ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ ( 28 พ.ค. ) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เป็นประธานประชุมสภากลาโหม โดยมี พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ,พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. , พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. , พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. ขาดแต่เพียง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ติดภารกิจ เนื่องจากต้องไปเยี่ยมอาการมารดา ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่รพ.พระมงกุฎเกล้า โดยใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง
นายสมัคร ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม โดยผู้สื่อข่าวพยายามซักถามถึงผลการประชุม โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่นายสมัคร กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นบนท้องฟ้าว่า "ฝนตกๆ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า ทหารจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวอะไรในเวลานี้ นายสมัคร กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "ให้ถามทหารดู" จากนั้นได้ขึ้นรถตู้ เดินทางออกจากกระทรวงกลาโหมทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประชุมสภากลาโหม ผบ.เหล่าทัพได้เข้าร่วมประชุมนอกรอบร่วมกับ พล.อ.วินัย ที่ห้องภายในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้มีการหารือถึงสถานการณ์ การเมืองกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมได้วางแผนป้องปราม หากสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้น โดยคาดว่าจะมีการนำพ.ร.บ.ความมั่นคงหรือพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ในส่วนของกระทรวงกลาโหม
**ปฏิวัติหรือไม่ให้ถามผบ.เหล่าทัพ
พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมต้องรอ ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุม ซึ่งต้องรอพวกท่าน ตนคงตอบไม่ได้ เพราะตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มสมาพันธ์ประชาธิปไตย เรียกร้องให้ปลด พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมและ พล.อ.สพรั่ง ออกจากตำแหน่ง พล.อ.สพรั่ง ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า เขาไปยื่นแล้วหรือยัง ถ้าเขาไปยื่นแล้ว ก็ต้องดูผลต่อไปว่ามันจะทำตามนั้นได้หรือไม่ บอกเขาไปด้วยว่า "อย่าบังอาจ"
เมื่อถามถึงดูสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร โดยเฉพาะมีกลุ่มคนปะทะกัน พล.อ.สพรั่ง หันมาถามผู้สื่อข่าว และถามว่า ปะทะกันแล้ว หรือ ผู้สื่อข่าวก็บอกว่า ได้มีการปะทะกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พล.อ.สพรั่ง จึงกล่าวว่า สื่อชอบให้ตนพูด เพื่อที่จะได้ลงข่าว ดังนั้น รอจังหวะดีๆ ตนจะออกมาให้สัมภาษณ์อีกทีก็แล้วกัน
เมื่อถามว่า สถานการณ์จะเกิดความวุ่นวายไปมากกว่านี้หรือไม่ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ถ้าไม่มีคนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ยังวางแผนเผชิญหน้ากันอยู่ ตนเชื่อว่า มันหลีกเลี่ยงความรุนแรงไม่ได้ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น
ส่วนกรณีที่กลุ่ม นปก.ออกมาโจมตีว่า พล.อ.สพรั่ง ไม่ได้เป็นทหารประชาธิปไตย เป็นทหารเผด็จการนั้น พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ถ้าเขาว่า ตนไม่เป็นทหารประชาธิปไตย ถ้าตนไม่เป็นทหารประชาธิปไตย ป่านนี้พวกเขาไม่เหลือเลย ถ้าทหารเผด็จการจัดการในสิ่งที่ประเทศป่าเถื่อนเขาทำกัน ช่วยบอกเขาด้วยว่าตนเป็นทหารประชาธิปไตย 100%
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ในขณะนี้จะนำไปสู่การปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ตนไม่อยากพูด ตนไม่พูด
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ประชาชนมีความกังวลมากว่า ทหารจะออกมาปฏิวัติ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า เรื่องนี้ให้ถาม ผบ.เหล่าทัพ ก็แล้วกัน
**ใครทำปฏิวัติก็โง่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ. ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภากลาโหม ว่า ผบ.เหล่าทัพ มาพูดคุยและติดตามสถานการณ์กัน รวมถึงพูดคุยเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการปฏิวัติ แต่อย่างใด ส่วนสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ผบ.เหล่าทัพเป็นห่วงกันทุกคน การจะรุนแรงหรือไม่รุนแรง อยู่ที่เราทั้งหมด แต่ ผบ.เหล่าทัพได้ติดตามสถานการณ์ และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรง เพราะหากประเทศชาติวุ่นวาย ก็จะเกิดความสูญเสีย
ทั้งนี้ ในการประชุมสภากลาโหม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพ ยืนยันหรือไม่ว่ากองทัพจะไม่ปฏิวัติ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนยืนยัน และตอบไม่ได้ เพราะถ้าใครปฏิวัติ คงไม่บอก แต่เรารู้ตัวของเราเองว่าเราไม่ทำ ทั้งนี้เราไม่นิยมใช้อำนาจของตนเอง และใครจะโง่ทำปฏิวัติ เพราะถ้าทำตอนนี้ก็ยุ่งตาย สถานการณ์บ้านเมืองเราก็เห็นๆ กันอยู่
**เรื่องชุมนุม นายกฯจะดูแลเอง
ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือนอกรอบว่า ไม่ได้หารือเรื่องการปฎิวัติ แต่เราหารือเรื่องงบประมาณที่จะนำเข้าสภา ส่วนกรณีที่มีการหารือกันนอกรอบ เพราะผบ.เหล่าทัพไม่ค่อยได้เจอกัน และ ผบ.สส. เพิ่งกลับจากต่างประเทศ และในฐานะที่เราเกี่ยวข้องในเรื่องความมั่นคง คงจะต้องมีการพูดคุยบ้าง ทั้งนี้การที่เรามีการพูดคุยกันไม่ใช่การวางแผนลับ ลวง พราง ไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า ได้หารือถึงสถานการณ์การชุมนุม ที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย จนอาจจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นหรือไม่ พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า น่าเป็นห่วง แต่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า พร้อมที่จะแก้ไขสถานการณ์ และทำอะไรต่างๆได้ คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนต้องพยายามทำให้อยู่ในกรอบกฎหมาย
เมื่อถามว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ทหารจะออกมาใช่หรือไม่ พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า ไม่ใช่เวลาอะไรทั้งสิ้น ไม่มี เมื่อถามว่า ต้องรอคุยกับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ก่อนหรือไม่ พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า ใช่ วันนี้ท่านติดธุระส่วนตัว
**เชื่อยังไม่ถึงจุดแตกหัก
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อการชุมนุมอย่างไรบ้าง พล.อ.อ. ชลิต กล่าวว่า ท่านบอกว่าจะดูแลเอง โดยใช้ตำรวจในการดำเนินการ ซึ่งเป็นหน้าที่ปกติอยู่แล้ว ไม่มีอะไร
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมสภากลาโหม นายสมัคร ได้กำชับให้ ผบ.เหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีการปะทะกับกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในบ้านเมือง และจะส่งผลกระทบต่อความเสียหายต่อประเทศ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายสมัคร ได้กล่าวกับ ผบ.เหล่าทัพว่า อยากให้ ผบ.เหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง เพราะการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด ตามระเบียบความสงบภายในประเทศ ทั้งนี้ ถ้าจะให้กำลังทหารเพื่อไประงับเหตุความวุ่นวาย จะต้องดำเนินการไปตามระเบียบขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับ หากจะใช้กำลังทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ซึ่งจะต้องเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาก่อน ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นจะต้องใช้กำลังทหาร เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ถึงจุดแตกหัก จึงใช้กำลังตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อย
นอกจากนี้ ในที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงกระแสข่าวที่กองทัพ จะทำการปฏิวัติ และนายสมัครไม่ได้สอบถาม ผบ. เหล่าทัพ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดแตกหัก ซึ่งการปฏิวัติ จะเกิดขึ้น ต่อเมื่อรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ทหารจึงจะออกมาทำการปฏิวัติ
**"เหวง"เบรกทหารอย่ายุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย พร้อมด้วย นพ.เหวง โตจิราการ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพื่อขอให้ทหารเป็นองค์หลักในการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข โดยมี พ.อ.องอาจ จิรานุภาพ หัวหน้ากองธุรการสำนักงานเลขานุการ ทบ. เป็นตัวแทนรับมอบ
หลังจากนั้นได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง นายสมัคร สุนทรเวช รมว.กลาโหม เพื่อขอให้พิจารณาปลด พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม ประธานที่ปรึกษา กระทรวงกลาโหม และพล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ออกจากตำแหน่งทางราชการ โดยอ้างว่า ที่ผ่านมานายทหารทั้งสองคน ได้แสดงความเห็นให้ใช้กำลังทหารเข้ามาแก้ไขปัญหาการเมือง ซึ่งเท่ากับสนับสนุนทหาร ทำการปฎิวัติ
นายสมัคร ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม โดยผู้สื่อข่าวพยายามซักถามถึงผลการประชุม โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่นายสมัคร กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นบนท้องฟ้าว่า "ฝนตกๆ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า ทหารจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวอะไรในเวลานี้ นายสมัคร กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "ให้ถามทหารดู" จากนั้นได้ขึ้นรถตู้ เดินทางออกจากกระทรวงกลาโหมทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประชุมสภากลาโหม ผบ.เหล่าทัพได้เข้าร่วมประชุมนอกรอบร่วมกับ พล.อ.วินัย ที่ห้องภายในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้มีการหารือถึงสถานการณ์ การเมืองกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมได้วางแผนป้องปราม หากสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้น โดยคาดว่าจะมีการนำพ.ร.บ.ความมั่นคงหรือพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ในส่วนของกระทรวงกลาโหม
**ปฏิวัติหรือไม่ให้ถามผบ.เหล่าทัพ
พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมต้องรอ ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุม ซึ่งต้องรอพวกท่าน ตนคงตอบไม่ได้ เพราะตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มสมาพันธ์ประชาธิปไตย เรียกร้องให้ปลด พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมและ พล.อ.สพรั่ง ออกจากตำแหน่ง พล.อ.สพรั่ง ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า เขาไปยื่นแล้วหรือยัง ถ้าเขาไปยื่นแล้ว ก็ต้องดูผลต่อไปว่ามันจะทำตามนั้นได้หรือไม่ บอกเขาไปด้วยว่า "อย่าบังอาจ"
เมื่อถามถึงดูสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร โดยเฉพาะมีกลุ่มคนปะทะกัน พล.อ.สพรั่ง หันมาถามผู้สื่อข่าว และถามว่า ปะทะกันแล้ว หรือ ผู้สื่อข่าวก็บอกว่า ได้มีการปะทะกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พล.อ.สพรั่ง จึงกล่าวว่า สื่อชอบให้ตนพูด เพื่อที่จะได้ลงข่าว ดังนั้น รอจังหวะดีๆ ตนจะออกมาให้สัมภาษณ์อีกทีก็แล้วกัน
เมื่อถามว่า สถานการณ์จะเกิดความวุ่นวายไปมากกว่านี้หรือไม่ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ถ้าไม่มีคนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ยังวางแผนเผชิญหน้ากันอยู่ ตนเชื่อว่า มันหลีกเลี่ยงความรุนแรงไม่ได้ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น
ส่วนกรณีที่กลุ่ม นปก.ออกมาโจมตีว่า พล.อ.สพรั่ง ไม่ได้เป็นทหารประชาธิปไตย เป็นทหารเผด็จการนั้น พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ถ้าเขาว่า ตนไม่เป็นทหารประชาธิปไตย ถ้าตนไม่เป็นทหารประชาธิปไตย ป่านนี้พวกเขาไม่เหลือเลย ถ้าทหารเผด็จการจัดการในสิ่งที่ประเทศป่าเถื่อนเขาทำกัน ช่วยบอกเขาด้วยว่าตนเป็นทหารประชาธิปไตย 100%
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ในขณะนี้จะนำไปสู่การปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ตนไม่อยากพูด ตนไม่พูด
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ประชาชนมีความกังวลมากว่า ทหารจะออกมาปฏิวัติ พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า เรื่องนี้ให้ถาม ผบ.เหล่าทัพ ก็แล้วกัน
**ใครทำปฏิวัติก็โง่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ. ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภากลาโหม ว่า ผบ.เหล่าทัพ มาพูดคุยและติดตามสถานการณ์กัน รวมถึงพูดคุยเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการปฏิวัติ แต่อย่างใด ส่วนสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ผบ.เหล่าทัพเป็นห่วงกันทุกคน การจะรุนแรงหรือไม่รุนแรง อยู่ที่เราทั้งหมด แต่ ผบ.เหล่าทัพได้ติดตามสถานการณ์ และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรง เพราะหากประเทศชาติวุ่นวาย ก็จะเกิดความสูญเสีย
ทั้งนี้ ในการประชุมสภากลาโหม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพ ยืนยันหรือไม่ว่ากองทัพจะไม่ปฏิวัติ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนยืนยัน และตอบไม่ได้ เพราะถ้าใครปฏิวัติ คงไม่บอก แต่เรารู้ตัวของเราเองว่าเราไม่ทำ ทั้งนี้เราไม่นิยมใช้อำนาจของตนเอง และใครจะโง่ทำปฏิวัติ เพราะถ้าทำตอนนี้ก็ยุ่งตาย สถานการณ์บ้านเมืองเราก็เห็นๆ กันอยู่
**เรื่องชุมนุม นายกฯจะดูแลเอง
ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือนอกรอบว่า ไม่ได้หารือเรื่องการปฎิวัติ แต่เราหารือเรื่องงบประมาณที่จะนำเข้าสภา ส่วนกรณีที่มีการหารือกันนอกรอบ เพราะผบ.เหล่าทัพไม่ค่อยได้เจอกัน และ ผบ.สส. เพิ่งกลับจากต่างประเทศ และในฐานะที่เราเกี่ยวข้องในเรื่องความมั่นคง คงจะต้องมีการพูดคุยบ้าง ทั้งนี้การที่เรามีการพูดคุยกันไม่ใช่การวางแผนลับ ลวง พราง ไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า ได้หารือถึงสถานการณ์การชุมนุม ที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย จนอาจจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นหรือไม่ พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า น่าเป็นห่วง แต่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า พร้อมที่จะแก้ไขสถานการณ์ และทำอะไรต่างๆได้ คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนต้องพยายามทำให้อยู่ในกรอบกฎหมาย
เมื่อถามว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ทหารจะออกมาใช่หรือไม่ พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า ไม่ใช่เวลาอะไรทั้งสิ้น ไม่มี เมื่อถามว่า ต้องรอคุยกับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ก่อนหรือไม่ พล.อ.อ ชลิต กล่าวว่า ใช่ วันนี้ท่านติดธุระส่วนตัว
**เชื่อยังไม่ถึงจุดแตกหัก
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อการชุมนุมอย่างไรบ้าง พล.อ.อ. ชลิต กล่าวว่า ท่านบอกว่าจะดูแลเอง โดยใช้ตำรวจในการดำเนินการ ซึ่งเป็นหน้าที่ปกติอยู่แล้ว ไม่มีอะไร
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมสภากลาโหม นายสมัคร ได้กำชับให้ ผบ.เหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีการปะทะกับกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในบ้านเมือง และจะส่งผลกระทบต่อความเสียหายต่อประเทศ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายสมัคร ได้กล่าวกับ ผบ.เหล่าทัพว่า อยากให้ ผบ.เหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง เพราะการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด ตามระเบียบความสงบภายในประเทศ ทั้งนี้ ถ้าจะให้กำลังทหารเพื่อไประงับเหตุความวุ่นวาย จะต้องดำเนินการไปตามระเบียบขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับ หากจะใช้กำลังทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ซึ่งจะต้องเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาก่อน ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นจะต้องใช้กำลังทหาร เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ถึงจุดแตกหัก จึงใช้กำลังตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อย
นอกจากนี้ ในที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงกระแสข่าวที่กองทัพ จะทำการปฏิวัติ และนายสมัครไม่ได้สอบถาม ผบ. เหล่าทัพ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดแตกหัก ซึ่งการปฏิวัติ จะเกิดขึ้น ต่อเมื่อรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ทหารจึงจะออกมาทำการปฏิวัติ
**"เหวง"เบรกทหารอย่ายุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย พร้อมด้วย นพ.เหวง โตจิราการ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพื่อขอให้ทหารเป็นองค์หลักในการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข โดยมี พ.อ.องอาจ จิรานุภาพ หัวหน้ากองธุรการสำนักงานเลขานุการ ทบ. เป็นตัวแทนรับมอบ
หลังจากนั้นได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง นายสมัคร สุนทรเวช รมว.กลาโหม เพื่อขอให้พิจารณาปลด พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม ประธานที่ปรึกษา กระทรวงกลาโหม และพล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ออกจากตำแหน่งทางราชการ โดยอ้างว่า ที่ผ่านมานายทหารทั้งสองคน ได้แสดงความเห็นให้ใช้กำลังทหารเข้ามาแก้ไขปัญหาการเมือง ซึ่งเท่ากับสนับสนุนทหาร ทำการปฎิวัติ
