xs
xsm
sm
md
lg

ปชช.ทั่วทุกภาคฮือต้านระบอบแม้วฉีก รธน.50

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภูมิภาค - ประชาชนทั่วทุกภาคของไทยยกทัพเข้ากรุงร่วมพันธมิตรฯชุมนุมใหญ่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต่อต้านรัฐบาล"ลูกกรอก"ล้มล้างรัฐธรรมนูญ 50 และร่วมลงชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เสนอแก้ไข รธน.ขณะที่ประชาชนในพื้นที่แต่ละจังหวัดปักหลักร่วมชุมนุม ชมการถ่ายทอดสดอยู่ในพื้นที่คึกคัก พร้อมทยอยลงรายชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว."ทาสอำนาจระบอบทักษิณ" ลั่นหากการชุมนุมของพันธมิตรฯยืดเยื้อ พร้อมเดินทางเข้าสมทบใน กทม. จวก "รัฐบาลลูกกรอก" แก้ไข รธน.เพื่อพวกพ้องและตัวเอง พร้อมทำการฌาปนกิจ "แม้ว"

ประชาชนทั่วประเทศทั้งเหนือ อีสาน ใต้ ตะวันออก และภาคกลาง ได้พร้อมใจกันเดินทางเข้ากรุงเทพฯตั้งแต่คืนวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อช่วงเช้าของวานนี้ (25 พ.ค.) เพื่อร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อแสดงพลังต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 และร่วมยื่นรายชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เสนอชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550

หมอ-พยาบาลเมืองกล้วยไข่ร่วมด้วย

ที่ จ.กำแพงเพชร ตั้งแต่เช้าวานนี้ (25) ขบวนรถบัส รถตู้ของพันธมิตรฯ จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชมรมลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่างได้ทยอยเดินทางออกจากจุดนัดหมายบริเวณหน้าโรงแรมนวรัตน์ อ.เมืองกำแพงเพชร ด้วยรถบัส 1 คัน รถตู้อีก 2 คัน รวมกว่า 100 คน มุ่งหน้าเข้าร่วมการชุมนุมของพันธมิตรฯเพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส.-ส.ว.ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

นอกจากนี้ นายสุวัฒน์ วัฒนศิริ แกนนำพันธมิตรฯ จ.กำแพงเพชร หนึ่งในแกนนำชมรมลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่างที่มีเครือข่ายครอบคลุม จ.กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ และ จ.อุทัยธานี เป็นต้น ยังได้นำคนในเครือข่ายเดินทางล่วงหน้าไปแล้ว 2 คันรถตู้เพื่อทำหน้าที่เป็นทีมล่วงหน้าตรวจสอบเส้นทาง การสกัดกั้นของภาครัฐและนัดหมายสมทบรวมกับพันธมิตรจากจังหวัดอื่นในภาคเหนือตอนล่าง เช่น พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร ตาก ที่ จ.นครสวรรค์ โดยไปสมทบกับพันธมิตรฯ จ.อุทัยธานีต่อ

เผยเหนือล่างมีกว่า 1 พันร่วมชุมนุม

จนกระทั่งช่วงบ่าย นายสุวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการประเมินคร่าวๆ ผู้ที่เดินทางไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ในครั้งนี้ทั้งที่ร่วมกันเดินทางไปด้วยกันและที่แยกย้ายกันเดินทางของสมาชิกเครือข่ายจังหวัดต่างๆ เชื่อว่ามีไม่น้อยกว่า 1,000 คนขึ้นไป

โดยในส่วนของ จ.กำแพงเพชร ได้เดินทางด้วยรถบัส 1 คัน รถตู้อีก 4 คัน และปิกอัพอีก 1 คัน ไม่น้อยกว่า 100 คนแล้ว สมทบกับพันธมิตรฯ จ.พิษณุโลก อีก 3 คันรถตู้ จ.พิจิตร อีกหลายร้อยคนที่กระจายกันเดินทางเข้าไป จ.นครสวรรค์ เบื้องต้นเดินทางเข้าไปแล้ว 3 คันรถตู้ ขณะที่ จ.ตาก ก็มีเครือข่ายที่แยกย้ายกันเดินทางเข้าไปแล้ว เช่นเดียวกับ จ.อุทัยธานี สุโขทัย ฯลฯ นอกจากนี้ทางกลุ่มยังได้รวบรวมรายชื่อประชาชน ที่ร่วมลงนามยื่นถอดถอน ส.ส.-ส.ว. ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อยู่ในมือแล้วหลายร้อยรายชื่อ เพื่อนำไปรวมกับพันธมิตรฯ จากทั่วประเทศในบ่ายวันนี้ (25)

นายสุวัฒน์ บอกว่า เมื่อเวลา 13.25 น. ขบวนของพันธมิตรฯ จ.กำแพงเพชร และพิษณุโลก ได้สมทบร่วมกันแล้วและได้ออกเดินทางจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯเพื่อสมทบกันพันธมิตรฯจังหวัดอื่นๆ ของภาคเหนือ ซึ่งมีจุดนัดหมายเบื้องต้นบริเวณหน้ากองสลากฯ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากได้รับแจ้งจากสมาชิกเครือข่ายที่เดินทางเข้ามาล่วงหน้ามาก่อนว่าบริเวณหน้ากองสลากขณะนี้มีกลุ่มมวลชนที่ต่อต้านพันธมิตรฯ มาปักหลักรออยู่ จึงอาจจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงสถานที่นัดรวมตัวกันของเครือข่ายภาคเหนือ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านตรวจกันตามเส้นทางต่างๆ ไม่มีทีท่าสกัดกั้นการเคลื่อนไหวภาคประชาชน ยังคงให้ความร่วมมือและปล่อยให้ขบวนของพันธมิตรฯ หรือชมรมลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่างมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ได้โดยสะดวก

"ชัยภูมิ"ลั่นร่วมชุมนุมจนถึงที่สุด

นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี แกนนำพันธมิตรฯ จ.ชัยภูมิ และรองประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด เปิดเผยว่า พันธมิตรฯ จ.ชัยภูมิ กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดิน จ.ชัยภูมิ และกลุ่มองค์กรเครือข่ายต่างๆ มีมติร่วมกันในการยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯถึงแม้การต่อสู้ครั้งนี้จะยืดเยื้อ ใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม

โดยจะแบ่งการเคลื่อนไหวเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วงบ่ายวันนี้ (25) ซึ่งต่างได้ทยอยเดินทางไปกันแล้ว ซึ่งชุดสุดท้ายได้ออกเดินทางกันเมื่อเวลาประมาณ 08.00 วันเดียวกัน รวมทั้งหมดที่ไปร่วมชุมนุมครั้งนี้กว่า 200 คน

ส่วนกลุ่มที่ 2 ได้จัดเวทีลานคนเมืองโรงเรียนประชาธิปไตยที่สวนสาธารณะกาญจนาภิเษก หน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ คู่ขนานไปกับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ พร้อมติดตั้งจอโปรเจกเตอร์ เพื่อชมถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ผ่าน ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV โดยจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยน ประเด็นต่างๆ เหมือนทุกครั้งที่เคยได้ทำมา นอกจากนี้จะมีการตั้งโต๊ะเพื่อระดมรายชื่อถอดถอน ส.ส.ทั้งกว่า 160 คนที่เข้าชื่อร่วมยื่นญัติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสมทบกับทางกรุงเทพฯ

"หากการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ต้องต่อสู้ที่ยืดเยื้อ เราก็ได้จัดเตรียมอีก 2-3 กลุ่มเพื่อเดินทางไปสลับสับเปลี่ยนกับกลุ่มที่ไปร่วมชุมนุมครั้งแรก เพื่อเป็นกำลังเสริมในการชุมนุมใหญ่ โดยค่าใช้จ่ายทั้งค่าเดินทางไปร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หรือลานคนเมือง โรงเรียนประชาธิปไตย ต่างเป็นเงินที่เครือข่ายได้ร่วมสละทรัพย์ ปัจจัย สิ่งของร่วมกัน เพราะถือว่านี่เป็นด่านแรกของการเสียสละ ซึ่งอีกไม่นานคงจะมีการเสียสละที่มากกว่านี้ และทุกคนก็พร้อมที่จะเสียสละ หากมีการร้องขอ เพราะถือว่าสถานการณ์ขณะนี้สุกงอมแล้ว" นายนพสณฑ์ กล่าว

นายนพสณฑ์ กล่าวต่อว่า เป้าหมายการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯและยามเฝ้าแผ่นดิน จ.ชัยภูมิ ตรงกันอยู่แล้ว คือ คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในทุกเรื่องทุกมาตรา เพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 ถึงแม้จะเกิดในช่วงใด แต่ก็มีความถูกต้อง มีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าในช่วงปกติเสียอีก และที่สำคัญได้รับการยอมรับจากประชาชนด้วยประชามติที่ไม่มีการซื้อเสียง และถึงแม้รัฐบาลชุดนี้ จะมีการทำประชามติในการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ให้เขาทำไป แต่เชื่อว่าทำไม่ได้ เนื่องจากกฎหมาย ประชามติของรัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่มี ต้องไปใช้ ปี 2540 ซึ่งก็ต้องออกเป็น พ.ร.ก.แล้วกว่าจะทำกระบวนการนั้นเสร็จก็ไม่ทัน เหมือนออกมาตีกลองสองหน้า เพื่อลดแรงกดดันในการชุมนุมครั้งนี้ของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นการโกหกหน้าด้านๆ ของนายกฯ สมัคร

นายนพสณฑ์ กล่าวต่ออีกว่า ตนคิดว่าสิ่งแรกและเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลชุดนี้ควรทำเพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม หากคิดยังคิดว่าตัวเองเป็นคนไทย คือบอกให้ ส.ส.ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้ถอนญัตติออกมา เพื่อยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญซะ แล้วกลับไปช่วยกันคิดเรื่องการแก้ไขเรื่องปากท้องของประชาชนในยุคข้าวยากหมากแพง ที่กำลังเผชิญปัญหาค่าครองชีพสูง รายได้ต่ำ น้ำมันแพง แก้ไขเรื่องเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน เพื่อให้คนไทยได้อยู่ดีมีสุข ไม่ใช่ว่าจะเอาหวยบนดินมาหลอกล่อ มอมเมาชาวบ้านให้ทุกข์ซ้ำไปอีก

"ที่สำคัญรัฐบาลนายสมัคร ต้องแสดงความจริงใจ กรณีละเมิดสถาบันเบื้องสูงที่คนไทยทั้งประเทศให้ความเคารพ ศรัทธาสูงสุด ควรเร่งตรวจสอบ ดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้อง อย่าตะแบง เพราะนั่นคือจุดตาย ถ้าไม่สามารถชี้แจง หรือเคลียร์ตัวเองในเรื่องนี้ได้ นายกฯ สมัครก็ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้อีกแล้ว และนั่นเป็นการเปิดประตูให้รถถังออกมา" นายนพสณฑ์ กล่าว

คนบุรีรัมย์รวมพลร่วมพันธมิตรฯ

นางสำเนียง สุภัณพจน์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน จ.บุรีรัมย์ พร้อมแกนนำเครือข่าย 18 องค์กร เปิดเผยว่า ได้รวมพลกว่า 200 คนเพื่อเดินทางไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นอกจากนั้นกลุ่มสมัชชาฯที่เดินทางไปร่วมชุมนุมยังได้ได้เตรียมเอกสารหลักฐาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านเพื่อที่จะไปยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ได้ลงชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มสมัชชาฯ ยังเห็นว่ารัฐบาลควรที่จะลองใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อนยังไม่ควรที่จะไปแก้ ควรที่จะเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนชนก่อน เพราะปัจจุบันประชาชนต้องประสบปัญหาค่าครองชีพสูง เดือดร้อนกันทั้งประเทศ ซึ่งเรื่องแรกที่รัฐบาลควรดูแลไม่ใช่แก้รัฐธรรมนูญ

กลุ่มพลังตักสิลาเพื่อประชาชนหนุน

ที่ศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง (PSEC) จ.มหาสารคาม เครือข่ายประชาคม จ.มหาสารคาม 9 องค์กรจัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสถานการณ์การเมือง เรื่อง "การเมืองกับรัฐธรรมนูญ" ประกอบด้วย องค์กรวิชาชีพครูจังหวัดมหาสารคาม เครือข่ายเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม เครือข่ายเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม องค์กรพิทักษ์สิทธิสตรี เครือข่ายวิชาชีพแพทย์และพยาบาล เครือข่ายเกษตรทางเลือก เครือข่ายพันธมิตรนักเรียนนิสิตนักศึกษา สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม สมาคมผู้ปกครองเด็กและนักเรียนจังหวัดมหาสารคาม โดยมีตัวแทนผู้ประสานงาน ครป.และตัวแทน กป.อพช. อีสาน เข้าร่วมสังเกตการณ์

นายสันต์ เพียรอดวงษ์ แกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาคมฯ กล่าวว่า การยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของนักการเมืองบางกลุ่ม มิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์โดยรวมของประชาชน แต่มีวาระซ่อนเร้นเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องและกลุ่มบุคคล ทั้งยังมีนัยทางการเมืองที่ล่อแหลมต่อความเป็นอิสระขององค์กรตรวจสอบและถ่วงดุล

"มติที่ประชุมในวันนี้ได้ตกลงร่วมกันว่าเราจะเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อร่วมเรียกร้องและต่อต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ โดยใช้ชื่อในการขับเคลื่อนว่า "กลุ่มพลังตักสิลาเพื่อประชาชน" พร้อมกับออกแถลงการณ์และจัดเวทีที่ จ.มหาสารคาม เชิญชวนประชาชนร่วมกันถอดถอนนักการเมืองที่เข้าชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว ในส่วนของ จ.มหาสารคาม ได้จัดให้มีการชุมนุมร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณสวนศรีสวัสดิ์ดำเนิน (ตลาดนัดสีเขียว) ต.ตลาด อ.เมืองมหาสารคาม พร้อมให้พี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุมนำบัตรประจำตัวประชาชนมาด้วย เพื่อเข้าชื่อร่วมถอดถอนนักการเมืองที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญ" นายสันต์ กล่าว

สำหรับรายละเอียดแถลงการณ์ กลุ่มพลังตักสิลาเพื่อประชาชน ฉบับที่ 1/2551 มีสาระสำคัญ ดังนี้ ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชาชน จำนวน 117 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 5 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 4 คน พรรคมัชฌิมาธิปไตย 2 คน พรรคประชาราช 1 คน และสมาชิกวุฒิสภาอีกจำนวน 21 คน รวมกันทั้งสิ้น 150 คนได้ยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2551 เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทั้งฉบับที่มาจากการลงประชามติของคนส่วนใหญ่ในประเทศ 14 ล้าน 7 แสนเสียงนั้น

จากเนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นหลักฐานชัดเจนว่า ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ได้ดำเนินการเป็นอันตรายต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญ ตลอดจนประชาชนอย่างชัดเจนดังต่อไปนี้

1.อันตรายต่อสถาบันชาตินั้น ได้ปรากฏในการล้มล้างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ว่า กระทำไปเพื่อลบล้างความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกพ้องไม่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และช่วยเหลือนักการเมืองให้หลบหนีคดียุบพรรคการเมืองจากกรณีกรรมการบริหารพรรคได้กระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง สะท้อนให้เห็นว่าอำนาจตุลาการกำลังถูกทำลายด้วยฝ่ายนิติบัญญัติที่ไร้จริยธรรม สมคบกับฝ่ายบริหาร ตลอดจนดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อทำให้กระบวนการตรวจสอบนักการเมืองอ่อนแอลง องค์กรตรวจสอบอิสระตามรัฐธรรมนูญอยู่ภายใต้การคัดสรรจากอิทธิพลทางการเมืองจนไม่สามารถตรวจสอบฝ่ายการเมืองได้ และจะนำไปสู่ความล่มจมของชาติดังที่เคยได้เกิดขึ้นมาแล้วในระบอบทักษิณจากการใช้รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2540

2.อันตรายต่อสถาบันศาสนานั้น คณะผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญจงใจใช้วิธีสกปรกนำพุทธศาสนามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร้จริยธรรม ทำให้เกิดความแตกแยกของศาสนิกชนของคนในชาติอย่างกว้างขวาง

3.อันตรายต่อประชาชน นอกจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่คนไทยทั้งชาติต้องประสบกับปัญหาข้าวยากหมากแพงภายใต้การบริหารของรัฐบาลที่ไร้ความสามารถ จนทำให้เกิดการชุมนุมของเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน และผู้ประกอบการรายย่อยที่เดือดร้อนไปอย่างกว้างขวาง รัฐบาลหุ่นเชิดกลับดำเนินการล้มล้างแนวนโนยายพื้นฐานแห่งรัฐที่จะช่วยเหลือสร้างให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองได้ ลบล้างปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงออกจากรัฐธรรมนูญ และลดอำนาจประชาชนในการตรวจสอบฝ่ายการเมือง

กลุ่มพลังตักสิลาเพื่อประชาชน จึงมีมติดังต่อไปนี้ 1.จัดชุมนุม เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 ณ สวนสาธารณะ(ตลาดเขียว) หน้าโรงเรียนเทศบาลศรีสวัสดิ์ เทศบาลเมืองมหาสารคาม เวลา 15.00 น. 2.ดำเนินการถอดถอนนักการเมืองที่มีพฤติกรรมขัดกันแห่งผลประโยชน์ 3.ขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง พร้อมเตรียมสำเนาบัตรประชาชนเพื่อถอดถอนนักการเมืองที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญดังกล่าวด้วย

"กลุ่มพลังตักสิลาเพื่อประชาชนและองค์กรเครือข่าย" จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่รักชาติ รักประชาธิปไตย และรักประชาชนทุกท่าน ได้มาเข้าร่วมสืบสานภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และทำหน้าที่ปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จนถึงที่สุด

ตำรวจ-อปพร.สกัดพันธมิตร ตอ.

ด้าน นายสนธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ตั้งด่านสกัดประชาชนที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ บริเวณถนนหมายเลข 7 ตอนสอง ก่อนขึ้นถนนสายมอเตอร์เวย์ เข้ากรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่จะสกัดกั้นและตรวจสอบรถทุกคันที่จะเดินทางผ่านเข้าไปยัง กรุงเทพฯ ซึ่งจะเน้นระกระบะที่บรรทุกคนไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นได้มีการตรวจค้นรถตู้ โดยจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีอะไรบ้าง และจะเดินทางไปไหน ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดและรถจอดยาวหลายกิโลเมตร

"ที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่รับผิดชอบในรัฐบาล บอกว่าจะไม่มีการสกัดกั้นหรือห้ามประชาชนที่จะเข้ามายังกรุงเทพฯ แต่ในความเป็นจริง จะสกัดกั้นทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ประชาชนไปรวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน" นายสนธิ กล่าว

นายสนธิ กล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่สามารถดำเนินการอะไรกับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาได้ เพียงแต่ต้องการให้เกิดความล่าช้าและเสียเวลาเท่านั้น และเมื่อไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรที่จะดำเนินความผิดได้ก็จะปล่อยรถเหล่านั้นเดินทางต่อไปได้ โดยต้องการให้เสียเวลาในการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มพันธมิตรฯภาคตะวันออกทั้งหมดได้เดินทางถึงบริเวณที่ชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน

แนวร่วมกาญจน์เข้ากรุงกว่า 200 คน

นางภินันท์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ เปิดเผยเกี่ยวกับการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯว่า การเดินทางเพื่อร่วมในการคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ถือว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนชาวไทยที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2550 ดังนั้น เราจึงเดินทางไปร่วมรับฟังการแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ ถือเป็นการเมืองภาคประชาชนที่ต้องออกมาปกป้องมิให้ผู้ให้หรือคนกลุ่มใดกระทำการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน

มีรายงานข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จ.กาญจนบุรี มีแนวร่วมเป็นองค์กรเอกชนในพื้นที่หลายองค์กร เช่น มูลนิธิหมู่บ้านเด็กที่มีนางรัชนี ธงไชย ภรรยาของนายพิภพ ธงไชย ที่เป็น 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ, กลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ ที่มีนางภินันท์ โชติรสเศรณี เป็นประธานและกลุ่มการปฏิรูปสื่อฯที่มีนายบุญส่ง จันทร์ส่องรัศมี ที่มีเครือข่ายในการถ่ายทอดเสียงการชุมนุมผ่านสถานีวิทยุชุมชนที่ตั้งอยู่ที่ไร่จันทร์ส่องรัศมี ต.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยทั้งหมดเป็นแนวร่วมที่นำสมาชิกกว่า 200 คน เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา

ปราจีนฯ เดินขบวนวางหรีด ส.ส.

ที่กลางสี่แยกไฟแดงถนนราษฎรดำริ เทศบาลเมืองปราจีนบุรี อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงเช้าวานนี้ กลุ่มคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตนเองและพวกพ้องปราจีนบุรี โดยการนำของนายเฉวียน กฤษณะสุนทร อดีต ผอ.กองวิชาการแผนงานกระทรวงมหาดไทย โดยมีสมาชิกกว่า 50 คนถือป้ายผ้าโปสเตอร์รวม 5 ผืน ข้อความว่า "คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้อง" พร้อมรถยนต์แห่กล่าวโจมตีการแก้รัฐธรรมนูญได้เดินขบวนประท้วง เริ่มขบวนจากเชิงสะพานปราจีนบุรีตรงข้ามลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ที่กำลังจัดงานวันเกษตรปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรี มาตามถนนราษฎรดำริมากลางสี่แยกไฟแดงถนนราษฎรดำริ

จากนั้นได้วางหรีดข้อความว่า "แก่ ส.ส.ผู้ตายจากหลักนิติธรรม เกียรติกร พากเพียรศิลป์" จากนั้นได้อ่านจดหมายเปิดผนึกกล่าวโจมตีนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี ที่ร่วมลงชื่อในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ข้อความสรุปว่า "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ทรงเกียรติ เกียรตินี้มาจากความคาดหวังของราษฎรในการทำหน้าที่นิติบัญญัติโดยถือนิติธรรม บัดนี้ เป็นที่ปรากฏชัดว่าความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของสมาชิกสภาจำนวนหนึ่งเป็นความพยายามที่จะช่วยเหลือตนเองและพวกพ้องหนีการพิสูจน์ความจริงในศาลท่ามเป็นอีกผู้หนึ่งในผู้ลงนามการอัปยศนี้"

จากนั้นเวลา 14.50 น. กลุ่มคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตนเอง และพวกพ้องปราจีนบุรีได้จัดรถตู้รวม 3 คันและรถยนต์ส่วนตัวจำนวนหนึ่งออกจากหน้าลานศาลพระหลักเมืองปราจีนบุรีเพื่อไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรปราจีนบุรีร่วมสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดโดยไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด

พันธมิตรฯ ลุ่มน้ำปากพนังเข้ากรุง

ด้านนายสมคิด พจน์จำเนียร แกนนำพันธมิตรลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในส่วนของพันธมิตรลุ่มน้ำปากพนัง ได้ร่วมเดินทางไปชุมนุมกับพันธมิตรฯในครั้งนี้ด้วยประมาณ 300 คน แต่ถ้าหากมีการชุมนุมยาวทางสมาชิกก็พร้อมที่จะเดินทางไปร่วมสมทบในภายหลังอีก

"ต้องยอมรับว่าขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลัก โดยเฉพาะในลุ่มน้ำปากพนังชาวบ้านมีปัญหาในเรื่องนี้มากค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างสูงขึ้นตามลำดับ รายได้ลดน้อยโดยที่รัฐบาลไม่ได้มาติดตามดูแลตั้งหน้าที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้องของตัวเองท่าเดียว ประชาชนส่วนหนึ่งกำลังตกเป็นเป็นเหยื่อพวกที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ เพียงคำว่ารัฐธรรมนูญมาจากเผด็จการ แต่ไม่ได้เฉลียวใจถึงเหตุผลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นความเลวร้ายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไรและยิ่งถูกปิดตาปิดหูไม่ให้รับข้อมูลที่เป็นจริงพิจารณาผนวกกับกำลังเงินของคนพวกนั้นยิ่งทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพที่เลวร้าย" นายสมคิด กล่าว

ภูเก็ตร่วมชุมนุม - ถอด ส.ส.-ส.ว.คึกคัก

ขณะที่ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ที่กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ร่วมกับพันธมิตรฯภูเก็ต จัดให้มีการถ่ายทอดบรรยากาศเวทีพันธมิตร "รวมพลังพิทักษ์ชาติ ศาสนา และรัฐธรรมนูญ" คึกคักไปด้วยประชาชนชาว จ.ภูเก็ต ที่เดินทางมาชมการถ่ายถอดสดผ่านจอโปรเจกเตอร์และร่วมลงชื่อถอดถอน ส.ว.และ ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อขอแก้รัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ช่วงบ่าย ซึ่งนอกจากจะจัดให้มีการถ่ายทอดสดและการลงชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.แล้ว ในเวลา 21.00 น.ยังได้จัดให้มีพิธีฌาปนกิจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย โดยมีการแจกดอกไม้จันให้กับกลุ่มประชาชนที่มาร่วมชมได้มีส่วนร่วม นอกจากนั้นยังมีการนำรูปถ่ายของพ.ต.ท.ทักษิณ มาตั้งเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันเหยียบย่ำด้วย

ในการลงชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ในครั้งนี้นายธรรมนูญ สุบงกช ชาวบ้านบ้านป่าหล่าย ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเดินทางมาร่วมชมการถ่ายทอดและร่วมลงชื่อถอดถอนตั้งแต่ช่วงบ่าย กล่าวว่า หลังจากดูรายการของ ASTV ทำให้ทราบถึงความไม่จริงใจของรัฐบาลที่ไม่ตอบคำถามให้กับประชาชน และรัฐบาลชุดนี้สนใจเพียงอย่างเดียวคือเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น ในขณะที่ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนกลับไม่ให้ความสำคัญ ไม่สนใจที่จะเข้ามาแก้ไขไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง น้ำมัน ราคาผลผลิต มั่วแต่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ สมควรที่จะถูกถอดถอดออกไปทั้งหมด

โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่มายื่นลงชื่อถอดถอน ส.ว.-ส.ส.ต่างกล่าวว่า รับไม่ได้กับพฤติกรรมของรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องการแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นการขอแก้ไขเพื่อตัวเอง ในขณะที่ปัญหาที่ควรจะแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาราคาน้ำมัน ราคาพืชผลทางการเกษตรกลับไม่สนใจที่จะแก้ไข แต่กลับมาเร่งที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว

ขณะที่การดูแลรักษาความปลอดภัย พ.ต.อ.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่มีทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ

ชาวหาดใหญ่ร่วมชุมนุมเต็มลาน ปชช.

ส่วนที่ลานประชาชน หน้าสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บรรยากาศการร่วมชมการถ่ายทอดสดชุมนุมใหญ่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อระบอบทักษิณ ของชาวหาดใหญ่ เป็นไปอย่างคึกคักโดยมีประชาชนเข้าร่วมชมการชุมนุมเต็มพื้นที่ลานประชาชน มากกว่าการจัดกิจกรรมทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา โดยทางทีมงานพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตยได้จัดเก้าอี้พลาสติกจำนวนมากไว้รองรับประชาชนที่เดินทางมาร่วมการชุมนุมครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ก่อนเวลา 19.00 น. ในช่วงบ่ายขณะที่ทีมงานพันธมิตรสงขลาฯ กำลังจัดเตรียมสถานที่ก็ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และมาหยุดลงในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. หลังฝนตกประชาชนที่มาร่วมชุมนุมมีจำนวนเพิ่มขึ้นจนเต็มลานประชาชน

นายสุมิตร นวลมณี 1 ในแกนนำพันธมิตรสงขลา เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ประชาชนจำนวนมากออกมาร่วมกันแสดงประชามติคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าแม้ขณะนี้ทุกคนต่างได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาสินค้ามีราคาแพงขึ้นหลายรายการส่งผลให้ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ แต่ทุกคนก็ยังร่วมแรงร่วมใจกันออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาติบ้านเมือง

"ในส่วนของพันธมิตรสงขลาจะมีการชุมนุมควบคู่ไปกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนกว่าจะถึงที่สุด หากทางกรุงเทพฯ ชุมนุมกันจนถึงเช้าเราก็จะชุมนุมกันถึงเช้าเหมือนกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน"

ทั้งนี้ ในส่วนของการถ่ายทอดสดการชุมนุมผ่านจอโปรเจคเตอร์แล้ว สถานีวิทยุ 102.75 เมกะเฮิร์ท วิทยุเสียงกรรมกร สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ ได้ดึงสัญยาณเสียงถ่ายทอดให้กับประชาชนในพื้นที่สามารถรับฟังได้อีกทางหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ พันธมิตรสงขลา ได้จัดเต็นท์จำหน่ายสินค้าที่ระลึก เช่น หมวก เสื้อยืด และธงสัญลักษณ์ วางขายให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไปของพันธมิตรสงขลาฯ โดยได้รับความสนใจจากผุ้เข้าร่วมชุมนุมเป็นอย่างมาก

ในส่วนของการลงชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น สามารถรวบรวมรายชื่อได้แล้วกว่า 1 พันรายชื่อ โดยคาดว่าจำนวนรายชื่อจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมเครื่องถ่ายเอกสารมาเตรียมไว้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง

คนขอนแก่นลั่นปกป้องสถาบันฯ

ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปกป้องระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ จ.ขอนแก่นอย่างมาก โดยพบว่าตามร้านค้า และบ้านเรือนประชาชนหลายแห่งต่างติดตามรับชมการถ่ายทอดสดของ ASTV ตลอดต่อเนื่อง

นอกจากนี้ประชาชนใน จ.ขอนแก่น ยังทยอยเดินทางมาขอหนังสือลงลายมือชื่อเพื่อขอให้วุฒิสภาถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมลงนามเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้พรรคการเมืองของตนเองพ้นผิดด้วย โดยมีประชาชนเดินทางมาร่วมลงชื่อเป็นจำนวนมาก

เจ้าของร้านขายน้ำผลไม้ปั่นรายหนึ่งที่ตลาดโต้รุ่ง หน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้ติดตามการถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมกับจำหน่ายน้ำผลไม้ไปด้วย กล่าวว่า ตนยอมรับไม่ได้ที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีมีความพยายามและแสดงทางการกระทำ และวาจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นที่เคารพของคนไทยมาก ไม่สมควรที่ใครจะมาลบหลู่และโดยส่วนตนนั้น ยอมตายแทนได้เพื่อปกป้องสถาบันให้อยู่กับคนไทยตลอดไป
กำลังโหลดความคิดเห็น