รอยเตอร์ - อีฟ แซงต์ ลอรองต์ ราชาแห่งวงการแฟชั่นชาวฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการยกย่องว่าหนึ่งในสัญญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยเป็นผู้ปฏิวัติการแต่งกายของสตรีใหม่หมด ได้สิ้นชีวิตลงแล้วเมื่อวันอาทิตย์(1)ที่ผ่านมา ในขณะมีอายุได้ 71 ปี
การออกแบบเสื้อผ้าของแซงต์ ลอรองต์ ได้รับการมองเป็นงานศิลปะของโลกแขนงหนึ่ง และคนจำนวนมากก็จดจำเขาในฐานะหนึ่งในสามผู้นำของวงการแฟชั่นโลก ซึ่งรวม คริสเตียน ดิออร์และโคโค ชาเนล ที่ทำให้ปารีสกลายเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก
ผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้าของแซงต์ ลอรองต์นั้น เป็นสตรีผู้มีชื่อเสียงอย่างเช่น เจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก ผู้ล่วงลับ ไปจนถึง แคธารีน เดอเนิฟ ดาราสาวผู้สง่างามของฝรั่งเศส แต่นอกจากนั้น แซงต์ ลอรองต์ ยังเป็นดีไซเนอร์ดังคนแรกที่ริเริ่มแนวคิดนำเอาเสื้อผ้าเหล่านี้ไปยังลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ในรูปแบบของเสื้อผ้าสำเร็จรูปยี่ห้อดัง
ชื่อเสียงของเขาดังก้องเวทีเดินแบบโลกเมื่อวัยเพียงแค่ 21 เท่านั้น และเขาก็ได้ขยายธุรกิจออกไปเป็นอาณาจักรธุรกิจความงามที่ครอบคลุมทั้งเสื้อผ้า, น้ำหอม และเครื่องประดับ จากนั้นก็นำบริษัทของเขาเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 1989 ซึ่งก็เป็นบริษัทแฟชั่นแห่งแรกที่ทำเช่นนี้
แม้ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่แซงต์ ลอรองต์กลับต้องทุกข์ทรมานกับปัญหาสุขภาพ ทั้งเรื่องโรคหัวใจ ความเครียดรุนแรง รวมทั้งเคยเข้ารับการบำบัดจากการติดเหล้ามาแล้วด้วย ครอบครัวและคนใกล้ชิดประกาศว่าเขาเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาและไม่ยอมให้รายละเอียดใด ๆของสาเหตุการเสียชีวิต
ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีแห่งฝรั่งเศสยกย่องแซงต์ ลอรองต์ว่าเป็นอัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์ "เขาเชื่อว่าความงามนั้นเป็นความฟุ่มเฟือยที่ชายและหญิงทุกคนถวิลหา"
"(โคโค) ชาเนลให้อิสระการแต่งกายแก่ผู้หญิง ส่วนอีฟส์ แซงต์ ลอรองต์ให้อำนาจแก่พวกเธอ" ปิแอร์ แบร์คเช่ อดีตคู่รักเพศเดียวกันและหุ้นส่วนธุรกิจที่ร่วมมือกันยาวนานเก่าแก่ของแซงต์ลอรองต์กล่าว
"แม้จะมีชื่อเสียงก้องโลก เขากลับเป็นคนขี้อายและปิดตัวเองมาก ๆ เขามีเพื่อนน้อยมากและมักซ่อนตัวเสียจากสายตาของคนทั้งโลก"
แซงต์ ลอรองต์ เกษียณอายุตัวเองเมื่อปี 2002 ก่อนหน้านั้นเขาได้สร้างผลงานชิ้นเยี่ยมที่เปลี่ยนการแต่งกายของผู้หญิงทั่วโลกไปตลอดกาล ด้วยการทำให้กางเกงกลายเป็นเครื่องแต่งกายประจำของผู้หญิงในเวลาทำงาน และสามารถเลือกใส่ทักซีโด้ในยามค่ำคืนหากว่าต้องการความหรูหรา
นอกจากนี้ผลงานเด่น ๆของเขายังมีมากมาย เขาทำให้คนหันมาคลั่งไคล้เสื้อซาฟารีและรองเท้าบู๊ธที่สูงถึงสะโพก และเขาทำให้เสื้อที่บางจนเห็นทะลุเนื้อตัวเป็นที่ยอมรับในวงสังคมชั้นสูง เสื้อสูทเสริมไหล่จากการออกแบบของเขาก็กลายเป็นชุดมาตรฐานจนกระทั่งปัจจุบัน และก็ได้ทำให้ชุดกลางคืนนั้นเรียบง่ายขึ้นมาก โดยมีทั้งแบบผ้าซาตินชนิดหลุดโลก ไปจนถึงชุดยาวสีขาวจับจีบพลิ้วไหวเหมือนของสาวกรีกโบราณ
"เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าของผู้หญิงใหม่หมด" แชนทาล โทมาส นักออกแบบชุดชั้นในกล่าวกับวิทยุฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง "แฟชั่นของเขาเต็มไปด้วยสีสันและแรงบันดาลใจจากศิลปะ"
แซงต์ ลอรองต์เป็นบุตรคนโตของนักอุตสาหกรรมผู้ร่ำรวยแห่งฝรั่งเศสคนหนึ่ง เขาเกิดและเติบโตที่แอลจีเรีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส เขาเริ่มแสดงความสามารถในด้านการออกแบบเสื้อผ้าโดยใช้ตุ๊กตาของน้องสาวมาเป็นแบบ และเมื่ออายุ 17 เขาเข้าเรียนการออกแบบที่โรงเรียนแฟชั่นแห่งปารีส และผลงานสเก๊ตทช์ชุดค็อกเทลของเขาได้รับรางวัลที่หนึ่งในการประกวดประจำปี
เขาได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคริสเตียน ดิออร์ และแซงต์ ลอรองต์ก็ได้รับการว่าจ้างจากดิออร์ เพื่อให้เป็นผู้สร้างสรรค์แนวทางเสื้อผ้าแบบ นิวลุ้ค และในที่สุดก็ได้กลายเป็นหัวหน้าผู้ช่วยของดิออร์ จนกระทั่งดิออร์เสียชีวิตในปี 1957 แซงต์ลอรองต์ก็กลายเป็นหัวหน้านักออกแบบของบริษัทและไม่นานนักเขาก็ฉายประกายโดดเด่นยิ่งกว่าผู้เป็นอาจารย์
การแสดงผลงานการออกแบบคอลเลคชั่นแรกของเขาทำให้ฝีมือของเขาได้รับการยอมรับในชั่วข้ามคืน เขาได้รับตำแหน่งสูงที่สุดในบริษัทดิออร์และคนที่ได้เห็นผลงานปฏิบัติกับเขาราวกับเป็นพระราชวงศ์ แซงต์ ลอรองต์กำกับแนวทางแฟชั่นของดิออร์อยู่สามปีจากนั้นก็ถูกเกณฑ์ทหารเพื่อสู้รบในสงครามแอลจีเรีย ซึ่งเขาได้รับกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรงจากกฏระเบียบที่เข้มงวดของกองทัพ ในที่สุดแซงต์ลอรองต์ก็ประสาทเสียต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลอยู่สามเดือน
แบร์เช่ช่วยเหลือเขาโดยการหานักลงทุนมาให้เพื่อให้แซงต์ลอรองต์ตั้งบริษัทเสื้อผ้าของตนเอง และในปี 1962 แซงต์ลอรองต์ก็มีงานแสดงเสื้อผ้าครั้งแรกภายใต้เครื่องหมายการค้า YSL อันเป็นตัวย่อของชื่อของเขาเอง และก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และอาณาจักรธุรกิจของอีฟส์ แซงต์ลอรองต์ก็เริ่มเติบโตขึ้นนับแต่นั้นมา
การออกแบบเสื้อผ้าของแซงต์ ลอรองต์ ได้รับการมองเป็นงานศิลปะของโลกแขนงหนึ่ง และคนจำนวนมากก็จดจำเขาในฐานะหนึ่งในสามผู้นำของวงการแฟชั่นโลก ซึ่งรวม คริสเตียน ดิออร์และโคโค ชาเนล ที่ทำให้ปารีสกลายเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก
ผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้าของแซงต์ ลอรองต์นั้น เป็นสตรีผู้มีชื่อเสียงอย่างเช่น เจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก ผู้ล่วงลับ ไปจนถึง แคธารีน เดอเนิฟ ดาราสาวผู้สง่างามของฝรั่งเศส แต่นอกจากนั้น แซงต์ ลอรองต์ ยังเป็นดีไซเนอร์ดังคนแรกที่ริเริ่มแนวคิดนำเอาเสื้อผ้าเหล่านี้ไปยังลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ในรูปแบบของเสื้อผ้าสำเร็จรูปยี่ห้อดัง
ชื่อเสียงของเขาดังก้องเวทีเดินแบบโลกเมื่อวัยเพียงแค่ 21 เท่านั้น และเขาก็ได้ขยายธุรกิจออกไปเป็นอาณาจักรธุรกิจความงามที่ครอบคลุมทั้งเสื้อผ้า, น้ำหอม และเครื่องประดับ จากนั้นก็นำบริษัทของเขาเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 1989 ซึ่งก็เป็นบริษัทแฟชั่นแห่งแรกที่ทำเช่นนี้
แม้ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่แซงต์ ลอรองต์กลับต้องทุกข์ทรมานกับปัญหาสุขภาพ ทั้งเรื่องโรคหัวใจ ความเครียดรุนแรง รวมทั้งเคยเข้ารับการบำบัดจากการติดเหล้ามาแล้วด้วย ครอบครัวและคนใกล้ชิดประกาศว่าเขาเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาและไม่ยอมให้รายละเอียดใด ๆของสาเหตุการเสียชีวิต
ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีแห่งฝรั่งเศสยกย่องแซงต์ ลอรองต์ว่าเป็นอัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์ "เขาเชื่อว่าความงามนั้นเป็นความฟุ่มเฟือยที่ชายและหญิงทุกคนถวิลหา"
"(โคโค) ชาเนลให้อิสระการแต่งกายแก่ผู้หญิง ส่วนอีฟส์ แซงต์ ลอรองต์ให้อำนาจแก่พวกเธอ" ปิแอร์ แบร์คเช่ อดีตคู่รักเพศเดียวกันและหุ้นส่วนธุรกิจที่ร่วมมือกันยาวนานเก่าแก่ของแซงต์ลอรองต์กล่าว
"แม้จะมีชื่อเสียงก้องโลก เขากลับเป็นคนขี้อายและปิดตัวเองมาก ๆ เขามีเพื่อนน้อยมากและมักซ่อนตัวเสียจากสายตาของคนทั้งโลก"
แซงต์ ลอรองต์ เกษียณอายุตัวเองเมื่อปี 2002 ก่อนหน้านั้นเขาได้สร้างผลงานชิ้นเยี่ยมที่เปลี่ยนการแต่งกายของผู้หญิงทั่วโลกไปตลอดกาล ด้วยการทำให้กางเกงกลายเป็นเครื่องแต่งกายประจำของผู้หญิงในเวลาทำงาน และสามารถเลือกใส่ทักซีโด้ในยามค่ำคืนหากว่าต้องการความหรูหรา
นอกจากนี้ผลงานเด่น ๆของเขายังมีมากมาย เขาทำให้คนหันมาคลั่งไคล้เสื้อซาฟารีและรองเท้าบู๊ธที่สูงถึงสะโพก และเขาทำให้เสื้อที่บางจนเห็นทะลุเนื้อตัวเป็นที่ยอมรับในวงสังคมชั้นสูง เสื้อสูทเสริมไหล่จากการออกแบบของเขาก็กลายเป็นชุดมาตรฐานจนกระทั่งปัจจุบัน และก็ได้ทำให้ชุดกลางคืนนั้นเรียบง่ายขึ้นมาก โดยมีทั้งแบบผ้าซาตินชนิดหลุดโลก ไปจนถึงชุดยาวสีขาวจับจีบพลิ้วไหวเหมือนของสาวกรีกโบราณ
"เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าของผู้หญิงใหม่หมด" แชนทาล โทมาส นักออกแบบชุดชั้นในกล่าวกับวิทยุฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง "แฟชั่นของเขาเต็มไปด้วยสีสันและแรงบันดาลใจจากศิลปะ"
แซงต์ ลอรองต์เป็นบุตรคนโตของนักอุตสาหกรรมผู้ร่ำรวยแห่งฝรั่งเศสคนหนึ่ง เขาเกิดและเติบโตที่แอลจีเรีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส เขาเริ่มแสดงความสามารถในด้านการออกแบบเสื้อผ้าโดยใช้ตุ๊กตาของน้องสาวมาเป็นแบบ และเมื่ออายุ 17 เขาเข้าเรียนการออกแบบที่โรงเรียนแฟชั่นแห่งปารีส และผลงานสเก๊ตทช์ชุดค็อกเทลของเขาได้รับรางวัลที่หนึ่งในการประกวดประจำปี
เขาได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคริสเตียน ดิออร์ และแซงต์ ลอรองต์ก็ได้รับการว่าจ้างจากดิออร์ เพื่อให้เป็นผู้สร้างสรรค์แนวทางเสื้อผ้าแบบ นิวลุ้ค และในที่สุดก็ได้กลายเป็นหัวหน้าผู้ช่วยของดิออร์ จนกระทั่งดิออร์เสียชีวิตในปี 1957 แซงต์ลอรองต์ก็กลายเป็นหัวหน้านักออกแบบของบริษัทและไม่นานนักเขาก็ฉายประกายโดดเด่นยิ่งกว่าผู้เป็นอาจารย์
การแสดงผลงานการออกแบบคอลเลคชั่นแรกของเขาทำให้ฝีมือของเขาได้รับการยอมรับในชั่วข้ามคืน เขาได้รับตำแหน่งสูงที่สุดในบริษัทดิออร์และคนที่ได้เห็นผลงานปฏิบัติกับเขาราวกับเป็นพระราชวงศ์ แซงต์ ลอรองต์กำกับแนวทางแฟชั่นของดิออร์อยู่สามปีจากนั้นก็ถูกเกณฑ์ทหารเพื่อสู้รบในสงครามแอลจีเรีย ซึ่งเขาได้รับกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรงจากกฏระเบียบที่เข้มงวดของกองทัพ ในที่สุดแซงต์ลอรองต์ก็ประสาทเสียต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลอยู่สามเดือน
แบร์เช่ช่วยเหลือเขาโดยการหานักลงทุนมาให้เพื่อให้แซงต์ลอรองต์ตั้งบริษัทเสื้อผ้าของตนเอง และในปี 1962 แซงต์ลอรองต์ก็มีงานแสดงเสื้อผ้าครั้งแรกภายใต้เครื่องหมายการค้า YSL อันเป็นตัวย่อของชื่อของเขาเอง และก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และอาณาจักรธุรกิจของอีฟส์ แซงต์ลอรองต์ก็เริ่มเติบโตขึ้นนับแต่นั้นมา