ศูนย์ข่าวศรีราชา- การขนส่งที่เพิ่มมากขึ้นจากการมีท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้การจราจรวิกฤต จังหวัดชลบุรีผนึกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินเครื่องทำแผนพัฒนาระบบการขนส่งทั้งระบบ เพื่อแก้ปัญหาจราจร อำนวยความสะดวกให้การขนส่งสินค้ารวดเร็วขึ้น
ที่ห้องประชุมศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนและผู้ประกอบการขนส่ง ได้ร่วมประชุมจัดทำแผนพัฒนาระบบการขนส่ง โดยเน้นด้านการแก้ไขปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้น และแผนพัฒนาด้านการจราจรในอนาคต
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันปัญหาการจราจรในจังหวัดชลบุรี ประสบปัญหาการจราจรอย่างมาก เนื่องจากมีการขนส่งสินค้ามาลงที่ท่าเรือแหลมฉบังเป็นจำนวนมาก การจราจรติดขัด ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ดังนั้น จึงต้องมีการระดมความคิดจากเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน เพื่อวางแผนและแนวทางในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากตามแผนงานแล้ว การขนส่งสินค้าจะต้องเน้นด้านการขนส่งทางรถไฟและทางเรือ แต่ขณะนี้เน้นด้านการขนส่งทางรถยนต์
นายเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับแผนยุทธศาสตร์ จะต้องเน้นการพัฒนาท่าเรือในการขนส่งสินค้า ด้านพัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า เน้นด้านการบริหารจัดการด้านการขนส่งให้เป็นระบบแบบแผนที่ดีขึ้น นอกจากนั้น จะต้องพัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีโครงการลงมาในพื้นที่บ้างแล้ว และหากเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมก็จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
ขณะนี้มีโครงการนำร่องการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งสินค้าและบริการ คือ 1.โครงการนำร่องการพัฒนาการจัดการขนส่งทางรถไฟระหว่าง จ.ขอนแก่น-จ.นครราชสีมา-ท่าเรือแหลมฉบัง 2.โครงการนำร่องการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งทางรถไฟระหว่าง จ.นครสวรรค์-ICD ลาดกระบัง-ท่าเรือแหลมฉบัง
นอกจากนั้น โครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบการขนส่ง ที่เชื่อมโยงเข้าสู่หรือสนับสนุนท่าเรือแหลมฉบัง ในปีงบประมาณ 2551-2554 ประกอบด้วย โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่งใหม่ (A1) ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเป็นท่าสำหรับขนส่งสินค้าภายในประเทศ ทางลำน้ำจากภาคกลางมายังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อแบ่งเบาภาระการขนส่งทางถนนและลดต้นทุนลอจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการกว่า 500 ล้านบาท
นายเฉลิมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า โครงการในปี 2551-2554 ยังมีแผนงานก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงจังหวัดฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพของการขนส่งทางรถไฟ บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก เพื่อลดต้นทุน และระยะเวลาการขนส่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบรายละเอียด และจะประกวดราคาการก่อสร้างในเร็วๆ นี้
นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหา ขณะนี้รัฐบาลให้ความสนใจและวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดที่แผนพัฒนาด้านการขนส่งในอนาคต โดยจะให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณหลายแสนล้านบาท โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี หากโครงการต่างๆที่วางแผนไว้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ปัญหาการจราจรในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงต่างๆ คงจะหมดไป
ด้าน นายประโยชน์ อรรถธร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการจราจรในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ขณะนี้รัฐบาลมีแผนและนโยบายในการแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้มีแผนงานและโครงการที่วางไว้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อให้โครงการนั้นเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะต้องเร่งประชุมคณะกรรมการ เพื่อลงมติสนับสนุนโครงการที่เกิดขึ้นโดยเร็ว
ที่ห้องประชุมศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนและผู้ประกอบการขนส่ง ได้ร่วมประชุมจัดทำแผนพัฒนาระบบการขนส่ง โดยเน้นด้านการแก้ไขปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้น และแผนพัฒนาด้านการจราจรในอนาคต
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันปัญหาการจราจรในจังหวัดชลบุรี ประสบปัญหาการจราจรอย่างมาก เนื่องจากมีการขนส่งสินค้ามาลงที่ท่าเรือแหลมฉบังเป็นจำนวนมาก การจราจรติดขัด ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ดังนั้น จึงต้องมีการระดมความคิดจากเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน เพื่อวางแผนและแนวทางในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากตามแผนงานแล้ว การขนส่งสินค้าจะต้องเน้นด้านการขนส่งทางรถไฟและทางเรือ แต่ขณะนี้เน้นด้านการขนส่งทางรถยนต์
นายเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับแผนยุทธศาสตร์ จะต้องเน้นการพัฒนาท่าเรือในการขนส่งสินค้า ด้านพัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า เน้นด้านการบริหารจัดการด้านการขนส่งให้เป็นระบบแบบแผนที่ดีขึ้น นอกจากนั้น จะต้องพัฒนาระบบขนส่งทางรถไฟ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีโครงการลงมาในพื้นที่บ้างแล้ว และหากเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมก็จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
ขณะนี้มีโครงการนำร่องการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งสินค้าและบริการ คือ 1.โครงการนำร่องการพัฒนาการจัดการขนส่งทางรถไฟระหว่าง จ.ขอนแก่น-จ.นครราชสีมา-ท่าเรือแหลมฉบัง 2.โครงการนำร่องการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งทางรถไฟระหว่าง จ.นครสวรรค์-ICD ลาดกระบัง-ท่าเรือแหลมฉบัง
นอกจากนั้น โครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบการขนส่ง ที่เชื่อมโยงเข้าสู่หรือสนับสนุนท่าเรือแหลมฉบัง ในปีงบประมาณ 2551-2554 ประกอบด้วย โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่งใหม่ (A1) ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเป็นท่าสำหรับขนส่งสินค้าภายในประเทศ ทางลำน้ำจากภาคกลางมายังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อแบ่งเบาภาระการขนส่งทางถนนและลดต้นทุนลอจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการกว่า 500 ล้านบาท
นายเฉลิมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า โครงการในปี 2551-2554 ยังมีแผนงานก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงจังหวัดฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพของการขนส่งทางรถไฟ บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก เพื่อลดต้นทุน และระยะเวลาการขนส่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบรายละเอียด และจะประกวดราคาการก่อสร้างในเร็วๆ นี้
นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหา ขณะนี้รัฐบาลให้ความสนใจและวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดที่แผนพัฒนาด้านการขนส่งในอนาคต โดยจะให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณหลายแสนล้านบาท โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี หากโครงการต่างๆที่วางแผนไว้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ปัญหาการจราจรในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงต่างๆ คงจะหมดไป
ด้าน นายประโยชน์ อรรถธร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการจราจรในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ขณะนี้รัฐบาลมีแผนและนโยบายในการแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้มีแผนงานและโครงการที่วางไว้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อให้โครงการนั้นเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะต้องเร่งประชุมคณะกรรมการ เพื่อลงมติสนับสนุนโครงการที่เกิดขึ้นโดยเร็ว
