้าใจ และหากทุกคนรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้เท่าๆ กัน กระแสของพันธมิตรฯ ก็จะกลับมาแรงขึ้นอีกครั้ง"นายเอกชัย กล่าว
**พันธมิตรฯตะวันออกพับนกสีเหลืองสู้
นายสุทธิ อัชฌาศัย กลุ่มเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรในภาคตะวันออก ต้องการเชิญชวนประชาชนในภาคตะวันออก และประชาชนชาวไทยทุกคนร่วมแสดงสัญลักษณ์อันเป็นจุดยืนภายใต้ สันติภาพ แห่งเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น "เมืองไทยจะสงบสุขได้..ถ้าไร้ระบอบทักษิณ" ด้วยการพับนกกระดาษสีเหลือง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ อันแสดงถึงสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็น ของชาวไทยอย่างสันติ สงบ และไม่ต้องการความรุนแรงเพื่อให้เมืองไทยดำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของประชาชนในประเทศไทย
โอกาสนี้ ขอเชิญชวนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ช่วยกันพับนกกระดาษสีเหลือง ให้เป็นสัญลักษณ์ต่อการแสดงความเห็น "เมืองไทยสงบสุขได้..ถ้าไร้ระบอบทักษิณ" และสนับสนุนการชุมนุมโดยสงบ ของพันธมิตรฯ ด้วยการแขวนนกสีเหลืองไว้ที่หน้าบ้านและนำมามอบให้กับเวทีพันธมิตรฯ ที่ สะพานมัฆวาน
นายโสภณ ขำวงษ์ พ่อค้าขายหมู ที่ตลาดสด อ.ขลุง จ.จันทบุรี หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ จันทบุรี กล่าวว่า พันธมิตรฯจันทบุรี เตรียมตัวเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันศุกร์นี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า รู้สึกทนไม่ได้ที่เห็นความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมในสังคม ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากระบอบทักษิณ จึงมาร่วมแสดงพลังเพื่อสร้างความถูกต้องในสังคม และเห็นว่า แกนนำพันธมิตรฯ ทำ ในสิ่งที่ถูก ที่ควร จึงต้องมาให้กำลังใจ
**พันธมิตรฯชัยภูมิเปิดเวทีคู่ขนาน
ที่บริเวณลานคนเมือง สวนกาญจนาภิเษก หน้าศาลากลาง (หลังใหม่) จ.ชัยภูมิ กลุ่มพันธมิตรฯชัยภูมิ สมัชชาประชาชนแห่งประทศไทย จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยยามเฝ้าแผ่นดินชัยภูมิ และภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ได้ร่วมกันเปิดเวทีสาธารณะการเมืองภาคประชาชน "ประชาชนเจ้าของประเทศ สำแดงตน แก้วิกฤตชาติ" ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 และเข้าสู่วันที่ 6 วานนี้ (4 มิ.ย.)
ทั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีคู่ขนาน เพื่อขยายแนวร่วมและ สนับสนุนการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ ที่เชิงสะพานมัฆวานฯ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา และยืนยันจะตั้งเวทีคู่ขนานอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย คือล้มระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลอันธพาลหุ่นเชิด เพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ ภายใต้การปกระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยได้กางเต็นท์ ติดตั้งทีวี และจอโปรเจกเตอร์ ถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ จากกรุงเทพฯผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ให้ประชาชนชาวชัยภูมิ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน ตั้งแต่เวลา 18.00-02.00 น. ของวันใหม่
**คนอุบลฯอยากเห็นแม้วขึ้นศาล
ผู้สื่อข่าว จ.อุบลราชธานี ได้สำรวจความเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน โดยนายองอาจ ชายฉลาด เจ้าของร้านตี๋ไข่สด ผู้ค้าส่งไข่ไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองวารินชำราบ ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ทางการเมืองไม่ใช่ปัจจัยหลักทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ แต่น้ำมัน คือ กลไกที่ทำให้สินค้าขึ้นราคา ดังนั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ จึงไม่ได้ส่งผลต่อภาวะทางเศรษฐกิจ
"สำหรับข่าวสารการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ผมติดตามผ่านสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี ตลอด เพราะเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ให้ข้อมูลได้ตรงที่สุด และเป็นสถานีที่คอยดักคอ เปิดโปงพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของนักการเมืองและรัฐบาล ทำให้รัฐบาลทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ แต่ชาวบ้านได้ประโยชน์ ได้ทราบเรื่องที่ไม่เคยทราบมาก่อนหลายเรื่อง สำหรับที่ไม่เปิดรับข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี เพราะมีการนำเสนอข่าวแบบ กั๊กๆ ไม่กล้าแฉความจริงให้ประชาชนทราบ ซึ่งอาจมีปัจจัยถูกควบคุมจากรัฐบาล จึงปฏิเสธไม่รับข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์แบบฟรีทีวี"
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ส่วนที่หลายฝ่ายต้องการให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมนั้น สำหรับตนเห็นว่า ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯจะยุติการชุมนุม ก็ต่อเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องขึ้นไปฟอกตัวเองในศาล ซึ่งทุกอย่างก็จะจบลงอย่างถูกต้อง
นายอนุชา ราชวงศ์ เจ้าของร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ต.เครื่องดื่ม เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ตนรับทราบผ่าน ฟรีทีวี และมีความเห็นต้องการให้ทั้ง 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และกลุ่มพันธมิตรฯ พูดคุยกันดีๆ และส่งคนเก่งๆ มาร่วมกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาล ไม่ควรเอาแต่พูดว่าจะสลายม็อบ หรือไม่สลาย ควรจะเอาเวลามาแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้ประชาชนดีกว่า และไม่ทราบว่าจะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม แต่ถ้าต้องการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องขึ้นศาลตามที่ถูกกล่าวหา ก็คิดว่าไม่ควรแก้ เพราะประชาชนก็อยากรู้ว่าที่มีการกล่าวหากันนั้นเป็นเรื่องจริง หรือไม่จริง ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ยอมขึ้นศาลแล้ว ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯยังเคลื่อนไหวต่อก็จะถูกสังคมเล่นงานเอง
นายไชยยศ ดวงจันทิพย์ อาชีพขับรถสามล้อ กล่าวว่า ในส่วนของตนมองว่าการชุมนุมต่างๆ ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่คนทุกคนสามารถทำได้ เพราะเป็นเสรีภาพ ประเทศไทยมีประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วแต่ความคิดเห็นแต่ละคน อาชีพตนถือว่าเป็นคนติดดิน เป็นรากหญ้าก็ว่าได้ คำว่ารากหญ้านั้นก็ต่ำกว่าพื้นดินอยู่แล้ว ถ้าจะมองคนต้อยต่ำ คนไม่มีการศึกษาก็แล้วแต่จะมองกัน แต่คนเรานั้นสามารถเลือกที่จะคิดได้ เพราะมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกัน
ด้านนายวรศักดิ์ ลี่อำนวยเจริญ เภสัชกร กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ยังไม่นิ่ง ยังแกว่งอยู่ทั้งในด้านของรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯเอง คงต้องรอดูอีกสักระยะ ม็อบอื่นๆ เป็นการสร้างภาพ แต่สำหรับพันธมิตรฯ ตนมองว่ามีคนช่วยพันธมิตรฯเยอะมาก หากไม่มีคนช่วยกลุ่มพันธมิตรฯก็คงอยู่ไม่ได้ ค่าใช้จ่ายแต่ละวันหลายล้านบาท
"ผมเห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ออกมาชุมนุม เพราะที่ผ่านมามีการโกงกินกันมากเกินไป ระบบรากหญ้าตายหมดแล้ว เราต้องทนกับการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ขณะที่ส่วนต่างทางการค้ามีคนอื่นเอาไปหมด เอาห้างใหญ่มาลง ร้านค้าเล็ก ๆ ก็ใกล้สูญพันธุ์ หากไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหว บ้านเมืองก็คงแย่กว่านี้"
**จานASTVขายเกลี้ยงคนแห่ซื้อให้ญาติ
สำหรับพื้นที่ จ.ขอนแก่น ได้รับรายงานว่าสถานการณ์การเมืองที่กำลังร้อนระอุอยู่ขณะนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มชนชั้นกลางค่อนข้างมาก เพราะมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากกว่าพี่น้องประชาชนที่อยู่ห่างไกลรอบนอกมากกว่า โดยกลุ่มชนชั้นกลางเหล่านี้ส่วนใหญ่ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV และ ทีวีเนชั่น ทั้งที่รับชมจากเคเบิ้ลท้องถิ่น ติดตั้งจานดาวเทียมและผ่านทีวีออนไลน์
ดัชนีชี้วัดการตื่นตัวติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกช่องทางหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ จานรับสัญญานดาวเทียม ASTV ที่ศูนย์ข่าวผู้จัดการ-เอเอสทีวี จ.ขอนแก่น นำมาจำหน่ายนั้นได้รับความสนใจซื้อไปติดตั้งจำนวนมาก ขายหมดไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อน และยังมีคนสั่งจองไว้จนถึงขณะนี้กว่า 10 ราย
หลายคนที่ซื้อจานดาวเทีมเอเอสทีวี ระบุว่าต้องการซื้อไปติดตั้งให้พ่อแม่หรือญาติๆ ที่อยู่ต่างอำเภอ หรือเขตพื้นที่ที่เคเบีลทีวีไปไม่ถึง เพราะอยากให้ญาติๆได้ดูข้อมูลอีกด้านหนึ่งของรัฐบาลที่ฟรีทีวี ไม่นำเสนอรายละเอียดที่มาที่ไปของการชุมนุมเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ ส่วนตัวพวกเขาติดตามการชุมนุมจากเคเบิ้ลทีวี บ้างก็ดูจากผู้จัดการ ออนไลน์
นอกจากนี้จากการสุ่มสำรวจร้านค้า บ้านเรือนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่ามีการเปิดโทรทัศน์ชมบรรยากาศการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ ครั้งนี้จำนวนมากจากช่อง เอเอสทีวี นิวส์ 1 โดยดูผ่านเคเบิลทีวี ทั้งร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านเสริมสวย ร้านค้าทั่วไป
โดยเฉพาะ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสมศักดิ์ โกสัยสุข, นายพิภพ ธงชัย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งในการสั่งการนั้นให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อมูลอย่างเร่งด่วน และรายงานผลการดำเนินคดีหรือขั้นตอนการดำเนินคดีทันที
แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า การสั่งการนั้นได้มีการสั่งการมาเป็นลำดับ ซึ่งจุดประสงค์ที่มีการค้นหาคดีนั้นเพื่อต้องการรื้อ และเอาผิดกับแกนนำหากมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ และต้องการรวบรวมคดีที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด เพื่อที่พร้อมจะดำเนินการกับแกนนำพันธมิตรฯทันที หากมีการสั่งการ และมีแนวโน้มว่าจะมีการจู่โจมเข้าจับกุมแกนนำพันธมิตรฯในช่วงที่การชุมนุมมีคนน้อย ก่อนที่จะถึงวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าคนจะเข้าร่วมมากขึ้นกว่าเดิม
**สงขลาเคลื่อนพลเข้ากรุงอีกศุกร์นี้
นายสุมิตร นวลมณี หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯสงขลา พร้อมที่จะสนับสนุนประชาชนเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสัปดาห์นี้ ซึ่งประชาชนได้แจ้งชื่อขอร่วมเดินทาง ณ กองอำนวยการพันธมิตรฯ ลานสถานีรถไฟหาดใหญ่ทุกวัน รวมยอดถึงขณะนี้กว่า 100 รายแล้ว โดยจะเริ่มเดินทางในวันพฤหัสฯที่ 5 มิ.ย. เพื่อร่วมปักหลักกับพี่น้องทั่วประเทศ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นเวลา 3 วัน
"ตอนนี้ประชาชนที่กลับมาจากชุมนุมใหญ่ เตรียมตัวจะกลับขึ้นไปร่วมชุมนุมอีกรอบ หลังจากที่เคลียร์ธุระส่วนตัวแล้ว โดยจะคอยเป็นแกนนำในการดูแลผู้ร่วมชุมนุมรายใหม่ที่ประสงค์จะเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งมีสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยพันธมิตรฯได้รับเงินบริจาคจากประชาชนในแต่ละวันมาเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไป-กลับให้กับผู้ที่มาลงชื่อร่วมชุมนุมเพื่อสนับสนุนพันธมิตรฯ ที่ปักหลักชุมนุมที่กรุงเทพฯ อีกทางหนึ่ง" นายสุมิตรกล่าว
สำหรับลานประวัติศาสตร์การเมือง หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ กลุ่มพันธมิตรฯสงขลา ยังถือเป็นศูนย์รวมความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยยังคงถ่ายทอดสดช่อง NEWS1 ของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV และถ่ายทอดเสียงผ่านสถานีวิทยุกรรมกร FM 102.75 MHz ตลอด 24 ชั่วโมง ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ซึ่งควบคู่กับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ
ตลอดทั้งวันก็จะมีประชาชนแวะเวียนเข้ามารับชม ส่วนบรรยากาศกลางคืนหลังเลิกงานแล้วก็จะมีประชาชนมาร่วมชมเป็นจำนวนมาก และอยู่จนกว่าแกนนำพันธมิตรฯ จะขึ้นเวทีปราศรัยเสร็จ หรือได้ฟังนักวิชาการฝีปากกล้าร่วมแฉเบื้องหลังการทุจริต จึงจะทยอยกลับบ้านเพื่อพักผ่อน
นายเอกชัย อิสระทะ โฆษกพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า จุดยืนของพันธมิตรฯสงขลานั้นอยู่เคียงข้างกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือร่วมขจัดระบอบทักษิณ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศไทย ในเรื่องการทุจริต คอร์รัปชั่น รวมถึงต่อต้านรัฐบาลซึ่งเป็นนอมินี ที่พยายามรับใช้และช่วยเหลือระบอบทักษิณ ให้ฟื้นอีกครั้ง
นายเอกชัย กล่าวด้วยว่า แม้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี จะลาออก หรือญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จะตกไป แต่ภารกิจของพันธมิตรฯ ก็ยังไม่บรรลุ เพราะยังไม่สามารถล้มระบอบทักษิณได้ จึงต้องยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป
นายเอกชัย ยังกล่าวถึง การโหมกระแสริบบิ้นสีขาว ทำให้ประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารโดยตลอด เกิดความสับสน อีกทั้งสื่อสาธารณะบางส่วนไม่ได้เสนอข่าวครอบคลุมทั้งหมด แต่เลือกเสนอตามกระแส และบางประเด็น พันธมิตรฯ จึงต้องชี้แจงให้ประชาชนมีความเข้าใจ ยกเว้นประเด็นปัญหาเศรษฐกิจ ที่ประชาชนได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า จากการไม่แก้ปัญหาของรัฐบาล
"สถานการณ์ใน จ.สงขลา ประชาชนส่วนใหญ่ตื่นตัวที่จะติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด และเข้าใจในจุดยืนของพันธมิตรฯ แต่ก็ยังเป็นห่วงที่อื่นๆ ซึ่งต้องทำความเข้าใจ และหากทุกคนรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้เท่าๆ กัน กระแสของพันธมิตรฯ ก็จะกลับมาแรงขึ้นอีกครั้ง"นายเอกชัย กล่าว
**พันธมิตรฯตะวันออกพับนกสีเหลืองสู้
นายสุทธิ อัชฌาศัย กลุ่มเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรในภาคตะวันออก ต้องการเชิญชวนประชาชนในภาคตะวันออก และประชาชนชาวไทยทุกคนร่วมแสดงสัญลักษณ์อันเป็นจุดยืนภายใต้ สันติภาพ แห่งเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น "เมืองไทยจะสงบสุขได้..ถ้าไร้ระบอบทักษิณ" ด้วยการพับนกกระดาษสีเหลือง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ อันแสดงถึงสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็น ของชาวไทยอย่างสันติ สงบ และไม่ต้องการความรุนแรงเพื่อให้เมืองไทยดำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของประชาชนในประเทศไทย
โอกาสนี้ ขอเชิญชวนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ช่วยกันพับนกกระดาษสีเหลือง ให้เป็นสัญลักษณ์ต่อการแสดงความเห็น "เมืองไทยสงบสุขได้..ถ้าไร้ระบอบทักษิณ" และสนับสนุนการชุมนุมโดยสงบ ของพันธมิตรฯ ด้วยการแขวนนกสีเหลืองไว้ที่หน้าบ้านและนำมามอบให้กับเวทีพันธมิตรฯ ที่ สะพานมัฆวาน
นายโสภณ ขำวงษ์ พ่อค้าขายหมู ที่ตลาดสด อ.ขลุง จ.จันทบุรี หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ จันทบุรี กล่าวว่า พันธมิตรฯจันทบุรี เตรียมตัวเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันศุกร์นี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า รู้สึกทนไม่ได้ที่เห็นความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมในสังคม ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากระบอบทักษิณ จึงมาร่วมแสดงพลังเพื่อสร้างความถูกต้องในสังคม และเห็นว่า แกนนำพันธมิตรฯ ทำ ในสิ่งที่ถูก ที่ควร จึงต้องมาให้กำลังใจ
**พันธมิตรฯชัยภูมิเปิดเวทีคู่ขนาน
ที่บริเวณลานคนเมือง สวนกาญจนาภิเษก หน้าศาลากลาง (หลังใหม่) จ.ชัยภูมิ กลุ่มพันธมิตรฯชัยภูมิ สมัชชาประชาชนแห่งประทศไทย จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยยามเฝ้าแผ่นดินชัยภูมิ และภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ได้ร่วมกันเปิดเวทีสาธารณะการเมืองภาคประชาชน "ประชาชนเจ้าของประเทศ สำแดงตน แก้วิกฤตชาติ" ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 และเข้าสู่วันที่ 6 วานนี้ (4 มิ.ย.)
ทั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีคู่ขนาน เพื่อขยายแนวร่วมและ สนับสนุนการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ ที่เชิงสะพานมัฆวานฯ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา และยืนยันจะตั้งเวทีคู่ขนานอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย คือล้มระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลอันธพาลหุ่นเชิด เพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ ภายใต้การปกระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยได้กางเต็นท์ ติดตั้งทีวี และจอโปรเจกเตอร์ ถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ จากกรุงเทพฯผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ให้ประชาชนชาวชัยภูมิ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน ตั้งแต่เวลา 18.00-02.00 น. ของวันใหม่
**คนอุบลฯอยากเห็นแม้วขึ้นศาล
ผู้สื่อข่าว จ.อุบลราชธานี ได้สำรวจความเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน โดยนายองอาจ ชายฉลาด เจ้าของร้านตี๋ไข่สด ผู้ค้าส่งไข่ไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองวารินชำราบ ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ทางการเมืองไม่ใช่ปัจจัยหลักทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ แต่น้ำมัน คือ กลไกที่ทำให้สินค้าขึ้นราคา ดังนั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ จึงไม่ได้ส่งผลต่อภาวะทางเศรษฐกิจ
"สำหรับข่าวสารการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ผมติดตามผ่านสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี ตลอด เพราะเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ให้ข้อมูลได้ตรงที่สุด และเป็นสถานีที่คอยดักคอ เปิดโปงพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของนักการเมืองและรัฐบาล ทำให้รัฐบาลทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ แต่ชาวบ้านได้ประโยชน์ ได้ทราบเรื่องที่ไม่เคยทราบมาก่อนหลายเรื่อง สำหรับที่ไม่เปิดรับข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี เพราะมีการนำเสนอข่าวแบบ กั๊กๆ ไม่กล้าแฉความจริงให้ประชาชนทราบ ซึ่งอาจมีปัจจัยถูกควบคุมจากรัฐบาล จึงปฏิเสธไม่รับข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์แบบฟรีทีวี"
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ส่วนที่หลายฝ่ายต้องการให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมนั้น สำหรับตนเห็นว่า ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯจะยุติการชุมนุม ก็ต่อเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องขึ้นไปฟอกตัวเองในศาล ซึ่งทุกอย่างก็จะจบลงอย่างถูกต้อง
นายอนุชา ราชวงศ์ เจ้าของร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ต.เครื่องดื่ม เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ตนรับทราบผ่าน ฟรีทีวี และมีความเห็นต้องการให้ทั้ง 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และกลุ่มพันธมิตรฯ พูดคุยกันดีๆ และส่งคนเก่งๆ มาร่วมกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาล ไม่ควรเอาแต่พูดว่าจะสลายม็อบ หรือไม่สลาย ควรจะเอาเวลามาแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้ประชาชนดีกว่า และไม่ทราบว่าจะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม แต่ถ้าต้องการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องขึ้นศาลตามที่ถูกกล่าวหา ก็คิดว่าไม่ควรแก้ เพราะประชาชนก็อยากรู้ว่าที่มีการกล่าวหากันนั้นเป็นเรื่องจริง หรือไม่จริง ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ยอมขึ้นศาลแล้ว ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯยังเคลื่อนไหวต่อก็จะถูกสังคมเล่นงานเอง
นายไชยยศ ดวงจันทิพย์ อาชีพขับรถสามล้อ กล่าวว่า ในส่วนของตนมองว่าการชุมนุมต่างๆ ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่คนทุกคนสามารถทำได้ เพราะเป็นเสรีภาพ ประเทศไทยมีประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วแต่ความคิดเห็นแต่ละคน อาชีพตนถือว่าเป็นคนติดดิน เป็นรากหญ้าก็ว่าได้ คำว่ารากหญ้านั้นก็ต่ำกว่าพื้นดินอยู่แล้ว ถ้าจะมองคนต้อยต่ำ คนไม่มีการศึกษาก็แล้วแต่จะมองกัน แต่คนเรานั้นสามารถเลือกที่จะคิดได้ เพราะมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกัน
ด้านนายวรศักดิ์ ลี่อำนวยเจริญ เภสัชกร กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ยังไม่นิ่ง ยังแกว่งอยู่ทั้งในด้านของรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯเอง คงต้องรอดูอีกสักระยะ ม็อบอื่นๆ เป็นการสร้างภาพ แต่สำหรับพันธมิตรฯ ตนมองว่ามีคนช่วยพันธมิตรฯเยอะมาก หากไม่มีคนช่วยกลุ่มพันธมิตรฯก็คงอยู่ไม่ได้ ค่าใช้จ่ายแต่ละวันหลายล้านบาท
"ผมเห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ออกมาชุมนุม เพราะที่ผ่านมามีการโกงกินกันมากเกินไป ระบบรากหญ้าตายหมดแล้ว เราต้องทนกับการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ขณะที่ส่วนต่างทางการค้ามีคนอื่นเอาไปหมด เอาห้างใหญ่มาลง ร้านค้าเล็ก ๆ ก็ใกล้สูญพันธุ์ หากไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหว บ้านเมืองก็คงแย่กว่านี้"
**จานASTVขายเกลี้ยงคนแห่ซื้อให้ญาติ
สำหรับพื้นที่ จ.ขอนแก่น ได้รับรายงานว่าสถานการณ์การเมืองที่กำลังร้อนระอุอยู่ขณะนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มชนชั้นกลางค่อนข้างมาก เพราะมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากกว่าพี่น้องประชาชนที่อยู่ห่างไกลรอบนอกมากกว่า โดยกลุ่มชนชั้นกลางเหล่านี้ส่วนใหญ่ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV และ ทีวีเนชั่น ทั้งที่รับชมจากเคเบิ้ลท้องถิ่น ติดตั้งจานดาวเทียมและผ่านทีวีออนไลน์
ดัชนีชี้วัดการตื่นตัวติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกช่องทางหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ จานรับสัญญานดาวเทียม ASTV ที่ศูนย์ข่าวผู้จัดการ-เอเอสทีวี จ.ขอนแก่น นำมาจำหน่ายนั้นได้รับความสนใจซื้อไปติดตั้งจำนวนมาก ขายหมดไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อน และยังมีคนสั่งจองไว้จนถึงขณะนี้กว่า 10 ราย
หลายคนที่ซื้อจานดาวเทีมเอเอสทีวี ระบุว่าต้องการซื้อไปติดตั้งให้พ่อแม่หรือญาติๆ ที่อยู่ต่างอำเภอ หรือเขตพื้นที่ที่เคเบีลทีวีไปไม่ถึง เพราะอยากให้ญาติๆได้ดูข้อมูลอีกด้านหนึ่งของรัฐบาลที่ฟรีทีวี ไม่นำเสนอรายละเอียดที่มาที่ไปของการชุมนุมเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ ส่วนตัวพวกเขาติดตามการชุมนุมจากเคเบิ้ลทีวี บ้างก็ดูจากผู้จัดการ ออนไลน์
นอกจากนี้จากการสุ่มสำรวจร้านค้า บ้านเรือนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่ามีการเปิดโทรทัศน์ชมบรรยากาศการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ ครั้งนี้จำนวนมากจากช่อง เอเอสทีวี นิวส์ 1 โดยดูผ่านเคเบิลทีวี ทั้งร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านเสริมสวย ร้านค้าทั่วไป