นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หลังเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ แล้วก็จะเริ่มประชุมทุกวันพุธและพฤหัสโดยเริ่มจากวันที่ 11 มิ.ย.นี้เข้าใจว่าจะมีการพิจารณากฎหมายที่จำเป็นซึ่งต้องพิจารณาให้เสร็จก่อนภายใน1ปีจำนวน 5 ฉบับหนึ่งในนั้นน่าจะมี พ.ร.บ.ประชามติอยู่ด้วย ตามมาด้วยการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2552
นอกจากนี้ข้อบังคับการประชุมสภาฯฉบับใหม่ยังเปิดโอกาสให้เสนอญัตติที่คล้ายกับญัตติที่ยื่นเข้ามาสภาฯแล้วได้ โดยหากญัตติใดที่ยังไม่ได้รับการบรรจุในวาระการประชุม ส.ส.ผู้อื่น ก็สามารถเสนอญัตติที่เกี่ยวข้องกันเข้ามาประกบได้ แต่ถ้าญัตติแรกได้รับการบรรจุไปแล้ว ก็ไม่สามารถ เสนอญัตติที่คล้ายกันเข้ามาได้อีก
นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุม กกต. ว่า ที่ประชุม กกต.ยังพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติไม่แล้วเสร็จ โดยเหลืออีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะนำกลับมาพิจารณาต่อในวันที่ 30 พ.ค. คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จ และสามารถส่งให้สภา พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาของ กกต.ได้พิจารณารายมาตรา โดยมีการปรับปรุงถ้อยคำในบางมาตราที่คณะกรรมการด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ ที่มีนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธานเสนอมา
สำหรับมาตราที่มีการ อภิปรายกันมาก คือ มาตรา 8 ที่เกี่ยวข้องกับจำนวน ผู้ออกเสียงประชามติที่ กกต. เห็นตามที่คณะกรรมการฯเสนอมาว่า ในการทำประชามติเรื่องที่มีลักษณะบังคับ เช่น การจัดทำประชามติว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นต้องมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมา ใช้สิทธิเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด และเมื่อใช้สิทธิแล้วเสียงที่จะถือว่าผ่านการทำประชามติ ต้องเป็นเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ
ส่วนที่มีการแก้ไข คือกรณีการทำประชามติที่เป็นลักษณะการขอคำปรึกษา โดยมีการกำหนดให้ผู้ที่ออกมาใช้สิทธิต้องไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 หรือร้อยละ 20 ของจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด และเมื่อใช้สิทธิแล้วจำนวนเสียงที่ผ่านการทำประชามติให้ใช้หลักของเสียงข้างมาก
อย่างไรก็ตามหลักเกณฑ์เหล่านี้เมื่อไปถึงรัฐสภาอาจจะมีการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงได้ แต่ทั้งนี้ในส่วนของจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติที่มีสภาพบังคับ กกต.เห็นว่า การกำหนดจำนวนเสียงดังกล่าวมีความเหมาะสมและจะทำให้เกิดความชอบธรรมว่าผลที่ได้จะถือว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมกกต.ครั้งนี้ที่ประชุมสามารถพิจารณาพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวได้ 14 มาตรา เนื่องจากนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านพรรคการเมืองและการออกเสียงประชาชนและนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.ติดภารกิจสำคัญ จึงเลื่อนการพิจารณาออกไป
นอกจากนี้ข้อบังคับการประชุมสภาฯฉบับใหม่ยังเปิดโอกาสให้เสนอญัตติที่คล้ายกับญัตติที่ยื่นเข้ามาสภาฯแล้วได้ โดยหากญัตติใดที่ยังไม่ได้รับการบรรจุในวาระการประชุม ส.ส.ผู้อื่น ก็สามารถเสนอญัตติที่เกี่ยวข้องกันเข้ามาประกบได้ แต่ถ้าญัตติแรกได้รับการบรรจุไปแล้ว ก็ไม่สามารถ เสนอญัตติที่คล้ายกันเข้ามาได้อีก
นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุม กกต. ว่า ที่ประชุม กกต.ยังพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติไม่แล้วเสร็จ โดยเหลืออีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะนำกลับมาพิจารณาต่อในวันที่ 30 พ.ค. คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จ และสามารถส่งให้สภา พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาของ กกต.ได้พิจารณารายมาตรา โดยมีการปรับปรุงถ้อยคำในบางมาตราที่คณะกรรมการด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ ที่มีนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธานเสนอมา
สำหรับมาตราที่มีการ อภิปรายกันมาก คือ มาตรา 8 ที่เกี่ยวข้องกับจำนวน ผู้ออกเสียงประชามติที่ กกต. เห็นตามที่คณะกรรมการฯเสนอมาว่า ในการทำประชามติเรื่องที่มีลักษณะบังคับ เช่น การจัดทำประชามติว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นต้องมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมา ใช้สิทธิเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด และเมื่อใช้สิทธิแล้วเสียงที่จะถือว่าผ่านการทำประชามติ ต้องเป็นเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ
ส่วนที่มีการแก้ไข คือกรณีการทำประชามติที่เป็นลักษณะการขอคำปรึกษา โดยมีการกำหนดให้ผู้ที่ออกมาใช้สิทธิต้องไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 หรือร้อยละ 20 ของจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด และเมื่อใช้สิทธิแล้วจำนวนเสียงที่ผ่านการทำประชามติให้ใช้หลักของเสียงข้างมาก
อย่างไรก็ตามหลักเกณฑ์เหล่านี้เมื่อไปถึงรัฐสภาอาจจะมีการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงได้ แต่ทั้งนี้ในส่วนของจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติที่มีสภาพบังคับ กกต.เห็นว่า การกำหนดจำนวนเสียงดังกล่าวมีความเหมาะสมและจะทำให้เกิดความชอบธรรมว่าผลที่ได้จะถือว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมกกต.ครั้งนี้ที่ประชุมสามารถพิจารณาพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวได้ 14 มาตรา เนื่องจากนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านพรรคการเมืองและการออกเสียงประชาชนและนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.ติดภารกิจสำคัญ จึงเลื่อนการพิจารณาออกไป