รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะปรับเพียงรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแทนนายสุธา ชันแสง เพียงตำแหน่งเดียว หรือการปรับหลายกระทรวงที่มีปัญหาไปในคราวเดียวกันนั้น
ล่าสุดมีรายงานว่า อาจจะมีการปรับหลายตำแหน่ง โดยต้องรอดูคดี นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข และนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ ที่มีปัญหาเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนว่าจะใช้เวลามากเพียงใด แต่คาดว่าไม่เกิด 2 สัปดาห์ ก็น่าจะมีการปรับครม.ได้ พร้อมกับเก้าอี้ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนอกจาก 3 เก้าอี้ ที่เข้าข่ายจะมีการปรับแล้วนั้น ยังมีในส่วนของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ที่อาจจะได้รับการปรับเข้ามาเป็นรัฐมนตรี แต่ต้องรอดูแนวโน้มของคดีใบแดง หลังวันที่ 20 พ.ค. นี้เสียก่อน ซึ่งหากถึงที่สุดแล้ว นายยงยุทธ รอดคดีมาได้ ก็จะมีการปรับให้เข้ามานั่งในตำแหน่ง รมว.มหาดไทย แทนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเหตุผลที่ปรับ ร.ต.อ.เฉลิม ออกจากเก้าอี้ ทม.1 เนื่องจากที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ได้ทำหน้าที่ในการจัดตัวบุคคล หรือโยกย้ายข้าราชการในตำแหน่งต่างๆ จนลงตัวแล้ว จึงต้องโยก ร.ต.อ.เฉลิม ไปคุมกระทรวงอื่น เพื่อให้ร.ต.อ.เฉลิม ลอยตัวไม่ต้องโดนแรงเสียดทานทางการเมือง โดยอาจจะให้ ร.ต.อ.เฉลิม ไปนั่งเป็น รมว.ยุติธรรม แทน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แล้วให้ นายสมพงษ์ ไปนั่งเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม แทนนายสุวิทย์ คุณกิตติ โดยมีความเป็นไปได้ที่จะให้ นายสุวิทย์ นั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีเพียงตำแหน่งเดียว
ส่วนนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสเรียกร้องจากฝ่ายค้านและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ปลดพ้นตำแหน่ง จากกรณีพูดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงนั้น ท่าทีของนายสมัคร อาจจะใช้วิธีซื้อเวลาต่อไป เนื่องจากได้ออกมาบอกแล้วว่า จะปล่อยให้ตำรวจดำเนินการ และให้ศาลตัดสิน
ล่าสุดมีรายงานว่า อาจจะมีการปรับหลายตำแหน่ง โดยต้องรอดูคดี นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข และนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ ที่มีปัญหาเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนว่าจะใช้เวลามากเพียงใด แต่คาดว่าไม่เกิด 2 สัปดาห์ ก็น่าจะมีการปรับครม.ได้ พร้อมกับเก้าอี้ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนอกจาก 3 เก้าอี้ ที่เข้าข่ายจะมีการปรับแล้วนั้น ยังมีในส่วนของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ที่อาจจะได้รับการปรับเข้ามาเป็นรัฐมนตรี แต่ต้องรอดูแนวโน้มของคดีใบแดง หลังวันที่ 20 พ.ค. นี้เสียก่อน ซึ่งหากถึงที่สุดแล้ว นายยงยุทธ รอดคดีมาได้ ก็จะมีการปรับให้เข้ามานั่งในตำแหน่ง รมว.มหาดไทย แทนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเหตุผลที่ปรับ ร.ต.อ.เฉลิม ออกจากเก้าอี้ ทม.1 เนื่องจากที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ได้ทำหน้าที่ในการจัดตัวบุคคล หรือโยกย้ายข้าราชการในตำแหน่งต่างๆ จนลงตัวแล้ว จึงต้องโยก ร.ต.อ.เฉลิม ไปคุมกระทรวงอื่น เพื่อให้ร.ต.อ.เฉลิม ลอยตัวไม่ต้องโดนแรงเสียดทานทางการเมือง โดยอาจจะให้ ร.ต.อ.เฉลิม ไปนั่งเป็น รมว.ยุติธรรม แทน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แล้วให้ นายสมพงษ์ ไปนั่งเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม แทนนายสุวิทย์ คุณกิตติ โดยมีความเป็นไปได้ที่จะให้ นายสุวิทย์ นั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีเพียงตำแหน่งเดียว
ส่วนนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสเรียกร้องจากฝ่ายค้านและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ปลดพ้นตำแหน่ง จากกรณีพูดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงนั้น ท่าทีของนายสมัคร อาจจะใช้วิธีซื้อเวลาต่อไป เนื่องจากได้ออกมาบอกแล้วว่า จะปล่อยให้ตำรวจดำเนินการ และให้ศาลตัดสิน
