xs
xsm
sm
md
lg

PFออกหุ้นกู้พันล. เร่งก่อสร้างดันโอน ทันมาตรการภาษี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการารายวัน – เพอร์เฟคฯ เล็งขออนุมัติบอร์ดออกหุ้นกู้แปลงสภาพ 1,000 ล้านบาท ขายต่างชาติ หวังนำเงินเร่งงานก่อสร้างโครงการ ให้เสร็จทันมาตรการภาษี สิ้นมี.ค.ปี52 ระบุลดค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 4% เตรียมขึ้นราคาขายคอนโดฯ15% บ้านเดี่ยว 2% ทาวน์เฮาส์ 5% แจงต้นุทุนโดยรวมปรับขึ้น 20-30% โดยเฉพาะเหล็กพุ่งกว่า 20%

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พร็อพเพอร์ติ้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่าในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ บริษัทเตรียมขออนุมัติที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร เพื่อขอออกหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือวอแรนท์ จำนวน30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อเสนอขายแบบเจาะจงให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจจากนักลงทุน 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ สหรัฐฯ และ ฮ่องกง โดยคาดว่าจะสามารถเสนอขายได้ภายในไตรมาสที่ 3 นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ PF ได้มีการขออนุมัติบอร์ดอนุมัติออกหุ้นกู้แบบปกติจำนวน 2,000 ล้านบบาท ซึ่งจะสามารถนำออกขายในตลาดได้ในไตรมาส 3 เช่นกัน

ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯนั้น เพื่อนำเงินไปใช้เร่งรัดการก่อสร้างโครงการต่างๆที่อย่าระหว่างการดำเนินการเพื่อให้สามารถโอนให้กับลูกค้าได้ทันกับมาตรการทางภาษีของรัฐบาลที่จะหมดอายุในสินเดือน มี.ค.52 ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารการขาย (SG&A)ได้ถึง 4%

“การออกหุ้นกู้แปลงสภาพเพื่อนำเงินมาใช้เร่งงานก่อสร้างโครงการนั้น จะทำให้บริษัทมีลอบหมุนเวียนสต็อกสินค้าในแต่ละไลน์คล่องตัวขึ้น และจะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มแบล็คล็อคยอดขายเพื่อรอรับรู้รายได้ในไตรมาส1/ 52 และทันมาตรการทางภาษีของภาครัฐฯ และจะทำให้บริษัทมียอดรับรู้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ทั้งปี”

อย่างไรก็ตามแนวโน้มการปรับตัวของราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันที่ต่อเนื่องส่งผลให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการใหม่ปรับตัวสูงขึ้นไปด้วย โดยนับจากปีที่ผ่านมาต้นทุนการก่อสร้างบ้านเดี่ยวมีการปรับตัวสูงขึ้นกว่า 15% ในขณะที่ต้นทุนการก่อสร้างบ้านเดี่ยวปรับตัวสูงขึ้น 15-20% ส่วนต้นทุนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมีการปรับตัวขึ้น 30-35%

สำหรับสาเหตุที่ต้นทุนโครงการคอนโดมิเนียมปรับตัวสูงกว่า 30-35% นั้นเนื่องจาก ราคาขายที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการพัฒนาโครงการปรับตัวสูงขึ้น 2-3 เท่าตัว ในขณะที่ราคาเหล็กซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างหลักของโครงการคอนโดมิเนียมปรับตัวสูงขึ้นมาแล้วกว่า 20% จากเดิมที่ก่อนหน้านั้นราคาขายเหล็กต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 25บาทเพิ่มเป็น 40 บาทต่อกิโลกรัม และคาดว่าจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 45 บาทต่อกิโลกรัม

นายธีระชน กล่าวว่า จากการปรับตัวของต้นทุนการพัฒนาโครงการดังกล่าว ทำให้บริษัท มีแผนจะปรับราคาขายโครงการอาคารชุดขึ้น 15% ในไตรมาสที่ 3 และปรับราคาขายบ้านเดี่ยวขึ้นอีก 2% ในไตรมาส 3 ของปี นอกจากนี้ยังมีแผนจะปรับราคาขายทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น 5% ไตรมาส 3 เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามการปรับราคาขายสินค้าดังกล่าวจะมีการปรับราคาขายอีกครั้งในช่วงไตรมาสแรกของปี 52 เพื่อรองรับต้นทุนใหม่ สำหรับราคาขายโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่นั้นบริษัทจะปรับขึ้นตามต้นใหม่ทันที

“การปรับตัวของต้นทุนการก่อสร้างใหม่ที่ยังมีแนวโน้มต่อเนื่องอยู่นั้น ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคปรับตัวตามไปด้วย ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา PF มีการปรับตัวในการพัฒนาสินค้าใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และในปี51 นี้บริษัทมีนโยบายการปรับสัดส่วนการพัฒนาโครงการใหม่โดยหันมาเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์เพิ่มเป็น 10% จากเดิมมีสัดส่วน8% เพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการอาคารชุดเป็น 30%จากเดิมมีสัดส่วนการพัฒนา 20% และลดสัดส่วนการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวลงมาเหลือ 55% จากเดิมมีสัดส่วนการพัฒนา 70% ในขณะที่ปรับสัดส่วนพัฒนาโครงการบ้านแฝดเพิ่มเป็น 5% จากเดิมมีสัดส่วนการพัฒนา 2%”

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่จากเดือน มิ.ย.51-ไตรมาสแรกปี52 รวม 7โครงการเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวไปตามต้นทุนการเดินทางและต้นทุนการก่อสร้าง รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยโครงการดังกล่าวประกอบด้วยโครงการอาคารชุดแบรนด์ เมทโทร พาร์ค 3 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการเมทโทรพาร์ค สาทร เฟส3, เมทโทรพาร์ค สุขุมวิท และโครงการเมทโทรพาร์ค รัชดาภิเษก ส่วนที่เหลืออีก 4 โครงการเป็นโครงการแนวราบ มูลค้ารวม 8,534 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว เพอร์เฟค พาร์ค สุวรรณภูมิ, โครงการทาวน์เฮาส์ วิลล่า พระราม9 –พัฒนาการ โครงการเพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์ และโครงการ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีช พระราม9-พัฒนาการ
กำลังโหลดความคิดเห็น