xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ข้อมูลใหม่ที่ต้องตะลึงย้ำ"เพ็ญ"อันตราย-จี้ปลดด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปชป.ยื่นข้อมูลใหม่ให้นายกฯ ตอกย้ำ"จักรภพ"มีแนวคิดอันตรายต่อสถาบันเบื้องสูง "อภิสิทธิ์"ย้ำนายกฯ ต้องเปิดใจกว้างในการพิจารณาข้อมูล และต้องรีบตัดสินใจก่อนที่เรื่องจะลุกลาม เตรียมยื่นถอดถอน 21 พ.ค.นี้ ด้าน ส.ว.ตั้งกระทู้เรื่องธงชาติ และการไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ด้าน"จักรภพ" ปากกล้าขาสั่น ยันไม่มีขบวนการ ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า เปรียบเว็บไซต์ หมู หมา กาไก่ ใครก็เขียนได้ เตรียมแปลปาฐกถาพิมพ์เป็นเล่มแจก

เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (16 พ.ค.) นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาพฤติกรรมของนายจักรพภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีเจ้าหน้าที่รับ-ส่งหนังสือ เป็นตัวแทนรับหนังสือ

นายณัฎฐพล เปิดเผยว่า เอกสารมี 2 ส่วน ในส่วนแรกเกี่ยวกับการอธิบายรายละเอียดของจดหมาย และข้อมูลคำแปลที่เกี่ยวข้องกับเอกสารคำบรรยายของนายจักรภพ ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ทั้งนี้ ยังมีวีซีดีและดีวีดี คำแปลเอกสาร มีทั้งฉบับภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งเนื้อความในเอกสาร จะคล้ายกับเอกสารที่เผยแพร่ให้ผู้สื่อข่าว นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมแนบมาด้วย

อย่างไรก็ตามนายณัฏฐพล ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดในส่วนของข้อมูลเพิ่มเติม ว่ามีเนื้อหาอะไรบ้าง เนื่องจากหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านต้องการให้นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยตัวเองก่อน และตนยืนยันว่า หากนายกรัฐมนตรีเห็นเอกสารใหม่ คิดว่า นายกรัฐมนตรี จะดำเนินการทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ คำแปลที่นายจักรภพ พูดที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง แปลเป็นภาษาไทยออกมา 13 หน้า ส่วนประเด็นที่พบใหม่ทำให้มายื่นล่าช้า เนื่องจากเป็นการไปพูดอีกเวทีหนึ่ง ของนายจักรภพ ที่ไปพูดปลุกระดมคนไทยในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 50

"อภิสิทธิ์"ย้ำหมักต้องตัดสินใจ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อมูลเกี่ยวกับนายจักรภพ ที่พรรคส่งให้นายสมัคร ว่า ขอให้นายกฯ เปิดใจกว้าง และพิจารณาหลับตาก็ได้ว่าไม่ใช่นายจักรภพ แต่ว่าเป็นพฤติกรรมของบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งได้พูดสิ่งต่างๆเหล่านี้และยืนยันว่า แนวความคิดยังไม่เปลี่ยน ซึ่งนายกฯ ต้องพิจารณาว่า นายจักรภพ เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่

"ขอเรียนว่า สิ่งที่นายกฯได้อ่านในหนังสือพิมพ์ไม่ใช่สิ่งที่ผมนำมา แล้วส่งให้ท่าน เพราะสิ่งที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ที่เป็นคำแปล ผมเข้าใจว่า เป็นคำแปลที่มีการเผยแพร่กันอยู่ ผมก็ต้องเอาคำแปลต่างๆ มาดูกับเทปของจริง และขัดเกลาถ้อยคำทั้งหลาย ที่น่าเป็นห่วงคือ บังเอิญนายกฯ พูดว่ามีการแปลผิดที่แปลกก็คือ ที่บอกว่าแปลผิดนั้น ผมไม่เคยเห็นคำแปลในลักษณะนั้นมาก่อนเลย ไม่ทราบว่า ใครไปจงใจเอาคำแปลที่ผิดให้นายกฯอ่าน และสาระสำคัญของเรี่องไม่ได้อยู่ที่คำแปลคำใดคำหนึ่ง หรือประโยคใดประโยคหนึ่ง แต่เนื้อหาสาระ และเป้าหมายของการบรรยาย ถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นขอความกรุณาให้นายกฯ ได้พิจารณาสิ่งต่างๆ ที่ส่งไปด้วย และขอให้ท่านได้ตัดสินใจ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ทั้งในระยาวในการรักษาสถาบันหลักของชาติต่อไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่านายจักรภพ ระบุว่า อาจจะมีการฟ้องกลับ เพราะทำให้เสียหาย นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายจักรภพ มีเป้าหมายอะไร เพราะพยายามที่จะใช้วิธีการของการตอบโต้ทางการเมือง ประเด็นเล็กประเด็นน้อย แต่ว่าเรื่องที่ทำกันทั้งหมด เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น นายจักรภพก็ทราบดี ที่จริงในคำบรรยายของนายจักรภพ ย้ำว่า อย่าเอาเรื่องหยุมหยิมมาเถียงกันทางการเมือง และประเด็นที่ส่งไปให้นายกฯ ไม่ใช่เรื่องหยุมหยิมว่าใครแปลถูกแปลผิด แปลไพเราะไม่ไพเราะ อย่างไร แต่เอาความจริงมาพูด และดูเหมือนว่า นายจักรภพ คงยอมรับบางอย่างแล้ว ถึงได้บอกว่า พูดนานแล้ว แสดงว่าเริ่มยอมรับแล้วว่า สิ่งที่พูดไม่เหมาะสม ถึงขั้นพูดด้วยว่า มาเป็นรัฐมนตรีก็ต้องพูดอีกอย่าง ยิ่งแสดงให้เห็นว่า มีคำพูดที่ไม่เหมาะสม ขณะเดียวกัน นายจักรภพ ก็ตอกย้ำว่า แนวคิดไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ จึงอยากใหนายกฯ พิจารณาด้วยความรอบคอบ ซึ่งตนได้เรียนด้วยว่า รายละเอียดต่างๆไม่นำมาพูด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ให้ระวังปัญหาจะลุกลาม

เมื่อถามว่านายจักรภพ ย้ำว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์แปลออกมานั้นผิด โดยจะนำของจริงมาเปิดเผย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่นายจักรภพพูด มีความยาวเป็นสิบๆหน้า ไม่มีใครที่ไปอ่านและแปลผิดได้ทั้งหมด เพราะไม่ใช่เรื่องหยุมหยิม แต่เป็นเป้าหมายของสาระสำคัญของการพูด ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดี ถึงได้บอกว่าไม่ควรพูด และยอมรับเองว่า เป็นรัฐมนตรีแล้ว พูดอย่างนี้ไม่ได้ แต่ย้ำว่าแนวคิดเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง นี่คือสิ่งที่น่ากลัว และถ้านายจักรภพ จะแปลออกมาเผยแพร่ ก็ไม่ว่าอะไร แต่คงต้องดู แต่ถ้าถามตน ถ้าแปลตรงตามใจความ ไม่ควรเผยแพร่อย่างยิ่ง ตนถือว่าเป็นการกระทำผิดครั้งใหญ่

เมื่อถามว่า คิดว่าถูกต้องหรือไม่ที่นายกฯ โยนเรื่องนี้ให้ตำรวจดำเนินการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ให้ข้อสังเกตุไปเรื่องกระบวนการยุติธรรม และเรื่องนี้ไม่ใช่มีเพียงเรื่องเทคนิคทางกฎหมาย แต่เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งต้องการการจัดการที่เหมาะสม ซึ่งทางที่เหมาะสมที่สุดคือ การแก้ด้วยการตัดสินใจทางการเมือง เพื่อปลดชนวนความขัดแย้งทั้งหลายออกไป เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าตัดสินใจผิดปัญหาจะลุกลามไปหลายด้าน ตนคิดว่านายกฯ คงไม่อยากจะอยู่ในฐานะที่ถูกคนมากล่าวหาว่า ไม่สามารถจะตัดไฟแต่ต้นลมได้ เพราะความจริงท่านทำได้ ซึ่งตนได้เรียนนายกฯไปแล้ว เพื่อให้พิจารณา ซึ่งทางพรรคไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่า จะต้องดำเนินการเสร็จสิ้นเมืองไร เพราะพรรคพร้อมเปิดใจกว้าง ถ้านายกฯบอกว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบก็ต้องว่าไปตามเหตุผล อย่าไปคาดคั้นขีดเส้นตาย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญอยาก ให้นายกฯ พิจารณาด้วยความรอบคอบ

"เพ็ญ"เข้าข่ายกบฏจี้ปลดด่วน

นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะผู้รวบรวมเอกสารเพื่อยื่นหนังสือให้ นายสมัคร เพื่อตรวจสอบนายจักรภพ กล่าวว่า การที่นายสมัคร พยายามที่จะปัดเรื่องนี้ให้เป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ถูกต้อง เพราะอย่างน้อยนายกฯ ก็ยอมรับว่าเป็นการกระทำที่มีปัญหา จึงต้องส่งให้ตำรวจตรวจสอบ แต่เรื่องนี้ตนคิดว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารจะต้องจัดการโดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ที่แต่งตั้งนายจักรภพ มาดำรงตำแหน่งในครม. การโยนความรับผิดชอบไปให้หน่วยงานอื่น ถือว่าไม่เหมาะสม

"ที่นายกฯระบุว่า มีคำแปลบางส่วนแปลผิดไปจากความเป็นจริง ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่นายกฯได้อ่านนั้น เป็นคำแปลมาจากใคร ไม่ทราบว่า คุณจักรภพ แปลให้ฟังหรือไม่ ดังนั้นคิดว่านายกฯ ควรรอดูคำแปลจากพรรคประชาธิปัตย์ก่อนแล้วจึงค่อยออกมาให้ความเห็น ทั้งนี้เชื่อว่าหากนายกฯเห็นแล้วจะต้องตกตะลึง เช่นเดียวกับนักข่าวต่างประเทศ" นายศิริโชค กล่าว

นายศิริโชค กล่าวยืนยันว่า นายจักรภพ เป็นตัวปัญหา และมีทัศนคติที่เป็น อันตรายต่อระบอบการปกครอง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นกบฏ เป็นปฏิปักษ์ ต่อระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น อยากเรียกร้องให้นายกฯ ปรับนายจักรภพ ออกจากครม.โดยเร็ว

ยื่นถอดถอน"เพ็ญ" 21 พ.ค.นี้

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงาน(วิป) พรรคฝ่ายค้าน กล่าวถึงการยื่นถอดถอนนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ และมีพฤติกรรมแทรกแซงสื่อว่า พรรคได้จัดทำคำร้องถอดถอนนายจักรภพเสร็จแล้ว และได้ติดต่อนัดหมายนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อยื่นคำร้องดังกล่าวแล้ว โดยจะยื่นในวันที่ 21 พ.ค.นี้

ส.ว.ตั้งกระทู้เรื่องหมิ่นสถาบัน

ในวันเดียวกันนี้ มีการประชุมวุฒิสภานัดสุดท้าย โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธาน

นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรรหา ตั้งกระทู้ถามด่วน เรื่องกรณีความคืบหน้า ในการดำเนินการกับผู้ใช้ธงชาติไทยไปเขียนชื่อบุคคล เพื่อเชียร์ทีมฟุตบอลในประเทศอังกฤษว่า กรณีนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าของสโมสรฟุตบอล ไม่ทราบในเรื่องนี้เลยหรือ เพราะตามที่ตนเข้าใจ และสอบถามไปยังสโมสรฟุตบอลในต่างประเทศ ทราบว่า การที่จะเขียนชื่อบนธงชาติ หรือทำอะไรในธงชาติ ต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าของสโมสรก่อน โดยเฉพาะกรณีที่มีการหมิ่นเหม่ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าเจ้าของสโมสรปล่อยเรื่องนี้ ที่มีการหมิ่นเหม่ผ่านไปได้อย่างไร จึงขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ ชี้แจงในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจเพื่อความกระจ่างด้วย

นอกจากนี้ตนอยากถามคำถามไปยังรัฐบาลว่า ปล่อยให้สโมสรฟุตบอลดังกล่าว มาทำการแข่งขันในประเทศได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็ไม่มีการขอโทษ โดยมารยาทแล้ว ต้องขอโทษ เหมือนกับว่า เป็นการเหยียบย่ำผืนแผ่นดินไทย ชัดเจน

นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ตนในฐานะคนไทยคนหนึ่งเจ็บปวดในเรื่องนี้เช่นกัน ประเด็นดังกล่าวมีอยู่ประเด็นเดียวคือ ใครเป็นคนทำ และต้องนำคนทำมารับผิดชอบให้ได้ ไม่ใช่คนที่รู้เห็น ต้องรับผิดชอบ โดยจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับนายกฯ เพื่อหาผู้กระทำผิดอย่างเร่งด่วนต่อไป

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. สรรหา ได้ตั้งกระทู้ถามสดเรื่อง การแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสมของสถานีวิทยุโทรทัศน์ แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ว่าดูเหมือนว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่ไม่นานมานี้มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยนายโชติศักดิ์ ได้สวมเสื้อสีดำ ที่เขียนว่า" ไม่ยืน ไม่ใช่อาชญากร เห็นต่าง ไม่ใช่อาชญากรรม" ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่ามีความอ่อนไหวมาก

ต่อมาในรายการกรองสถานการณ์ ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ได้ให้ผู้ร่วมรายการสวมเสื้อดังกล่าว ทั้งที่เป็นสื่อของรัฐ ถือว่าไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งที่มาของเหตุการณ์ดังกล่าวได้สอดคล้องกับความเห็นของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุว่า มีขบวนการ "ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า" โดยระบุว่ากระบวนการสาธารณรัฐมีอยู่จริง เมื่อเป็นเช่นนี้อยากถามว่า ช่องเอ็นบีที ที่ท่านดูแลอยู่จะมีการควบคุมไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกได้หรือไม่ และท่านจะมีการดำเนินการอย่างไร

นายจักรภพ กล่าวว่าได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่มี ขบวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้าแต่อย่างใด เรื่องดังกล่าวเป็นศิลปะการต่อเรื่องราวเท่านั้น ไม่มีการยึดโยงกับความจริง เพราะโดยส่วนตัวเห็นว่า ขบวนการล้มทุน ล้มปืน ล้มเจ้า เป็นการเนื้อหาในเว็บไซต์ มาต่อๆกัน เปรียบเหมือน หมู หมา กาไก่ ที่ใครก็เขียนได้ และส่งข่าวลือให้กันทั้งนี้ ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นพนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ และเห็นว่าคนไทยทุกคน มีความจงรักภักดีกับสถาบันกษัตริย์ แน่นอน

จะพิมพ์คำแปลเป็นเล่มแจก

นายจักรภพ ได้ให้สัมภาษณ์ถึง กระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงคำบรรยายของตน ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 49 ว่า ได้พูดไปเยอะแล้วไม่อยากให้บานปลาย ส่วนการแปล คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันจันทร์ –อังคารนี้ ซึ่งตนจะแปลเอง เพื่อให้ถูกต้องตามการพูด และถ้าเป็นไปได้ จะจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย พร้อมใส่บทวิเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อชี้ให้เห็นว่า เขาเอาคำมาปลุกปั่นอย่างไร เพื่อเป็นกรณีศึกษา ไม่ให้คนในอนาคตใช้เป็นวิชามาร

ส่วนเมื่อแปลแล้วจะได้รับการยอมรับหรือไม่นั้น นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่ความยอมรับ แต่อยู่ที่การยืนยันว่า ในทุกคำว่าเราแปลได้ เพราะว่าเมื่อเราแปลเอง ใครตั้งคำถามว่า เพื่อปกป้องตัวเอง หรือเพื่อต้องการพ้นผิด แปลให้มีความคลาดเคลื่อน จะได้ยืนยันได้ว่า เหตุที่เราใช้คำแปลนั้นคือ อะไร

เมื่อถามว่า ล่าสุดประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรฯ แสดงความเคลือบแคลงในจุดยืน และท่าทีในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ จะชี้แจงอย่างไร นายจักรภพ กล่าวว่า การบริหารความเคลือบแคลงใจของคน เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีธงในใจอยากจะคิดไม่ดีอย่างไร ยิ่งยาก ตนทำได้ในฐานะคนไทยคนหนึ่งพึงกระทำ ไม่ได้ใช้อะไรพิเศษในฐานะผู้บริหารบ้านเมืองเลย ฐานะคนไทย 1 ใน 64 ล้านคน เป็นข้ารองพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อมีข้อกล่าวหา ในฐานะคนไทยคนหนึ่งตนต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงในระหว่างที่ทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องถอยออกมาพิสูจน์ กรณีนี้สามารถชี้แจงได้เลยไม่ต้องถอยไปตั้งหลักอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นความจริง บริสุทธิ์ใจ ตนก็ว่าไปตามข้อเท็จจริงเท่านั้น ระหว่างนี้ก็ทำหน้าที่เพื่อประชาชน

เมื่อถามว่ารู้สึกกดดันหรือไม่ เมื่อโดนตรวจสอบหลายๆเด้ง นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่เลย เราเป็นประเภทยิ่งกด ยิ่งเด้ง

เมื่อถามว่า สาระในการพูดบรรยายต้องการพูดถึงอะไร นายจักรภพ กล่าวว่า ต้องการพูดถึงการวิพากษ์วิจารณ์สังคม พูดในบรรยายกาศการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต้องการให้ประชาคมต่างประเทศเข้าใจประเทศไทย ใจเย็นกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมค่อยเป็นไปทีละขั้น และที่สำคัญคือ ระบบหมู่บ้านเดิมคนไทยเป็นคนเชื่อข่าวลือ การซุบซิบนินทา เชื่อจากเพื่อนมากกว่าข่าวจากสื่อ เป็นคนที่จะเอาเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้คนที่รู้จักดีไปหมด คนที่ไม่รู้จักแย่ไปหมด ซึ่งเป็นลักษณะสังคมของไทยที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปดีขึ้น ตนเชื่อว่าจะเกิดความเข้าใจประเทศไทยว่า ถึงจะมีความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยเกิดขึ้น แต่เดี๋ยวประชาธิปไตยต้องกลับมา

เมื่อถามอีกว่า แต่คนเข้าใจว่า พูดถึงเรื่องสถาบันฯโดยเฉพาะช่วงถามตอบ นายจักรภพ ชี้แจงว่า เป็นเรื่องที่ต้องเอาของจริงมาพูดกัน ถ้าพูดในวันนี้ก็เหมือนเอาความรู้สึก และเป็นการตีความของแต่ละฉบับมา เหมือนพายเรือวนในอ่าง เอาของจริงมาดีกว่า

อ้างเป็นเกมของฝ่ายค้าน

เมื่อซักอีกกว่า คิดว่าคำพูดช่วงไหนที่คำแปลมีปัญหา นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่มี ตนคิดว่าปัญหาเกิดจากการแปลของคนอื่นมากกว่า ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นจากคำพูด

"คำบรรยายที่ เอฟซีทีที ชัดเจน พูดมาตั้งเกือบปีแล้วแล้ว คนที่อ้างว่าจงรักภักดีไปหดหัวอยู่ที่ไหน ในช่วงเวลาเกือบปีที่ผ่านมา พูดในที่สาธารณะ คนไทยก็นั่งฟังอยู่ ผู้สื่อข่าวประเทศไทยก็นั่งกันเยอะ ที่อาคารมณียา แล้วคนที่พยามจะอ้างว่าตนจงรักภักดีกว่าคนอื่น ไปหลบอยู่ที่ไหน ทำไมไม่เอาเรื่องตอนนั้น เก็บเอาไว้ในใจ รอให้เป็นเรื่องการเมืองขึ้นมา แล้วเก็บไว้เป็นไพ่ตายของตน ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตตรงนั้น" นายจักรภพ กล่าว

ยืนกรานไม่ได้ทำผิดพลาด

เมื่อถามว่า ล่าสุด พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดโปงอุดมการณ์ของพวกล้มเจ้า นายจักรภพ กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงบ้านเมือง ท่านได้ข่าวจากรอบ-นอก ก็ย่อมเป็นห่วงเป็นธรรมดา สิ่งที่ท่านพูดต้องมาขบคิดกัน เป็นหน้าที่รัฐบาลดูว่า เป็นสภาพนั้นจริงหรือไม่ คงต้องมีการประสานงานกับอดีตนายกรัฐมนตรีต่อไป เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับมาแก้ปัญหาต่อไป

เมื่อถามว่า ที่พล.อ.ชวลิต บอกว่า หากคนระดับนโยบายผิดพลาดพลั้งไป ให้กราบพระบาท นายจักรภพ กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต พูดชัดเจนว่า หากผิดพลาด แต่ถ้าหากเป็นความเข้าใจผิด หรือเป็นความพยามของคนอื่นที่จะทำให้เห็นเป็นความผิดพลาด เป็นคนละเรื่อง ไม่ต้องพูด

เมื่อถามว่า นายสุทิน คลังแสง ออกมาเปิดเผยว่า นายจักรภพ มีการไปวิ่งเต้นกับบุคคลระดับสูง เพื่อให้เรื่องนี้จบ นายจักรภพ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ไม่มีเลย ต้องไปถาม นายสุทิน เอาเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น