รอยเตอร์ – ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ชี้ว่า สถานการณ์ของตลาดการเงินในสหรัฐฯเริ่มดีขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องให้แบงก์ต่างๆ เพิ่มทุนให้เข้มแข็ง และชื่นชมกองทุนรัฐบาลต่างชาติที่เข้าช่วยเหลือแบงก์อเมริกันในเรื่องนี้
ประธานเฟด เบน เบอร์นันกีกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี(15)ว่า ความปั่นป่วนในตลาดสินเชื่อเน้นให้เห็นความจำเป็นที่ธนาคารจะต้องสะสมเงินกองทุนไว้ให้เพียงพอแก่ความต้องการใช้ในช่วงวิกฤต และเขาก็ได้เรียกร้องให้ธนาคารต่าง ๆเพิ่มเงินกองทุนที่จัดสรรไว้สำหรับช่วงที่มีปัญหา สำหรับรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“ผมอยากจะเรียกร้องให้สถาบันการเงินดำเนินการในเชิงรุกเพื่อเพิ่มเงินทุนของตนเอง” เบอร์นันกีกล่าวระหว่างไปพูดในงานสัมมนาประจำปีโครงสร้างธนาคารครั้งที่ 44 ที่ชิคาโกซึ่งเฟดเป็นผู้จัด โดยหัวข้อสัมมนาในปีนี้ก็คือ “ความปั่นป่วนในตลาดสินเชื่อ: ต้นเหตุ ผลกระทบ และวิธีการแก้ไข”
“การทำเช่นนั้นมิเพียงช่วยเศรษฐกิจในวงกว้าง แต่ก็ยังทำให้สถาบันการเงินสามารถหาประโยชน์สร้างโอกาสทำกำไรใหม่ได้ เมื่อสถานการณ์ในตลาดการเงินและเศรษฐกิจฟื้นตัว”
จากที่ประชุมสัมมนาปีนี้ ทั้งเบอร์นันกี และประธานเฟดสาขานิวยอร์ค วิลเลี่ยม ดัดลีย์ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเรื่องตลาดการเงินให้กับเฟด ต่างก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมมากมายสำหรับให้นักวิเคราะห์ศึกษาถกเถียงกัน
นักจับตาเฝ้ามองเฟดหลายๆ คนบอกว่า เฟดกำลังผลักดันให้ธนาคารต่างๆ เพิ่มความพยายามมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อที่ดำเนินต่อเนื่องกันมาหลายเดือน หลังจากที่ทางฝ่ายเฟดได้ปรับเปลี่ยนหาวิธีการใหม่ๆ มาเสริมสภาพคล่องให้ตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นแล้ว
แครี เลฮีย์ นักเศรษฐศาสตร์แห่ง ดีซิชั่น อีโคโนมิกส์ ในนิวยอร์คบอกว่า เบอร์นันกีกำลังเรียกร้องให้พวกธนาคารกำจัดสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไป เพื่อที่ว่าจะได้กลับมาให้กู้เหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง
“เฟดคิดว่าได้ทำอะไรมากมายเพื่อบรรเทาสถานการณ์สภาพคล่องตึงตัวแล้ว และตอนนี้ถึงตาของสถาบันการเงินจะต้องหันมาช่วยเหลือตัวเองและเศรษฐกิจของประเทศบ้างแล้ว” เลฮีย์บอก
เบอร์นันกีกล่าวว่าความสำเร็จของธนาคารหลายแห่งในการเพิ่มทุนทำให้บรรยากาศเริ่มดีขึ้น นอกจากนี้เขายังได้กล่าวชื่นชมบทบาทของกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลต่างประเทศ ที่อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ภาคการเงินอเมริกันในยามที่สหรัฐฯต้องการอย่างที่สุด ซึ่งเป็นมุมมองใหม่ต่อกองทุนเหล่านี้ที่ออกมาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะก่อนหน้านี้กองทุนรัฐบาลเหล่านี้มักตกเป็นเป้าหมายการโจมตีอย่างรุนแรงว่าอาจจะเข้ามาสั่นคลอนความมั่นคงของสหรัฐได้
“พวกเขาได้เข้ามาและอัดฉีดเม็ดเงินที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เม็ดเงินที่มาจากการระดมทุนแบบเสี่ยงสูง ในช่วงเวลาที่สหรัฐฯกำลังต้องการพอดี รวมทั้งกองทุนรัฐบาลต่างประเทศก็ไม่เคยแสดงว่าต้องการเข้ามามีอำนาจการบริหารแต่อย่างใดด้วย” ประธานเฟดกล่าว
การเพิ่มทุนและแก้ไขปัญหาการขาดทุนจะทำให้ “สถาบันการเงินให้สินเชื่อใหม่ ที่จะหนุนส่งการขยายตัวเศรษฐกิจต่อไป” เขากล่าว
ในการสัมมนารายการเดียวกันนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน เบอร์นันกีเคยกล่าวเอาไว้ว่าเขาไม่คิดว่าปัญหาตราสารซับไพรม์จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯมากนัก
แต่ในการสัมมนาปีนี้ เบอร์นันกียอมรับว่า มีหลักฐานชัดเจนว่าปัญหาค่อย ๆลุกลามไปยังแต่ละกลไกของการให้สินเชื่อ” จากนั้นก็ระเบิดออกกลายเป็นการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงและดันให้เศรษฐกิจไปยืนอยู่ปากเหวของภาวะถดถอย
ประธานเฟด เบน เบอร์นันกีกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี(15)ว่า ความปั่นป่วนในตลาดสินเชื่อเน้นให้เห็นความจำเป็นที่ธนาคารจะต้องสะสมเงินกองทุนไว้ให้เพียงพอแก่ความต้องการใช้ในช่วงวิกฤต และเขาก็ได้เรียกร้องให้ธนาคารต่าง ๆเพิ่มเงินกองทุนที่จัดสรรไว้สำหรับช่วงที่มีปัญหา สำหรับรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“ผมอยากจะเรียกร้องให้สถาบันการเงินดำเนินการในเชิงรุกเพื่อเพิ่มเงินทุนของตนเอง” เบอร์นันกีกล่าวระหว่างไปพูดในงานสัมมนาประจำปีโครงสร้างธนาคารครั้งที่ 44 ที่ชิคาโกซึ่งเฟดเป็นผู้จัด โดยหัวข้อสัมมนาในปีนี้ก็คือ “ความปั่นป่วนในตลาดสินเชื่อ: ต้นเหตุ ผลกระทบ และวิธีการแก้ไข”
“การทำเช่นนั้นมิเพียงช่วยเศรษฐกิจในวงกว้าง แต่ก็ยังทำให้สถาบันการเงินสามารถหาประโยชน์สร้างโอกาสทำกำไรใหม่ได้ เมื่อสถานการณ์ในตลาดการเงินและเศรษฐกิจฟื้นตัว”
จากที่ประชุมสัมมนาปีนี้ ทั้งเบอร์นันกี และประธานเฟดสาขานิวยอร์ค วิลเลี่ยม ดัดลีย์ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเรื่องตลาดการเงินให้กับเฟด ต่างก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมมากมายสำหรับให้นักวิเคราะห์ศึกษาถกเถียงกัน
นักจับตาเฝ้ามองเฟดหลายๆ คนบอกว่า เฟดกำลังผลักดันให้ธนาคารต่างๆ เพิ่มความพยายามมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อที่ดำเนินต่อเนื่องกันมาหลายเดือน หลังจากที่ทางฝ่ายเฟดได้ปรับเปลี่ยนหาวิธีการใหม่ๆ มาเสริมสภาพคล่องให้ตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นแล้ว
แครี เลฮีย์ นักเศรษฐศาสตร์แห่ง ดีซิชั่น อีโคโนมิกส์ ในนิวยอร์คบอกว่า เบอร์นันกีกำลังเรียกร้องให้พวกธนาคารกำจัดสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไป เพื่อที่ว่าจะได้กลับมาให้กู้เหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง
“เฟดคิดว่าได้ทำอะไรมากมายเพื่อบรรเทาสถานการณ์สภาพคล่องตึงตัวแล้ว และตอนนี้ถึงตาของสถาบันการเงินจะต้องหันมาช่วยเหลือตัวเองและเศรษฐกิจของประเทศบ้างแล้ว” เลฮีย์บอก
เบอร์นันกีกล่าวว่าความสำเร็จของธนาคารหลายแห่งในการเพิ่มทุนทำให้บรรยากาศเริ่มดีขึ้น นอกจากนี้เขายังได้กล่าวชื่นชมบทบาทของกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลต่างประเทศ ที่อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ภาคการเงินอเมริกันในยามที่สหรัฐฯต้องการอย่างที่สุด ซึ่งเป็นมุมมองใหม่ต่อกองทุนเหล่านี้ที่ออกมาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะก่อนหน้านี้กองทุนรัฐบาลเหล่านี้มักตกเป็นเป้าหมายการโจมตีอย่างรุนแรงว่าอาจจะเข้ามาสั่นคลอนความมั่นคงของสหรัฐได้
“พวกเขาได้เข้ามาและอัดฉีดเม็ดเงินที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เม็ดเงินที่มาจากการระดมทุนแบบเสี่ยงสูง ในช่วงเวลาที่สหรัฐฯกำลังต้องการพอดี รวมทั้งกองทุนรัฐบาลต่างประเทศก็ไม่เคยแสดงว่าต้องการเข้ามามีอำนาจการบริหารแต่อย่างใดด้วย” ประธานเฟดกล่าว
การเพิ่มทุนและแก้ไขปัญหาการขาดทุนจะทำให้ “สถาบันการเงินให้สินเชื่อใหม่ ที่จะหนุนส่งการขยายตัวเศรษฐกิจต่อไป” เขากล่าว
ในการสัมมนารายการเดียวกันนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน เบอร์นันกีเคยกล่าวเอาไว้ว่าเขาไม่คิดว่าปัญหาตราสารซับไพรม์จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯมากนัก
แต่ในการสัมมนาปีนี้ เบอร์นันกียอมรับว่า มีหลักฐานชัดเจนว่าปัญหาค่อย ๆลุกลามไปยังแต่ละกลไกของการให้สินเชื่อ” จากนั้นก็ระเบิดออกกลายเป็นการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงและดันให้เศรษฐกิจไปยืนอยู่ปากเหวของภาวะถดถอย