ระนอง - ปตท.สผ. เร่งสำรวจปิโตรเลียมในทะเลอันดามันของไทย ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ตั้งแต่ระนอง-สตูล ความหวังพบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตด้านพลังงาน
วานนี้( 30 พ.ค.)นายขจร ภาสะวณิช ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโครงการสำรวจ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้เข้าพบนางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อชี้แจงแผนการสำรวจปิโตรเลียมในทะเลอันดามัน ที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดระนองของบริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด เจ้าของสัมปทาน
นายขจร กล่าวว่า บริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด ได้รับสัมปทานสำรวจปิโตรเลียม โดยวิธีวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบสองมิติในทะเลอันดามัน แปลงหมายเลข A4/48 , A5/48 , A6/48 ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2550 โดยแปลงสำรวจดังกล่าวตั้งอยู่นอกชายฝั่งของ 6 จังหวัดอันดามัน คือ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมพื้นที่แปลงสำรวจ 68,820 ตารางกิโลเมตร ซึ่งระยะทางที่สั้นที่สุดจากฝั่งถึงขอบแปลงสำรวจประมาณ 50 กิโลเมตร อยู่ที่ จ.ภูเก็ต แปลงสำรวจมีระดับความลึกของน้ำตั้งแต่ 50 – 2,500 เมตร
นายขจร กล่าวว่า การสำรวจระยะช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 50 – 12 กุมภาพันธ์ 53 ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 53- 12 กุมภาพันธ์ 56 ซึ่งปัจจุบัน บริษัท ได้เริ่มดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 แปลง เพื่อขอความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่อาศัยหรือประกอบอาชีพอยู่บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทั้ง 6 จังหวัด รวม 25 อำเภอ 90 ตำบล โดยในวันที่ 24 มิถุนายน 2551 จะจัดประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็น ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซสระนอง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
นายขจร กล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวเป็นเพียงการสำรวจปิโตรเลียม เช่น ก๊าซธรรมชาติ และ น้ำมันดิบเท่านั้น ซึ่งจากการสำรวจที่ผ่านมาในพื้นที่แถบทะเลอันดามันทั้งในเขตประเทศอินโดนีเซีย และประเทศพม่า ที่มีการขุดเจาะขึ้นมาใช้แล้วยังไม่พบน้ำมันดิบแต่อย่างใด พบเพียงก๊าซธรรมชาติเท่านั้น หากแปลงที่กำลังสำรวจอยู่นี้เกิดพบน้ำมันดิบขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของประเทศไทย ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตด้านพลังงานที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ประชาชนยังไม่ต้องวิตกกังวลกับการสำรวจปิโตรเลียมของ ปตท. ในครั้งนี้ เพราะไม่มีการก่อสร้างสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการขุดเจาะ แต่จะใช้เรือขนาดใหญ่ในการสำรวจพร้อมติดตั้งอุปกรณ์สำรวจในทะเลลึกห่างจากฝั่งอย่างน้อย 50 กิโลเมตร
เรือประมงสามารถทำประมงได้ตามปกติ ขอเพียงแต่อย่าไปกีดขวางหรืออยู่ในแนวสำรวจเท่านั้น แต่จังหวัดระนองจะได้รับประโยชน์จากการที่ ปตท.ใช้ท่าเทียบเรือระนอง เป็นฐานในการลำเลียงอุปกรณ์สำรวจต่าง ๆ และหากสำรวจแล้วพบก๊าซธรรมชาติ หรือน้ำมันดิบก็จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติโดยส่วนรวมในอนาคต
วานนี้( 30 พ.ค.)นายขจร ภาสะวณิช ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโครงการสำรวจ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้เข้าพบนางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อชี้แจงแผนการสำรวจปิโตรเลียมในทะเลอันดามัน ที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดระนองของบริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด เจ้าของสัมปทาน
นายขจร กล่าวว่า บริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด ได้รับสัมปทานสำรวจปิโตรเลียม โดยวิธีวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบสองมิติในทะเลอันดามัน แปลงหมายเลข A4/48 , A5/48 , A6/48 ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2550 โดยแปลงสำรวจดังกล่าวตั้งอยู่นอกชายฝั่งของ 6 จังหวัดอันดามัน คือ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมพื้นที่แปลงสำรวจ 68,820 ตารางกิโลเมตร ซึ่งระยะทางที่สั้นที่สุดจากฝั่งถึงขอบแปลงสำรวจประมาณ 50 กิโลเมตร อยู่ที่ จ.ภูเก็ต แปลงสำรวจมีระดับความลึกของน้ำตั้งแต่ 50 – 2,500 เมตร
นายขจร กล่าวว่า การสำรวจระยะช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 50 – 12 กุมภาพันธ์ 53 ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 53- 12 กุมภาพันธ์ 56 ซึ่งปัจจุบัน บริษัท ได้เริ่มดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 แปลง เพื่อขอความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่อาศัยหรือประกอบอาชีพอยู่บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทั้ง 6 จังหวัด รวม 25 อำเภอ 90 ตำบล โดยในวันที่ 24 มิถุนายน 2551 จะจัดประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็น ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซสระนอง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
นายขจร กล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวเป็นเพียงการสำรวจปิโตรเลียม เช่น ก๊าซธรรมชาติ และ น้ำมันดิบเท่านั้น ซึ่งจากการสำรวจที่ผ่านมาในพื้นที่แถบทะเลอันดามันทั้งในเขตประเทศอินโดนีเซีย และประเทศพม่า ที่มีการขุดเจาะขึ้นมาใช้แล้วยังไม่พบน้ำมันดิบแต่อย่างใด พบเพียงก๊าซธรรมชาติเท่านั้น หากแปลงที่กำลังสำรวจอยู่นี้เกิดพบน้ำมันดิบขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของประเทศไทย ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตด้านพลังงานที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ประชาชนยังไม่ต้องวิตกกังวลกับการสำรวจปิโตรเลียมของ ปตท. ในครั้งนี้ เพราะไม่มีการก่อสร้างสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการขุดเจาะ แต่จะใช้เรือขนาดใหญ่ในการสำรวจพร้อมติดตั้งอุปกรณ์สำรวจในทะเลลึกห่างจากฝั่งอย่างน้อย 50 กิโลเมตร
เรือประมงสามารถทำประมงได้ตามปกติ ขอเพียงแต่อย่าไปกีดขวางหรืออยู่ในแนวสำรวจเท่านั้น แต่จังหวัดระนองจะได้รับประโยชน์จากการที่ ปตท.ใช้ท่าเทียบเรือระนอง เป็นฐานในการลำเลียงอุปกรณ์สำรวจต่าง ๆ และหากสำรวจแล้วพบก๊าซธรรมชาติ หรือน้ำมันดิบก็จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติโดยส่วนรวมในอนาคต