"ศุภาลัย" ยันรับรู้รายได้ตามมาตรฐานการบัญชีใหม่ไม่กระทบ เหตุบริษัทมีการพัฒนาสินค้าหลายประเภท หวั่นบริษัทพัฒนาคอนโดมิเนียมเพียงอย่างเดียวกระทบกระเทือนมากสุด เหตุต้องโอนจึงจะรับรู้รายได้ เตือนระวังปัญหาขาดสภาพคล่อง ระบุหมดยุคจับเสือมือเปล่าต้องมีเงินทุนของตนเอง เชื่อปี 2551 ตลาดสังหาริมทรัพย์กระเตื้อง หากอัตราดอกเบี้ยขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปโตแน่ 10% ด้านผู้บริหารเพอร์เฟคยันไม่กระทบ ส่วนLPN รอบการก่อสร้างคอนโดฯค่อนข้างเร็วและมั่นคง
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลกระทบจากมาตรฐานการบัญชีใหม่ ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า มาตรฐานใหม่นี้จะสามารถรับรู้รายได้เมื่อโอนกรรมสิทธิ์บ้านหรือห้องชุดในคอนโดมิเนียม จากเดิมการรับรู้รายได้จะสามารถรับได้ตามเงินดาวน์หรือความคืบหน้าด้านการก่อสร้าง
ทั้งนี้ มาตรฐานใหม่ดังกล่าวจะส่งผลกระทบมากต่อผู้ประกอบการที่มีสินค้าหลักเป็นคอนโดมิเนียมเพียงประเภทเดี่ยว เพราะใช้เวลาในการก่อสร้างเร็วสุด 18 เดือน จึงจะสามารถรับรู้รายได้ได้ บางโครงการใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 2 ปี ในขณะที่โครงการแนวราบใช้เวลาในการก่อสร้างสั้นกว่าก็จะสามารถรับรู้ได้เร็ว อีกทั้งยังมีสินค้าประเภทสร้างเสร็จก่อนขายซึ่งสามารถรับรู้รายได้ได้เลย
"เมื่อรับรู้รายได้ช้า จะทำให้ผู้ประกอบการมีปัญหาในเรื่องของสภาพคล่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสด ดังนั้นต้องบริหารสภาพคล่องให้ดี และหมดยุคแล้วสำหรับผู้ประกอบที่จะเอาเงินลูกค้ามาสร้างโครงการ ต้องมีเงินทุนในการพัฒนาโครงการเอง ซึ่งในส่วนของศุภาลัยกระทบไม่มากเพราะมีสินค้าที่หลากหลาย ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ทั้งที่สร้างเสร็จก่อนขายและสั่งสร้างทำให้สามารรับรู้ได้เร็ว "
นายอธิป กล่าวต่อว่า สำหรับภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2551 เชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา เพราะการเมืองเริ่มนิ่ง แม้ว่าจะมีความสับสนในการจัดตั้งรัฐบาล แต่เชื่อว่าจะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาจนได้ และรัฐบาลใหม่จะเข้ามาบริหารประเทศต่อ ผู้บริโภคไม่มีความวิตกกังวลและมีความเชื่อมั่น
"คนที่ชะลอการซื้อบ้านในปีที่แล้วจะเริ่มตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2551 ดีขึ้นกว่าปี2550 อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอาจปรับขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แต่หากอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งปีไม่เกิน 1% ก็เชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะมีอัตราการเติบโตที่ 10% แต่หากปรับขึ้นรวดเร็วอาจจะโตได้ไม่ถึง" นายอธิป กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 ปัจจัยลบที่จะมากระทบตลาด ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อ นอกจากส่งผลกระทบให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มแล้ว ยังส่งผลให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงมากขึ้น จนทำให้มีกำลังผ่อนชำระสินเชื่อบ้านได้ลดน้อยลงไปอีก ด้านราคาของที่อยู่อาศัยต่อหน่วยในปีนี้จะถูกลงตามกำลังซื้อที่ลดลง ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อปัจจุบันอยู่ในระดับคงที่ 20-30%
สำหรับมาตรการที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดูแลนั้น ในฝากของผู้ประกอบการเองยังไม่มีปัญหา แต่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเร่งฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้กลับมาเร็วขึ้น รวมถึงประเด็นการบริหารด้านการเงิน ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด ศุภาลัยได้เซ็นสัญญาให้บริษัท ติลลิกี แอนด์ กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Tilleke & Gibbins International Ltd.)เช่าพื้นที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวน์เวอร์ จำนวน 6 ชั้น ตั้งแต่ ชั้น 21-26 พื้นที่รวม 8,383 ตารางเมตร(ตร.ม.) จากพื้นที่ทั้งหมด 41,469.37 (ตร.ม.) ปัจจุบันมีผู้เช่าอาคารดังกล่าวแล้ว 50% นับจากเปิดตัวโครงการในไตรมาส 2 ปี 2549
นายอธิป กล่าวว่า ในระหว่างเปิดตัวอาคาร เป็นช่วงที่เกิดความไม่สงบทางการเมือง ทำให้หลายบริษัทชะลอการลงทุนหรือขยายกิจการ ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่เติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ปัจจุบันเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีบริษัทมีอยู่ระหว่างเจรจาเช่าพื้นที่หลายราย โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ
**"เพอร์เฟค"ยันไม่กระทบ
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางบริษัทไม่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับระบบมาตรฐานบัญชีใหม่ เนื่องจาก บริษัทมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลาย และในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม ทางบริษัทจะหันพัฒนาโครงการสูงไม่เกิน 8 ชั้น หรือคอนโดฯโลว์ไรส์ ทำให้รอบของการก่อสร้างและการเจรจาหาผู้รับเหมาทำได้รวดเร็ว
อนึ่ง ในปัจจุบัน บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียม และแม้จะมีเรื่องมาตรฐานบัญชีใหม่ ก็จะไม่ส่งผลกระทบมากมายต่อบริษัทฯ เนื่องจากมีการเปิดโครงการต่อเนื่อง สามารถสร้างการรับรู้รายได้ตาม มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้าง ทำให้รอบการก่อสร้าง จนก่อสร้างโครงการเสร็จได้ตามแผนที่วางไว้
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลกระทบจากมาตรฐานการบัญชีใหม่ ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า มาตรฐานใหม่นี้จะสามารถรับรู้รายได้เมื่อโอนกรรมสิทธิ์บ้านหรือห้องชุดในคอนโดมิเนียม จากเดิมการรับรู้รายได้จะสามารถรับได้ตามเงินดาวน์หรือความคืบหน้าด้านการก่อสร้าง
ทั้งนี้ มาตรฐานใหม่ดังกล่าวจะส่งผลกระทบมากต่อผู้ประกอบการที่มีสินค้าหลักเป็นคอนโดมิเนียมเพียงประเภทเดี่ยว เพราะใช้เวลาในการก่อสร้างเร็วสุด 18 เดือน จึงจะสามารถรับรู้รายได้ได้ บางโครงการใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 2 ปี ในขณะที่โครงการแนวราบใช้เวลาในการก่อสร้างสั้นกว่าก็จะสามารถรับรู้ได้เร็ว อีกทั้งยังมีสินค้าประเภทสร้างเสร็จก่อนขายซึ่งสามารถรับรู้รายได้ได้เลย
"เมื่อรับรู้รายได้ช้า จะทำให้ผู้ประกอบการมีปัญหาในเรื่องของสภาพคล่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสด ดังนั้นต้องบริหารสภาพคล่องให้ดี และหมดยุคแล้วสำหรับผู้ประกอบที่จะเอาเงินลูกค้ามาสร้างโครงการ ต้องมีเงินทุนในการพัฒนาโครงการเอง ซึ่งในส่วนของศุภาลัยกระทบไม่มากเพราะมีสินค้าที่หลากหลาย ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ทั้งที่สร้างเสร็จก่อนขายและสั่งสร้างทำให้สามารรับรู้ได้เร็ว "
นายอธิป กล่าวต่อว่า สำหรับภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2551 เชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา เพราะการเมืองเริ่มนิ่ง แม้ว่าจะมีความสับสนในการจัดตั้งรัฐบาล แต่เชื่อว่าจะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาจนได้ และรัฐบาลใหม่จะเข้ามาบริหารประเทศต่อ ผู้บริโภคไม่มีความวิตกกังวลและมีความเชื่อมั่น
"คนที่ชะลอการซื้อบ้านในปีที่แล้วจะเริ่มตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2551 ดีขึ้นกว่าปี2550 อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอาจปรับขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว แต่หากอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งปีไม่เกิน 1% ก็เชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะมีอัตราการเติบโตที่ 10% แต่หากปรับขึ้นรวดเร็วอาจจะโตได้ไม่ถึง" นายอธิป กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 ปัจจัยลบที่จะมากระทบตลาด ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อ นอกจากส่งผลกระทบให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มแล้ว ยังส่งผลให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงมากขึ้น จนทำให้มีกำลังผ่อนชำระสินเชื่อบ้านได้ลดน้อยลงไปอีก ด้านราคาของที่อยู่อาศัยต่อหน่วยในปีนี้จะถูกลงตามกำลังซื้อที่ลดลง ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อปัจจุบันอยู่ในระดับคงที่ 20-30%
สำหรับมาตรการที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดูแลนั้น ในฝากของผู้ประกอบการเองยังไม่มีปัญหา แต่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเร่งฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้กลับมาเร็วขึ้น รวมถึงประเด็นการบริหารด้านการเงิน ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด ศุภาลัยได้เซ็นสัญญาให้บริษัท ติลลิกี แอนด์ กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Tilleke & Gibbins International Ltd.)เช่าพื้นที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวน์เวอร์ จำนวน 6 ชั้น ตั้งแต่ ชั้น 21-26 พื้นที่รวม 8,383 ตารางเมตร(ตร.ม.) จากพื้นที่ทั้งหมด 41,469.37 (ตร.ม.) ปัจจุบันมีผู้เช่าอาคารดังกล่าวแล้ว 50% นับจากเปิดตัวโครงการในไตรมาส 2 ปี 2549
นายอธิป กล่าวว่า ในระหว่างเปิดตัวอาคาร เป็นช่วงที่เกิดความไม่สงบทางการเมือง ทำให้หลายบริษัทชะลอการลงทุนหรือขยายกิจการ ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่เติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ปัจจุบันเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีบริษัทมีอยู่ระหว่างเจรจาเช่าพื้นที่หลายราย โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ
**"เพอร์เฟค"ยันไม่กระทบ
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางบริษัทไม่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับระบบมาตรฐานบัญชีใหม่ เนื่องจาก บริษัทมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลาย และในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม ทางบริษัทจะหันพัฒนาโครงการสูงไม่เกิน 8 ชั้น หรือคอนโดฯโลว์ไรส์ ทำให้รอบของการก่อสร้างและการเจรจาหาผู้รับเหมาทำได้รวดเร็ว
อนึ่ง ในปัจจุบัน บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียม และแม้จะมีเรื่องมาตรฐานบัญชีใหม่ ก็จะไม่ส่งผลกระทบมากมายต่อบริษัทฯ เนื่องจากมีการเปิดโครงการต่อเนื่อง สามารถสร้างการรับรู้รายได้ตาม มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้าง ทำให้รอบการก่อสร้าง จนก่อสร้างโครงการเสร็จได้ตามแผนที่วางไว้