xs
xsm
sm
md
lg

บทเรียนของสัญญาณ “บ้านพลูหลวง”

เผยแพร่:   โดย: ชายธง

รัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับบัญญัติให้ประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ และผู้ใดจะละเมิดมิได้

ทหาร ตำรวจ ข้าราชการและประชาชนทุกคนมีหน้าที่ต้องพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ มีหน้าที่ต้องพิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ ไม่ว่าข้าราชการการเมือง ทหาร ตำรวจ แม้กระทั่งคณะองคมนตรีย่อมมีหน้าที่ดังกล่าวเช่นเดียวกันทั้งสิ้น

ใครใดก็ตามไม่ทำหน้าที่นี้ย่อมได้ชื่อว่าตระบัดสัตย์ต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณ หรืออย่างน้อยที่สุดก็เป็นผู้ที่ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง

จัดเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ จัดเป็นคนที่เลี้ยงไว้ก็เปลืองข้าวแดงแกงร้อน จัดเป็นคนที่หากยังมีความสำนึกในความเป็นคนหลงเหลืออยู่บ้างก็ต้องแสดงความรับผิดชอบให้เร็วที่สุด

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2551 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและองคมนตรีได้กล่าวนับพี่นับน้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และท้วงติงคนไทยทั้งประเทศว่าอย่ากล่าวพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้แก้ไขปัญหาทั้งหลายโดยสันติ

ก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่านี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ทำให้ผู้คนเสียใจและผิดหวัง ดังที่มีผู้เขียนความรู้สึกแสดงออกจำนวนไม่น้อยแล้ว

การพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? เป็นการส่งสัญญาณแบบไหนกันแน่? เป็นการพูดช่วยเหลือใครกันแน่? ที่สำคัญคือเป็นการปกปักรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่?

ประเทศไทยในวันนี้ คนที่หูไม่หนวก ตาไม่บอด หรือไม่ดัดจริตแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราว ก็ย่อมรู้เป็นอันดีว่ามีขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เกิดขึ้นและเคลื่อนไหวอย่างครึกโครมกว้างขวาง

ขบวนการดังกล่าวนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้คนในรัฐบาลระดับต่าง ๆ หลายคน และโดยที่ผู้มีอำนาจหน้าที่พากันเพิกเฉยไม่ใส่ใจไยดี

ไม่พิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ตามหน้าที่ที่พึงมี

ภัยดังกล่าวขยายตัวคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติ ดังนั้นคนที่มีความสำนึกรับผิดชอบและจงรักภักดีจึงได้ลุกขึ้นมาต่อสู้

ได้มีการนำข้อเท็จจริงและความเคลื่อนไหวของขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ออกมาเผยแพร่ให้คนไทยได้รับรู้เพื่อตระหนักถึงภัยอันร้ายแรงของประเทศชาติ เพราะจะไปหวังพึ่งรัฐบาลไม่ได้แล้ว

จึงเกิดการตื่นตัวขึ้นในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวางเป็นกระแสโต้และกระแสต้านที่มีพลังต่อการสกัดกั้นและหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างได้ผล

ในขณะที่การเปิดโปงผู้คนในขบวนการอุบาทว์กำลังเกิดขึ้น ควรเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้มีอำนาจหน้าที่ที่จะได้เข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาเพื่อพิทักษ์สถาบันสำคัญของชาติ และกำจัดอริราชศัตรูให้เป็นไปตามกบิลเมือง

แต่ก็ไม่มีใครคิดอ่านทำอะไร พากันเพิกเฉยและไม่รู้ร้อนรู้หนาว

แล้วจู่ๆ ก็มีคนแบบพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ออกมาปรามว่าอย่าพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าดึงพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง

คนไทยไม่ได้โง่ทุกคน และไม่ได้ฉลาดทุกคน ถึงกระนั้นก็ต้องมีคนเข้าใจสิ่งที่พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ พูดได้ว่าหมายถึงอะไร พูดเพื่อปกป้องใครกัน

แต่ที่แน่ ๆ ก็คือทำให้ขบวนผู้รักชาติและมีความจงรักภักดีรู้สึกเสียใจและท้อแท้กับคำพูดแบบนี้

เพราะการพูดแบบนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ก็คือการปรามฝ่ายที่มีความจงรักภักดีที่ทำการปกป้องและพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์นั่นเอง

เพราะไม่มีแม้แต่สักคำเดียวที่จะกล่าวถึงขบวนการที่ทำลายล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่อย่างครึกโครม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนกับหลายคนในรัฐบาลนี้

อย่างบางหรืออย่างดีที่สุด การพูดแบบนี้ก็คือการตีค่าของขบวนการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และฝ่ายที่มีความจงรักภักดีที่พิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าเป็นพวกที่กล่าวพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์เท่าๆ กันเท่านั้น

การพูดแบบนี้ทำให้เกิดความสับสนและเกิดความเข้าใจผิด ตลอดจนทำให้เกิดความท้อแท้

เพราะเป็นการส่งสัญญาณที่ชอบกลและสัญญาณแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง เมื่อครั้งที่ราชวงศ์บ้านพลูหลวงครองกรุงศรีอยุธยาในห้วงเวลาสุดท้าย

ในครั้งนั้นอริราชศัตรูล้อมโจมตีพระนคร แต่พวกฝ่ายบริหารของกรมวังซึ่งมีเสียงสำคัญในสภากลาโหมออกคำสั่งห้ามยิงปืนใหญ่เข้าใส่ข้าศึก อ้างว่าจะเกิดความหนวกหูขึ้นในพระราชวัง

คนทั้งหลายทั้งปวงที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เห็นสัญญาณแบบนี้ก็มีความท้อแท้ว่าถ้าเป็นเช่นนี้เห็นทีจะเสียกรุงแน่ จึงพากันเพิกเฉยเสีย บ้างก็ตั้งกลุ่มขึ้นต่อสู้โดยลำพัง บ้างก็หนีออกจากกรุงเพื่อกอบกู้ชาติบ้านเมืองต่อไป

ในที่สุดก็เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง คนไทยแม้กระทั่งพระสงฆ์องค์เจ้าถูกฆ่าตายเป็นเบือ

ไม่เว้นแม้กระทั่งพระพุทธรูปที่ข้าศึกได้เผาลอกเอาทองที่ห่อหุ้มไปจนเกลี้ยง!

ถ้าหากมีสัญญาณแบบยุคบ้านพลูหลวงเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง คิดหรือว่าคนไทยในยุคนี้จะยอมรับนับถือเชื่อฟัง เพราะบทเรียนจากการเสียกรุงศรีอยุธยานั้นอัปยศและเจ็บช้ำน้ำใจคนไทยหนักหนาสาหัสพอแล้ว!
กำลังโหลดความคิดเห็น