วอลล์สตรีท โชว์ตัวเลขผู้เรียนมากกว่า 4,000 คน ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ เดินหน้าเปิดสาขาใหม่ที่ซีคอนสแควร์ ด้วยงบ 50 ล้านบาท เป็นสาขาใหญ่สุดในไทย
นายมิเชล เลอ เคลแลค ประธานบริหาร โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 1/ 2551 จนถึงเดือนพฤษภาคม มีนักเรียนสนใจสมัครเรียนกับวอลล์สตรีทถึง 4,000 คน โดยแบ่งเป็นนักเรียนที่เรียนในสาขาปกติ 3,000 คน และนักเรียนใน 6 องค์กรถึง 1,000 คน เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในปี 2551 นี้ จะมีนักเรียนสมัครเรียนกับวอลล์สตรีทฯ ทุกสาขารวมกันทั้งหมด 8,000 คน และจากองค์กรอีก 2,000 คน
ล่าสุดลงทุน 850 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่แห่งที่ 6 ที่ห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ บริเวณ Tutor Square ชั้น 3 มีพื้นที่ 850 ตร.ม. ซึ่งอนาคตสามารถขยายได้ถึง 950 ตร.ม. เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจากทั้งหมด 5 สาขา หลังประสบความสำเร็จจาก 5 สาขาแรก คือ สาขาสีลม สุขุมวิท ลาดพร้าว สยามและปิ่นเกล้า โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมามีผู้สมัครเรียนภาษาอังกฤษกับวอลล์สตรีทฯ สูงถึง 20,000 คน
"สาเหตุที่เลือกเปิดที่ถนนศรีนครินทร์ในศูนย์ซีคอนสแควร์นี้ เนื่องจากผลสำรวจช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีครอบครัวย้ายมาอยู่ในบริเวณนี้กว่า 50,000 ครัวเรือน คิดเป็นประมาณ 200,000 คน วอลล์สตรีทจึงเปิดสาขาใหม่เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดในย่านนี้ ซึ่งจะทำให้วอลล์สตรีทฯ มีสาขาครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ โดยมี 2 สาขาอยู่ใจกลางกรุงเทพฯคือ สาขาสีลมและสยาม สาขาลาดพร้าวทางเหนือของกรุงเทพฯ สาขาปิ่นเกล้าทางตะวันตก และล่าสุดทางตะวันออกคือสาขาซีคอน สแควร์" นายมิเชล กล่าว
กลุ่มเป้าหมายสาขาซีคอนสแควร์ได้แก่ กลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษาและวัยทำงานตอนต้น อายุประมาณ 16-30 ปี ซึ่งขณะนี้มีนักเรียนสมัครเรียนกับสาขาซีคอน สแควร์ 200 คนแล้ว และตั้งเป้าหมายว่าในปี 2551 จะมีผู้สมัครเรียนที่สาขานี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 คน
นายอภิชัย ไชยวินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาค กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าในใจกลางกรุงเทพฯ กลุ่มเป้าหมายมีการรับรู้แบรนด์วอลล์สตรีทถึง 80%เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 60% แต่สำหรับในย่านซีคอน สแควร์ ซึ่งเป็นฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ กลุ่มเป้าหมายมีการรับรู้แบรนด์เพียง 65% ซึ่งเราเองจะพยายามตั้งเป้าว่ากลุ่มเป้าหมายในย่านนี้จะต้องรับรู้แบรนด์วอลล์สตรีทฯ ถึง 80% ภายใน 3 เดือน โดยวอลล์สตรีทจะทุ่มเงิน 10 ล้านบาทสำหรับการทำการตลาดในย่านซีคอน สแควร์นี้ เช่น ป้ายบิลบอร์ดและทำกิจกรรมต่างๆ กับกลุ่มเป้าหมาย
เนื่องจากปีนี้ วอลล์สตรีทฯ ดำเนินการเป็นปีที่ 5 จึงได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ "Fast Step to Success" ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงการเรียนภาษาอังกฤษ โดยแคมเปญนี้จะใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท
นายมิเชล เลอ เคลแลค ประธานบริหาร โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีท (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 1/ 2551 จนถึงเดือนพฤษภาคม มีนักเรียนสนใจสมัครเรียนกับวอลล์สตรีทถึง 4,000 คน โดยแบ่งเป็นนักเรียนที่เรียนในสาขาปกติ 3,000 คน และนักเรียนใน 6 องค์กรถึง 1,000 คน เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในปี 2551 นี้ จะมีนักเรียนสมัครเรียนกับวอลล์สตรีทฯ ทุกสาขารวมกันทั้งหมด 8,000 คน และจากองค์กรอีก 2,000 คน
ล่าสุดลงทุน 850 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่แห่งที่ 6 ที่ห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ บริเวณ Tutor Square ชั้น 3 มีพื้นที่ 850 ตร.ม. ซึ่งอนาคตสามารถขยายได้ถึง 950 ตร.ม. เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจากทั้งหมด 5 สาขา หลังประสบความสำเร็จจาก 5 สาขาแรก คือ สาขาสีลม สุขุมวิท ลาดพร้าว สยามและปิ่นเกล้า โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมามีผู้สมัครเรียนภาษาอังกฤษกับวอลล์สตรีทฯ สูงถึง 20,000 คน
"สาเหตุที่เลือกเปิดที่ถนนศรีนครินทร์ในศูนย์ซีคอนสแควร์นี้ เนื่องจากผลสำรวจช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีครอบครัวย้ายมาอยู่ในบริเวณนี้กว่า 50,000 ครัวเรือน คิดเป็นประมาณ 200,000 คน วอลล์สตรีทจึงเปิดสาขาใหม่เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดในย่านนี้ ซึ่งจะทำให้วอลล์สตรีทฯ มีสาขาครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ โดยมี 2 สาขาอยู่ใจกลางกรุงเทพฯคือ สาขาสีลมและสยาม สาขาลาดพร้าวทางเหนือของกรุงเทพฯ สาขาปิ่นเกล้าทางตะวันตก และล่าสุดทางตะวันออกคือสาขาซีคอน สแควร์" นายมิเชล กล่าว
กลุ่มเป้าหมายสาขาซีคอนสแควร์ได้แก่ กลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษาและวัยทำงานตอนต้น อายุประมาณ 16-30 ปี ซึ่งขณะนี้มีนักเรียนสมัครเรียนกับสาขาซีคอน สแควร์ 200 คนแล้ว และตั้งเป้าหมายว่าในปี 2551 จะมีผู้สมัครเรียนที่สาขานี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 คน
นายอภิชัย ไชยวินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาค กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าในใจกลางกรุงเทพฯ กลุ่มเป้าหมายมีการรับรู้แบรนด์วอลล์สตรีทถึง 80%เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 60% แต่สำหรับในย่านซีคอน สแควร์ ซึ่งเป็นฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ กลุ่มเป้าหมายมีการรับรู้แบรนด์เพียง 65% ซึ่งเราเองจะพยายามตั้งเป้าว่ากลุ่มเป้าหมายในย่านนี้จะต้องรับรู้แบรนด์วอลล์สตรีทฯ ถึง 80% ภายใน 3 เดือน โดยวอลล์สตรีทจะทุ่มเงิน 10 ล้านบาทสำหรับการทำการตลาดในย่านซีคอน สแควร์นี้ เช่น ป้ายบิลบอร์ดและทำกิจกรรมต่างๆ กับกลุ่มเป้าหมาย
เนื่องจากปีนี้ วอลล์สตรีทฯ ดำเนินการเป็นปีที่ 5 จึงได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ "Fast Step to Success" ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงการเรียนภาษาอังกฤษ โดยแคมเปญนี้จะใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท
