ผู้จัดการรายวัน – กระทิงแดง ชี้ตลาดชูกำลัง 1.5 หมื่นล้านบาทคึกคัก หลังแรงเยอร์-คาราบาวแดง อยู่ในอุ้งมือไทยเบฟฯ ควักกลยุทธ์ซีเอสอาร์บูมแบรนด์เรดบูลครั้งแรก หวังเรดบูลเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น ระบุตลาดชูกำลังปีนี้โตไม่เกิน 5% จ่อคิวแตกไลน์เครื่องดื่มสุขภาพเสริมรายได้ สนใจลุยตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์
นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์เรดบูล เอ็กซ์ตร้า บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซื้อกิจการเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง ขณะนี้ต้องรอดูแผนการตลาดของคู่แข่งก่อน แต่เชื่อว่าศักยภาพของไทยเบฟฯ จะช่วยด้านกระจายสินค้าทั้ง 2 แบรนด์ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงปีนี้ บริษัทฯคงไม่ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับคู่แข่ง โดยจะมุ่งเน้นการทำตลาดอย่างรับผิดชอบสังคมในเชิงรุกมากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “เรดบูล สปิริต เชื่อมโยงใจอาสา เป็นพลังสร้างอนาคต” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำแบรนด์เรดบูลมาดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม หลังจากก่อนหน้านี้จะใช้ในนามเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ทั้งนี้เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่มากขึ้น
“การทำตลาดเรดบูล ยังไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่มากนัก เพราะด้วยภาพลักษณ์ของสินค้าเป็นเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เมื่อเทียบกับต่างประเทศเรดบูลเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่”
แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ปีนี้มีความคึกคักมากขึ้น โดยจะแข่งขันด้านการสร้างภาพลักษณ์ผ่านโฆษณาประชาสัมพันธ์ การทำกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ ส่วนการแข่งขันโปรโมชันหรือลดราคาไม่มี เนื่องจากมาตรการภาครัฐห้ามเครื่องดื่มชูกำลังทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบโปรโมชัน
อย่างไรก็ตามท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง การตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มชูกำลังในปีนี้จะคำนึงถึงด้านราคามากขึ้น โดยหันมาเลือกดื่มกลุ่มสินค้าไฟติ้งแบรนด์เพิ่มขึ้น อาทิ ลูกทุ่ง เป็นต้น นอกจากนี้เครื่องดื่มชูกำลังยังต้องแข่งขันกับเครื่องดื่มคู่แข่งทางอ้อม อย่างเครื่องดื่มกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มซึ่งมีผู้ประกอบการเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ดื่มชูกำลังอาจจะสวิตช์ไปดื่มกาแฟกระป๋องบ้าง ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้มีอัตราการเติบโตไม่เกิน 5%
จากแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งคาดว่าจะไม่อัตราการเติบโตไม่มากนัก ประกอบกับกระแสสุขภาพที่มาแรง ดังนั้นนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯจะแตกไลน์เครื่องดื่มใหม่ๆ โดยเฉพาะฟังก์ชันนัลดริงก์เป็นตลาดที่น่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ แบ่งเป็น เครื่องดื่มชูกำลังสัดส่วน 50% ส่วนอีก 50% เป็น ชาขาวเพียวริคุ สปอนเซอร์ น้ำผลไม้ฟรุ้ตฟิต ฟอร์ฟัน เป็นต้น
**ลดต้นทุนการกระจายสินค้าหาลูกค้าเสริม**
นายอดิศร ลิ้มณรงค์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เดอเบล จำกัด บริษัทจัดจำหน่ายในเครือบริษัทกระทิงแดง เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯได้จำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังในสัดส่วนถึง 90% ส่วนที่เหลืออีก 10% เป็นสินค้ากลุ่มอื่นๆ โดยการมีหน่วยรถทั้งหมด 280 คัน ซึ่งยังสามารถรองรับการจัดจำหน่ายสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม ล่าสุดได้เป็นผู้จัดจำหน่ายมันฝรั่งทอดกรอบคารามูโจ้ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหม่ ส่วนลูกค้าเดิม ได้แก่ เจเล่ไลท์ มันชี่ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการรับจำหน่ายสินค้ารายอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งในการลดต้นทุนด้านกระจายสินค้าให้กับบริษัทฯ
นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์เรดบูล เอ็กซ์ตร้า บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซื้อกิจการเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง ขณะนี้ต้องรอดูแผนการตลาดของคู่แข่งก่อน แต่เชื่อว่าศักยภาพของไทยเบฟฯ จะช่วยด้านกระจายสินค้าทั้ง 2 แบรนด์ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงปีนี้ บริษัทฯคงไม่ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับคู่แข่ง โดยจะมุ่งเน้นการทำตลาดอย่างรับผิดชอบสังคมในเชิงรุกมากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “เรดบูล สปิริต เชื่อมโยงใจอาสา เป็นพลังสร้างอนาคต” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำแบรนด์เรดบูลมาดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม หลังจากก่อนหน้านี้จะใช้ในนามเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ทั้งนี้เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่มากขึ้น
“การทำตลาดเรดบูล ยังไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่มากนัก เพราะด้วยภาพลักษณ์ของสินค้าเป็นเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เมื่อเทียบกับต่างประเทศเรดบูลเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่”
แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ปีนี้มีความคึกคักมากขึ้น โดยจะแข่งขันด้านการสร้างภาพลักษณ์ผ่านโฆษณาประชาสัมพันธ์ การทำกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ ส่วนการแข่งขันโปรโมชันหรือลดราคาไม่มี เนื่องจากมาตรการภาครัฐห้ามเครื่องดื่มชูกำลังทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบโปรโมชัน
อย่างไรก็ตามท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง การตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มชูกำลังในปีนี้จะคำนึงถึงด้านราคามากขึ้น โดยหันมาเลือกดื่มกลุ่มสินค้าไฟติ้งแบรนด์เพิ่มขึ้น อาทิ ลูกทุ่ง เป็นต้น นอกจากนี้เครื่องดื่มชูกำลังยังต้องแข่งขันกับเครื่องดื่มคู่แข่งทางอ้อม อย่างเครื่องดื่มกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มซึ่งมีผู้ประกอบการเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ดื่มชูกำลังอาจจะสวิตช์ไปดื่มกาแฟกระป๋องบ้าง ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้มีอัตราการเติบโตไม่เกิน 5%
จากแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งคาดว่าจะไม่อัตราการเติบโตไม่มากนัก ประกอบกับกระแสสุขภาพที่มาแรง ดังนั้นนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯจะแตกไลน์เครื่องดื่มใหม่ๆ โดยเฉพาะฟังก์ชันนัลดริงก์เป็นตลาดที่น่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ แบ่งเป็น เครื่องดื่มชูกำลังสัดส่วน 50% ส่วนอีก 50% เป็น ชาขาวเพียวริคุ สปอนเซอร์ น้ำผลไม้ฟรุ้ตฟิต ฟอร์ฟัน เป็นต้น
**ลดต้นทุนการกระจายสินค้าหาลูกค้าเสริม**
นายอดิศร ลิ้มณรงค์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เดอเบล จำกัด บริษัทจัดจำหน่ายในเครือบริษัทกระทิงแดง เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯได้จำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังในสัดส่วนถึง 90% ส่วนที่เหลืออีก 10% เป็นสินค้ากลุ่มอื่นๆ โดยการมีหน่วยรถทั้งหมด 280 คัน ซึ่งยังสามารถรองรับการจัดจำหน่ายสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม ล่าสุดได้เป็นผู้จัดจำหน่ายมันฝรั่งทอดกรอบคารามูโจ้ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหม่ ส่วนลูกค้าเดิม ได้แก่ เจเล่ไลท์ มันชี่ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการรับจำหน่ายสินค้ารายอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งในการลดต้นทุนด้านกระจายสินค้าให้กับบริษัทฯ