วันนี้ (16 พ.ค.) นายศราวุธ เมนะเศวต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเข้าชี้แจงกับคณะกรรมการไต่สวนกรณีที่ ป.ป.ช.ส่งสำนวนของนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข ปกปิดข้อมูลการถือหุ้นของภรรยาเกินกว่าร้อยละ 5 ที่มีนายอิสระ หลิมศิริวงษ์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ
ภายหลังการชี้แจง นายศราวุธ เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงในประเด็นที่ไปบรรยายเรื่องการยื่นทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในข้อกฎหมาย ทั้งเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมไปถึง พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของคณะรัฐมนตรี และวิธีปฏิบัติตามกฎหมาย กรณีนี้ถือเป็นครั้งแรก เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่ได้ระบุเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินและการถือหุ้นของภรรยา ซึ่งกรณีของนายไชยา เพิ่งมีกฎหมายบัญญัติตามรัฐธรรมนูญปี 2550 และการที่นายไชยาระบุว่า กฎหมายไม่ได้ระบุให้ภรรยาห้ามถือหุ้นและจะนำประเด็นดังกล่าวไปสู้ในชั้นศาลนั้น ตนคงไม่ออกความเห็น เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นดุลพินิจของศาลตนคงไม่ก้าวล่วง
ด้านนายอิสระ กล่าวภายหลังการชี้แจงว่า เลขาธิการ ป.ป.ช.ได้ให้ข้อมูลตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ทำหนังสือส่งมายัง กกต. แต่คงไม่สามารถรายละเอียดได้ เพราะถือเป็นเรื่องลับ ส่วนความเห็นของคณะกรรมการนั้นจะต้องมีการประชุมกันในวันที่ 21 พฤษภาคม โดยระหว่างนี้จะนำข้อมูลไปศึกษาข้อกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวพัน อาทิ รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มาตรา 269 รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 รวมทั้ง พ.ร.บ.การจัดการจัดการหุ้นส่วนของรัฐมนตรีฉบับ พ.ศ. 2543 แต่คงไม่เชิญใครมาชี้แจงอีกแล้ว เพราะถือว่าการชี้แจงครบถ้วน ทั้งนี้ หลังจากศึกษาข้อกฎหมายและรายละเอียดแล้วก็จะยกร่างข้อเท็จจริงและข้อต่อสู้ของแต่ละฝ่ายไว้ก่อน จากนั้นในที่ประชุมสัปดาห์หน้าก็จะมาสรุปข้อกฎหมายในที่ประชุมเพื่อลงมติ
ภายหลังการชี้แจง นายศราวุธ เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงในประเด็นที่ไปบรรยายเรื่องการยื่นทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในข้อกฎหมาย ทั้งเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมไปถึง พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของคณะรัฐมนตรี และวิธีปฏิบัติตามกฎหมาย กรณีนี้ถือเป็นครั้งแรก เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่ได้ระบุเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินและการถือหุ้นของภรรยา ซึ่งกรณีของนายไชยา เพิ่งมีกฎหมายบัญญัติตามรัฐธรรมนูญปี 2550 และการที่นายไชยาระบุว่า กฎหมายไม่ได้ระบุให้ภรรยาห้ามถือหุ้นและจะนำประเด็นดังกล่าวไปสู้ในชั้นศาลนั้น ตนคงไม่ออกความเห็น เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นดุลพินิจของศาลตนคงไม่ก้าวล่วง
ด้านนายอิสระ กล่าวภายหลังการชี้แจงว่า เลขาธิการ ป.ป.ช.ได้ให้ข้อมูลตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ทำหนังสือส่งมายัง กกต. แต่คงไม่สามารถรายละเอียดได้ เพราะถือเป็นเรื่องลับ ส่วนความเห็นของคณะกรรมการนั้นจะต้องมีการประชุมกันในวันที่ 21 พฤษภาคม โดยระหว่างนี้จะนำข้อมูลไปศึกษาข้อกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวพัน อาทิ รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มาตรา 269 รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 รวมทั้ง พ.ร.บ.การจัดการจัดการหุ้นส่วนของรัฐมนตรีฉบับ พ.ศ. 2543 แต่คงไม่เชิญใครมาชี้แจงอีกแล้ว เพราะถือว่าการชี้แจงครบถ้วน ทั้งนี้ หลังจากศึกษาข้อกฎหมายและรายละเอียดแล้วก็จะยกร่างข้อเท็จจริงและข้อต่อสู้ของแต่ละฝ่ายไว้ก่อน จากนั้นในที่ประชุมสัปดาห์หน้าก็จะมาสรุปข้อกฎหมายในที่ประชุมเพื่อลงมติ
