โอสถสภา ปั้นเครื่องดื่มชูกำลัง"จูนอัพ"แบรนด์น้องใหม่เสริมความแข็งแกร่งพอร์ตโฟลิโอ ระเบิดนวัตกรรมใหม่ผสมโคลีน-แอลคาร์นิทีน ปลุกตลาดและสร้างสีสัน ควงกลยุทธ์มัลติแบรนด์ตอกย้ำเจ้าบัลลังก์เครื่องดื่มชูกำลังมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ด้านไทยเบฟฯ หลังดอดซื้อแรงเยอร์ ส่งภาพยนตร์โฆษณานำร่อง
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มชูกำลัง เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า บริษัทโอสถสภาได้เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์ใหม่ "จูนอัพ"ลงสู่ตลาด โดยเป็นเครื่องชูกำลังระดับพรีเมียมจำหน่ายในราคา 15 บาท เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อ สำหรับความโดดเด่นของจูนอัพ คือ เป็นเครื่องดื่มชูกำลังแนวคิดใหม่ โดยมีสารประกอบโคลีน ซึ่งเป็นส่วนผสมยอดนิยมสำหรับฟังก์ชันนัลดริงก์ในปัจจุบันที่ชูจุดขายเกี่ยวกับสมอง นอกจากนี้ยังมีแอลคาร์นิทีน หรือมีส่วนผสมที่เครื่องดื่มสปอร์ตดริงก์มาเป็นจุดขายช่วยในการเผาผลาญ
ก่อนหน้านี้นายธัชรินทร์ โอสถานุเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม-150 ลิโพ และ ฉลาม เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซื้อกิจการเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ และขณะเดียวกันกำลังจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง บริษัทคงต้องดูท่าทีของคู่แข่งไปสักระยะหนึ่งว่าจะเป็นอย่างไร
แต่แนวทางทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของบริษัทฯ ในปีนี้เน้นการป้องกันตัวเองทุกด้าน เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดของโอสถสภาครองส่วนแบ่ง 55% จากตลาดรวมมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น เอ็ม-150 มีส่วนแบ่งประมาณ 45% ลิโพ 10% ส่วนกระทิงแดง ส่วนแบ่งกว่า 10% และคาราบาวแดง กว่า 10% ด้วยการออกสินค้าใหม่หรือนำสินค้าแบรนด์ฉลามมาเป็นไฟท์ติ้งแบรนด์สกัดคู่แข่ง และการจัดโครงสร้างราคาสินค้าใหม่
ล่าสุดบริษัทโอสถสภาเลือกแนวทางออกสินค้าใหม่ และนับว่าเป็นค่ายเครื่องดื่มชูกำลังที่มีมัลติแบรนด์จากการมีเครื่องดื่มชูกำลังครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ ประกอบด้วย เอ็ม-150 เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ยี่ห้อฉลามแข็งแกร่งทางภาคใต้ มีแชร์ 10% ส่วนลิโพ วางราคา 12 บาท สูงกว่าแบรนด์อื่น 2 บาท เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง มีส่วนแบ่งกว่า 10% ส่วนเอ็มแม็กซ์ เจาะคนรุ่นใหม่อายุ 20-29 ปี มียอดขาย 70-80 ล้านกระป๋องต่อเดือน ขณะที่ชาร์ก เจาะตลาดต่างประเทศ เป็นหลัก
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับจูนอัพ เป็นเครื่องดื่มชูกำลังนวัตกรรมใหม่ที่แตกต่างจากเครื่องดื่มชูกำลังที่จำหน่ายในตลาดทั่วไป โดยก่อนหน้านี้คาราบาวแดง เอ็กซ์โอ กลิ่นวิสกี้" ภายใต้สโลแกน "ขวดเดียวพอ เตรียมคอให้พร้อม" ลงสู่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในเซกเมนต์พรีเมียม จำหน่ายราคา 12 บาท ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังนวัตกรรมใหม่เช่นกัน อย่างไรก็ตามการเปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังจูนอัพ คาดว่าจะสร้างสีสันและความคึกคักให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง
หลังจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแทบไม่มีอัตราการเติบโต เนื่องจากได้รับผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งหากพิจารณา จะพบว่าเครื่องดื่มชูกำลังแต่ละยี่ห้อในตลาดมีรสชาติที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ทำให้ผู้บริโภคอาจจะไม่มีความภักดีกับผลิตภัณฑ์ แต่สภาพตลาดก็ยังมีการแข่งขันที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง ปี 2550 ผู้ประกอบการทุกรายหันมาทำโปรโมชัน ไม่ว่าจะเป็น คาราบาวแดง กระทิงแดง และเอ็ม -150 เพื่อกระตุ้นตลาดให้เติบโต สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจะมีอัตราการเติบโต 2-3%
ไทยเบฟฯ เริ่มออกแรงปั้นแรงเยอร์
สำหรับความเคลื่อนไหวบริษัทไทยเบฟฯ หลังซื้อกิจการของบริษัท เครื่องดื่มแรงเยอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้า "แรงเยอร์" ล่าสุดได้ปล่อยภาพยนตร์โฆษณาออกมานำร่อง ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง หลังจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาแรงเยอร์ไม่ค่อยเคลื่อนไหวทางการตลาดหรือกระทั่งการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำให้ส่วนแบ่งเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มชูกำลัง เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า บริษัทโอสถสภาได้เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์ใหม่ "จูนอัพ"ลงสู่ตลาด โดยเป็นเครื่องชูกำลังระดับพรีเมียมจำหน่ายในราคา 15 บาท เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อ สำหรับความโดดเด่นของจูนอัพ คือ เป็นเครื่องดื่มชูกำลังแนวคิดใหม่ โดยมีสารประกอบโคลีน ซึ่งเป็นส่วนผสมยอดนิยมสำหรับฟังก์ชันนัลดริงก์ในปัจจุบันที่ชูจุดขายเกี่ยวกับสมอง นอกจากนี้ยังมีแอลคาร์นิทีน หรือมีส่วนผสมที่เครื่องดื่มสปอร์ตดริงก์มาเป็นจุดขายช่วยในการเผาผลาญ
ก่อนหน้านี้นายธัชรินทร์ โอสถานุเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม-150 ลิโพ และ ฉลาม เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซื้อกิจการเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ และขณะเดียวกันกำลังจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง บริษัทคงต้องดูท่าทีของคู่แข่งไปสักระยะหนึ่งว่าจะเป็นอย่างไร
แต่แนวทางทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของบริษัทฯ ในปีนี้เน้นการป้องกันตัวเองทุกด้าน เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดของโอสถสภาครองส่วนแบ่ง 55% จากตลาดรวมมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น เอ็ม-150 มีส่วนแบ่งประมาณ 45% ลิโพ 10% ส่วนกระทิงแดง ส่วนแบ่งกว่า 10% และคาราบาวแดง กว่า 10% ด้วยการออกสินค้าใหม่หรือนำสินค้าแบรนด์ฉลามมาเป็นไฟท์ติ้งแบรนด์สกัดคู่แข่ง และการจัดโครงสร้างราคาสินค้าใหม่
ล่าสุดบริษัทโอสถสภาเลือกแนวทางออกสินค้าใหม่ และนับว่าเป็นค่ายเครื่องดื่มชูกำลังที่มีมัลติแบรนด์จากการมีเครื่องดื่มชูกำลังครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ ประกอบด้วย เอ็ม-150 เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ยี่ห้อฉลามแข็งแกร่งทางภาคใต้ มีแชร์ 10% ส่วนลิโพ วางราคา 12 บาท สูงกว่าแบรนด์อื่น 2 บาท เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง มีส่วนแบ่งกว่า 10% ส่วนเอ็มแม็กซ์ เจาะคนรุ่นใหม่อายุ 20-29 ปี มียอดขาย 70-80 ล้านกระป๋องต่อเดือน ขณะที่ชาร์ก เจาะตลาดต่างประเทศ เป็นหลัก
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับจูนอัพ เป็นเครื่องดื่มชูกำลังนวัตกรรมใหม่ที่แตกต่างจากเครื่องดื่มชูกำลังที่จำหน่ายในตลาดทั่วไป โดยก่อนหน้านี้คาราบาวแดง เอ็กซ์โอ กลิ่นวิสกี้" ภายใต้สโลแกน "ขวดเดียวพอ เตรียมคอให้พร้อม" ลงสู่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในเซกเมนต์พรีเมียม จำหน่ายราคา 12 บาท ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังนวัตกรรมใหม่เช่นกัน อย่างไรก็ตามการเปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังจูนอัพ คาดว่าจะสร้างสีสันและความคึกคักให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง
หลังจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแทบไม่มีอัตราการเติบโต เนื่องจากได้รับผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งหากพิจารณา จะพบว่าเครื่องดื่มชูกำลังแต่ละยี่ห้อในตลาดมีรสชาติที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ทำให้ผู้บริโภคอาจจะไม่มีความภักดีกับผลิตภัณฑ์ แต่สภาพตลาดก็ยังมีการแข่งขันที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง ปี 2550 ผู้ประกอบการทุกรายหันมาทำโปรโมชัน ไม่ว่าจะเป็น คาราบาวแดง กระทิงแดง และเอ็ม -150 เพื่อกระตุ้นตลาดให้เติบโต สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจะมีอัตราการเติบโต 2-3%
ไทยเบฟฯ เริ่มออกแรงปั้นแรงเยอร์
สำหรับความเคลื่อนไหวบริษัทไทยเบฟฯ หลังซื้อกิจการของบริษัท เครื่องดื่มแรงเยอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้า "แรงเยอร์" ล่าสุดได้ปล่อยภาพยนตร์โฆษณาออกมานำร่อง ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง หลังจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาแรงเยอร์ไม่ค่อยเคลื่อนไหวทางการตลาดหรือกระทั่งการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำให้ส่วนแบ่งเป็นเพียงตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น