รอยเตอร์ – ประธานธนาคารโลก โรเบิร์ต เซลลิก ประกาศในวันพุธ(30) จัดสรรเงินตั้งเป็นกองทุนเงินกู้และให้เปล่ามูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศยากจนที่กำลังเดือดร้อนจากผลกระทบของราคาอาหารและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
กองทุนนี้จะให้รัฐบาลต่าง ๆที่กำลังต้องการงบประมาณเพิ่มขึ้น หรือต้องการความช่วยเหลือเป็นทั้งตัวเงินและอาหารสำหรับคนยากจนในประเทศ รวมทั้งส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในโครงการกระตุ้นการผลิตอาหาร ในรูปของการให้เมล็ดพันธุ์และปุ๋ยแก่เกษตรกร
การประกาศนี้มีขึ้นก่อนการเปิดประชุมสุดยอดอาหารโลกที่กรุงโรมในระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน รวมทั้งก่อนการหารือกันของผู้นำสุดยอดกลุ่ม 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี 8)
เซลลิกเรียกร้องให้ผู้นำลงมือดำเนินการแก้ไขปัญหา จากการที่ราคาอาหารกำลังเฟ้อขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต่างๆ มีเงินงบประมาณไม่เพียงพอในการอุดหนุนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จึงทำให้เกิดความวิตกันว่าจะมีการประท้วงและความรุนแรงที่เนื่องมาจากอาหารที่ไม่เพียงพอของประชาชนยากจนในหลายภูมิภาคของโลก
เซลลิกกล่าวว่าในการหารือที่กรุงโรมในสัปดาห์หน้า ควรจะเน้นเรื่องมาตรการฉุกเฉินที่ทุกประเทศร่วมมือกันได้
“ด้วยการร่วมมือกับประเทศและองค์กรต่าง ๆ แนวคิดเหล่านี้จะช่วยแก้ไขผลกระทบอันรุนแรงของความหิวโหย ภาวะทุพโภชนาในหมู่ประชากรโลกสองพันล้านคนซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดท่ามกลางราคาอาหารที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหาทางออกในระยะยาวที่ทุกประเทศและสถาบันจะต้องมาร่วมมือกันแก้ไขปัญหา” เขากล่าว
เซลลิกกล่าวว่าประเทศเฮติ, จิบูตี และ ไลบีเรีย จะได้รับเงินช่วยเหลือทันทีระหว่าง 5-10 ล้านดอลลาร์ ภายใต้โครงสร้างใหม่ที่ทำให้เงินไปถึงได้ทันท่วงที
นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารธนาคารโลกยังจะพิจารณาความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ทาจิกิสถาน, โตโก และเยเมนในเดือนมิถุนายนนี้ อีกทั้งตอนนี้ธนาคารก็กำลังศึกษาคำร้องขอความช่วยเหลือของอีก 7 ประเทศด้วย
ในขณะเดียวกันธนาคารโลกจะเข้าประเมินความต้องการของประเทศต่างๆ กว่า 24 ชาติ ว่าต้องการความช่วยเหลือประเภทใดบ้าง โดยธนาคารจะร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ
เซลลิกยังได้เปิดเผยต่อไปว่า ธนาคารโลกจะจัดตั้งกองทุนทรัสต์ฟันด์ที่ผู้บริจาคสามารถให้เงินเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยสำหรับเกษตรกรรายย่อย และนำไปให้พวกเขาก่อนจะถึงฤดูกาลเพาะปลูกหน้า
เซลลิกเป็นผู้นำองค์การระหว่างประเทศคนแรกๆ ที่ออกมาเตือนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า ราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นจะสร้างปัญหา และเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆให้ความสนใจกับภัยจากภาวะทุพโภชนาและความหิวโหยที่เพิ่มขึ้น
ประธานเวิลด์แบงก์ยังกล่าวอีกว่า ธนาคารโลกจะเพิ่มเงินกู้สำหรับการเกษตรให้เป็น 6,000 ล้านดอลลาร์ในปีหน้าจากระดับ 4,000 ล้านในปีนี้ เพื่อเร่งให้มีการผลิตอาหารเพิ่มขึ้น ฟื้นฟูการทำไร่นาในประเทศต่าง ๆที่ได้ถูกละเลยไป
เขาชี้ว่าการผลิตอาหารโลกจะต้องเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วง 30 ปีข้างหน้าเพื่อจะเลี้ยงประชากรโลกให้พอเพียง และจะต้องสร้างโอกาสสำหรับประเทศต่าง ๆให้พัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรและธุรกิจการเกษตรให้เข้มแข็งด้วย
กองทุนนี้จะให้รัฐบาลต่าง ๆที่กำลังต้องการงบประมาณเพิ่มขึ้น หรือต้องการความช่วยเหลือเป็นทั้งตัวเงินและอาหารสำหรับคนยากจนในประเทศ รวมทั้งส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในโครงการกระตุ้นการผลิตอาหาร ในรูปของการให้เมล็ดพันธุ์และปุ๋ยแก่เกษตรกร
การประกาศนี้มีขึ้นก่อนการเปิดประชุมสุดยอดอาหารโลกที่กรุงโรมในระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน รวมทั้งก่อนการหารือกันของผู้นำสุดยอดกลุ่ม 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี 8)
เซลลิกเรียกร้องให้ผู้นำลงมือดำเนินการแก้ไขปัญหา จากการที่ราคาอาหารกำลังเฟ้อขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต่างๆ มีเงินงบประมาณไม่เพียงพอในการอุดหนุนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จึงทำให้เกิดความวิตกันว่าจะมีการประท้วงและความรุนแรงที่เนื่องมาจากอาหารที่ไม่เพียงพอของประชาชนยากจนในหลายภูมิภาคของโลก
เซลลิกกล่าวว่าในการหารือที่กรุงโรมในสัปดาห์หน้า ควรจะเน้นเรื่องมาตรการฉุกเฉินที่ทุกประเทศร่วมมือกันได้
“ด้วยการร่วมมือกับประเทศและองค์กรต่าง ๆ แนวคิดเหล่านี้จะช่วยแก้ไขผลกระทบอันรุนแรงของความหิวโหย ภาวะทุพโภชนาในหมู่ประชากรโลกสองพันล้านคนซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดท่ามกลางราคาอาหารที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหาทางออกในระยะยาวที่ทุกประเทศและสถาบันจะต้องมาร่วมมือกันแก้ไขปัญหา” เขากล่าว
เซลลิกกล่าวว่าประเทศเฮติ, จิบูตี และ ไลบีเรีย จะได้รับเงินช่วยเหลือทันทีระหว่าง 5-10 ล้านดอลลาร์ ภายใต้โครงสร้างใหม่ที่ทำให้เงินไปถึงได้ทันท่วงที
นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารธนาคารโลกยังจะพิจารณาความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ทาจิกิสถาน, โตโก และเยเมนในเดือนมิถุนายนนี้ อีกทั้งตอนนี้ธนาคารก็กำลังศึกษาคำร้องขอความช่วยเหลือของอีก 7 ประเทศด้วย
ในขณะเดียวกันธนาคารโลกจะเข้าประเมินความต้องการของประเทศต่างๆ กว่า 24 ชาติ ว่าต้องการความช่วยเหลือประเภทใดบ้าง โดยธนาคารจะร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ
เซลลิกยังได้เปิดเผยต่อไปว่า ธนาคารโลกจะจัดตั้งกองทุนทรัสต์ฟันด์ที่ผู้บริจาคสามารถให้เงินเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยสำหรับเกษตรกรรายย่อย และนำไปให้พวกเขาก่อนจะถึงฤดูกาลเพาะปลูกหน้า
เซลลิกเป็นผู้นำองค์การระหว่างประเทศคนแรกๆ ที่ออกมาเตือนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า ราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นจะสร้างปัญหา และเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆให้ความสนใจกับภัยจากภาวะทุพโภชนาและความหิวโหยที่เพิ่มขึ้น
ประธานเวิลด์แบงก์ยังกล่าวอีกว่า ธนาคารโลกจะเพิ่มเงินกู้สำหรับการเกษตรให้เป็น 6,000 ล้านดอลลาร์ในปีหน้าจากระดับ 4,000 ล้านในปีนี้ เพื่อเร่งให้มีการผลิตอาหารเพิ่มขึ้น ฟื้นฟูการทำไร่นาในประเทศต่าง ๆที่ได้ถูกละเลยไป
เขาชี้ว่าการผลิตอาหารโลกจะต้องเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วง 30 ปีข้างหน้าเพื่อจะเลี้ยงประชากรโลกให้พอเพียง และจะต้องสร้างโอกาสสำหรับประเทศต่าง ๆให้พัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรและธุรกิจการเกษตรให้เข้มแข็งด้วย