xs
xsm
sm
md
lg

เลี้ยบลุ้นศาลฎีกาชี้คดีหวยบนดินคตส.ยื่นศาลชัยเกษมทัศนคติไม่ดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะวินิจฉัยว่าจะรับหรือไม่รับฟ้องคดีที่ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้องคดีโครงการการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว (หวยบนดิน)
อดีต ครม.ยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง นพ.สุรพงษ์ ร่วมเป็นรัฐมนตรีด้วยในวันนี้ (14 พ.ค.)ว่า ขอยังไม่พูดอะไรในตอนนี้ ส่วนการตัดสินของศาลจะทำให้ตนต้องออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น คิดว่าอย่าสมมติ เพราะสมมติไม่ได้ คงต้องรอให้ผลการพิจารณาออกมาก่อน
สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การปรับคณะรัฐมนตรี ยังไม่มีการคุยกัน เพราะแต่ละคนยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน และยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับกี่ตำแหน่ง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. คตส.ได้ทำหนังสือถึง ประธานศาลฎีกา ลงนามโดยนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.เรื่องบทความและคำให้สัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระบุว่า เนื่องจากขณะนี้ มีคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาฯ ทั้งที่อยู่ในระหว่างการนัดสืบพยาน ซึ่งเป็นทั้งคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง และคดีที่อยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งศาลเพื่อพิจารณาว่าจะสั่งรับฟ้อง ไว้พิจารณาคดีหรือไม่ ที่ คตส.เป็นโจทย์ยื่นฟ้องในสำนวนคดีกรณีกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวก กระทำความผิดเกี่ยวกับการออกหวยบนดิน ของสำนักงานสลากินแบ่งรัฐบาล โดยคดีนี้ศาลฎีกาฯนัดฟังคำสั่งฟ้องในวันที่ 14 พ.ค.นี้
ในหนังสือระบุว่า ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมาได้มีบทความให้สัมภาษณ์เรื่อง “ชัยเกษม นิติสิริ ไม่มีใครสั่งผมได้” โดยนายชัยเกษม นิติศิริ อัยการสูงสุด และ ในวันที่ 7-8 พ.ค.ได้มีบทความในหัวข้อข่าวเรื่อง “ผู้มีอำนาจฟ้องอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” โดยใช้ชื่อว่า “จักรวาล กาญธีรานนท์” อัยการอาวุโส สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับอำนาจฟ้อง คตส.จึงเห็นสมควรส่งบทความดังกล่าว ซึ่งเป็นบทความ ที่ได้แสดงออกต่อสาธารณชน ในช่วงที่ศาลกำลังจะมีคำสั่งรับฟ้อง หรือไม่รับฟ้อง ในบางคดี และได้มีการดำเนินการสืบพยานไปแล้วในบางคดี
ทั้งนี้การให้ความเห็นในข้อกฎหมาย ของผู้ทีเกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้น ตามที่ปรากฏในสื่อน่าจะก่อให้เกิดความสับสนกับผู้คนที่ติดตามและรอฟังการพิจารณาคดีของศาล โดยปราศจากสิ่งอันพึงชี้นำก่อนที่ศาลจะมีคำสั่ง จึงประธานกราบเรียนข้อมูลดังกล่าวเพื่อโปรดพิจารณาตามที่เห็นสมควรเพื่อรักษาและคุ้มครองกระบวนการพิจารณาคดีของศาลให้เป็นไปตามความมุ่งหมายของกฎหมาย ที่ได้วางหลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหนังสือดังกล่าว ยังได้แนบสำเนาบทความ เรื่อง “ชัยเกษม นิติสิริ ไม่มีใครสั่งผมได้” ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันอังคารที่ 29 เม.ย. 2551 โดยในตอนหนึ่งของบทความ นายชัยเกษมได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ถามถึงกรณี ที่ถูก คตส.ชี้มูลความผิดในคดีซีทีเอ็กซ์ 9000 อาจเป็นสาเหตุของการ มีปัญหาในคดีต่างๆ ที่ คตส.ส่งมาให้อัยการยื่นฟ้อง โดยนายชัยเกษม ยอมรับว่า “มีความรู้สึกไม่ดีต่อการทำงานของ คตส.แต่เรื่องความรู้สึกกับเรื่องพยานหลักฐานในการสั่งคดี ต้องเป็นคนละเรื่องกัน ถ้าผมเอาความรู้สึกมาสั่งคดี บ้านเมืองก็พัง ระบบกฎหมายก็พัง”
นอกจากนี้ยังมี สำเนาบทความ ให้หัวข้อข่าว “ผู้มีอำนาจฟ้องอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” หนังสือพิมพ์มติชนรายวันวันพฤหัสบดีที่ 8 พ.ค. 2551 หน้า 7 และ สำเนาบทความในหัวข้อข่าวเรื่อง “ผู้มีอำนาจฟ้องอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันพุธ ที่ 7 พ.ค.2551
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ได้มีการประชุม คตส.นัดพิเศษเพื่อพิจารณาสรุปสำนวนคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะได้ผลสรุปในดึกวันเดียวกัน ดังนั้น นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส.จึงนัดเตรียมแถลงข่าวชี้แจงมติของ คตส.ในการส่งคดีดังให้อัยการสูงสุด สั่งฟ้องต่อไปในวันที่ 14 พ.ค. เวลา 10.00 น.

วานนี้ (13 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. ได้เดินทางมาเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด เป็นจำเลย ในความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร โดยโจทย์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2551 จำเลย ได้กระทำความผิดกฎหมายหลายบท โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายฉบับรวมทั้งหนังสือพิมพ์มติชนรายวันว่า “...นายสักมาจากทนายเอกชน ไม่รู้เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ผมได้รับแต่งตั้งจาก อสส.ตามหนังสือเลขที่ 590/2550 ให้เป็นประธานคณะทำงานอัยการพิจารณาสำนวนคดีของ คตส.ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 อยากถามว่า มีสิทธิ์อะไรมาตรวจสอบ อยากให้มองตัวเองเสียก่อน เฮงซวย ผมชักอยากเจอแล้วซิ และที่ออกมาพูดว่า อัยการไม่ได้เปิดสำนวนต้นฉบับ ยังผนึกเหมือนตอนที่ส่งไป ให้สัมภาษณ์ทุเรศอย่างนี้ได้อย่างไร...”
ข้อความที่จำเลยให้สัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังและผู้อ่านเข้าใจในทันที ว่า โจทก์เป็นคนไม่รู้ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน เป็นคนเฮงซวย คนไม่ดี คนคุณภาพต่ำ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเสียชื่อเสียง ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายและประกาศโฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์รายวัน 9 ฉบับเป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน
ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีดำ อ.1770/2551 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 21 ก.ค.เวลา 13.30 น.
ด้าน นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องที่ถูกฟ้อง ไม่เป็นปัญหา เพราะถือว่าเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ก็ต้องไปว่ากันในศาล โดยการให้สัมภาษณ์ตนไม่มีอะไรกับ คตส.เมื่อผู้สื่อข่าวถามมาตนก็ตอบไป
นายวัยวุฒิ กล่าวย้ำว่า การฟ้องคดีจะไม่กระทบ หรือเป็นปัญหาการทำหน้าที่ องค์กรทั้งสอง ระหว่าง คตส.และอัยการ เพราะการพิจารณาสำนวนคดีอัยการทำไปตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น