เรียน ประชาชนชาวอังกฤษทุกท่าน
ก่อนอื่นกระผมคงต้องเรียนว่า ที่กระผมเขียนจดหมายมาถึงพวกท่านครั้งนี้ก็เนื่องจากต้องการระงับความขุ่นข้องหมองใจระหว่างพวกท่านกับประชาชนชาวไทยที่เกิดจากการกระทำของคนคนเดียว ซึ่งอาจทำให้สัมพันธ์ไมตรีอันยั่งยืนยาวนานของเราและท่านได้แปรเปลี่ยนไปในทางที่มิดีได้
สัมพันธไมตรีอันยาวนานนับแต่นายฮันเตอร์ เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ของเรา พวกท่านอาจรู้สึกประหลาดใจที่ผมเอ่ยชื่อนายฮันเตอร์ และไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร นายฮันเตอร์เป็นชาวอังกฤษคนแรกที่เข้ามาลงทุนตั้งห้างค้าขายในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อห้างฮันเตอร์และเฮย์ กระผมต้องกราบเรียนพวกท่านและขอกรุณาอย่างได้คิดว่าเป็นเรื่องขบขันเลยที่จะบอกว่า คนไทยยุคนั้นเรียกชาวอังกฤษผู้นี้ว่า นายหันแตร
พวกท่านต้องรู้ว่า นี่เป็นเรื่องธรรมดาของความแตกต่างทางด้านภาษาของการออกเสียง เหมือนคนไทยบางคนเห็นว่าชื่อของเขาอาจจะไม่คุ้นเคยกับการออกเสียงของพวกท่านจึงพยายามให้พวกท่านเรียกเขาว่า มิสเตอร์ซินาตร้า นั่นแหละ
ความจริงนี่ก็ไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญอะไรนักที่กระผมจะต้องนำมากราบเรียนพวกท่าน ประวัติศาสตร์และอารยธรรมอันยาวนานของพวกท่าน น่าจะมีคุณค่ากว่าที่จะจดจำเรื่องเล็กน้อยๆแบบนี้
ผมเพียงแต่รำลึกให้ท่านรับรู้ว่า ในอดีตนั้นชาวอังกฤษคนหนึ่งได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและทำมาหากินบนแผ่นดินไทย และจากนั้นเราก็มีสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันเสมอมานับเนื่องแต่ครั้งนั้นกระทั่ง รอ.เฮนรี เบอร์นี เป็นทูตเข้ามาเจรจาทำสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์กับราชอาณาจักรสยาม และตามด้วยการมาถึงของเซอร์ จอห์น เบาว์ริ่ง แน่นอนว่า ในครั้งนั้นเราอาจรู้สึกว่า พวกท่านอาจจะกดขี่เอารัดเอาเปรียบเราอยู่บ้าง แต่เราคนไทยก็ไม่ได้เก็บมาเรื่องที่จะต้องเอาคืนพวกท่านเลยแม้แต่น้อย
กระผมเพียงแต่นำเหตุการณ์ในอดีตมากล่าวก็เพื่อจะคลายข้อขุ่นข้องหมองใจในเรื่องที่คนไทยกระทำต่อคนอังกฤษดังที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้
นับตั้งแต่พวกเราประชาชนชาวไทยจำนวนนับแสนนับล้านคนได้ใช้สิทธิตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ทักษิณ ให้ออกไปจากอำนาจ แน่นอนว่า ในฐานะที่ประเทศของพวกท่านได้ชื่อว่า เป็นแม่แบบของระบอบประชาธิปไตยในโลกนี้ พวกท่านย่อมรับรู้ว่านั่นเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนที่จะกระทำต่อรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม เพียงแต่ไม่คาดคิดว่า การกระทำของเราได้ผลส่งผลต่อพวกท่านอย่างใหญ่หลวง
ขอให้พวกท่านได้ตระหนักว่า นี่เป็นสิ่งที่พวกกระผมคนไทยไม่ได้คาดคิดมาก่อน พวกกระผมชาวไทยไม่ได้มีเจตนาที่จะล้างแค้นในอดีต เพราะพุทธศาสนาสอนเราให้รู้จักการให้อภัย พวกเราไม่มีจิตเจตนาที่จะทำลายมิตรไมตรีและสัมพันธไมตรีอันยาวนานของพวกท่านกับเรา และในฐานะที่พวกเราเป็นพุทธศาสนิกชนพวกเราย่อมรู้ว่า การผลักเคราะห์กรรมไปตกอยู่กับผู้อื่นนับเป็นเรื่องของบาปกรรมอย่างหนึ่ง
ทั้งนี้เพราะจริงๆแล้ว เราคิดว่า เขาน่าจะอพยพไปอยู่ในประเทศแถบแอฟริกาที่มีผู้นำที่มีพฤติกรรมเฉกเช่นเดียวกับเขาเสียมากกว่า
แต่นอกเหนืออื่นใด กระผมจำเป็นที่จะต้องบอกพวกท่านด้วยว่า เคราะห์กรรมที่ท่านรับอยู่นี้ เพราะพวกท่านเองก็ไม่ได้เตรียมตัวต้อนรับการโจมตีของอารยธรรมอื่นๆ ผมคงไม่ต้องเอามะพร้าวมาขายสวน พวกท่านก็คงรู้เรื่อง globalization ดีกว่าพวกเรา ดังนั้นพวกท่านควรตระหนักต่อด้านมืดของมันด้วย
ผมอยากจะบอกว่า ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารหมุนเวียนกันทั่วโลก ถ้าพวกท่านศึกษาและติดตามข้อมูลข่าวสารสักเพียงนิด ท่านก็คงจะรู้จักมิสเตอร์ซินาตร้าดีขึ้น สโมสรฟุตบอลอังกฤษ(เอฟเอ) ก็ควรจะยับยั้งมหันตภัยของพวกท่านได้เสียตั้งแต่ต้น
ผมเห็นวันแรกที่พวกท่านแห่แหนไปต้อนรับมิสเตอร์ซินาตร้า และเอาธงชาติไทยของเรามาเขียนต้อนรับเขาว่า WELCOME THAKSIN (พวกท่านอย่ามาปฏิเสธอย่าเด็ดขาดว่า ไม่ใช่ฝีมือของพวกท่าน เพราะมิสเตอร์ซินาตร้าได้บอกความจริงแก่พวกเราแล้วว่า พวกท่านเป็นคนทำ) เชื่อไหมว่า บรรยากาศแบบที่พวกท่านต้อนรับเขานั้น ก็ไม่ได้ต่างกับคนไทยเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา ที่พวกเราหลงว่า เทวดามาโปรด โดยไม่ได้ศึกษาตัวตนที่แท้จริงของเขาอย่างถ่องแท้
ทั้งนี้เพราะเมื่อผมอ่านบทความของนายพอล ฮินซ์ ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ "แมนเชสเตอร์ อีเวนนิ่ง"แล้ว ผมคงต้องบอกว่า วันนี้พวกท่านต่างก็ประสบชะตากรรมเดียวกับที่พวกเราเคยเจอมาแล้ว
ฮินซ์คุณพูดถูกเลยว่า ทักษิณต้องการผู้จัดการทีมเหมือน'สุนัขเห่าให้เจ้าของ' โดยผู้จัดการทีมแมนฯซิตี้คนใหม่น่าจะเป็นคนประเภทกระโดดเต้นตามเสียงของทักษิณ และอาจเป็นหุ่นเชิดของเขา นี่เท่ากับว่า พวกคุณเริ่มรู้จักตัวตนของมิสเตอร์ซินาตร้าแล้ว
นี่คือนิสัยดั้งเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนของเขา เพราะมิสเตอร์ซินาตร้าเชื่อว่า เขาต้องรู้ดีกว่าใครในทุกเรื่อง ถ้าพวกท่านต้องการเขาพวกท่านควรจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับเขา ไม่เช่นนั้นพวกท่านจะต้องเจอแบบคนไทย แบบที่จังหวัดไหนเลือกพรรคของเขา เขาจะให้โอกาสก่อน
และนับแต่นี้ผมมั่นใจว่า หนังสือพิมพ์แมนเชสเตอร์ อีเวนนิ่งจะต้องประสบชะตากรรมเฉกเช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์ไทยตอนที่มิสเตอร์ซินาตร้ามีอำนาจ ซึ่งจะต้องเลือกระหว่างเอาเม็ดเงินโฆษณาจากเขาแล้ว หันมาเซ็นเซอร์ตัวเอง หุบปากเสีย หรือหันมาลุกขึ้นสู้แบบหนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่กรุงเทพฯ(บางกอกในความเข้าใจของพวกท่านนั่นแหละ)
ถ้าพวกท่านติดตามอ่านข่าวสารจากประเทศของเราสักนิด พวกท่านจะพบว่าตอนนี้ในเมืองไทยของผมมีพวก 'สุนัขเห่าให้เจ้าของ'เต็มไปหมด บางตัวเป็นสุนัขปากจู๋ บางตัวเป็นสุนัขปากห้อย
ผมทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดกวนที่ตีพิมพ์ในประเทศของเราเหมือนกันว่า พวกท่านได้ส่งมิสเตอร์อิริคสันมาพบปะหารือกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว แต่ผมขอเตือนพวกท่านว่าอย่าประมาท ไม่เช่นนั้นมิสเตอร์อิริคสันก็จะเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับมิสเตอร์เถิกของประเทศไทยในเวลานี้
ผมอยากจะกราบเรียนมาด้วยความเคารพว่า พวกท่านมีทางออกต่อเรื่องนี้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า พวกท่านมีศักยภาพพอที่จะรวมตัวกันเป็น พันธมิตรประชาชนเพื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้หรือไม่ ถ้าผมจะแนะนำเพียงเล็กๆน้อยๆก็คือ พวกท่านควรเล็งหาลูกหลานคนจีนสักคนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระราชินีของท่าน เพื่อมาเป็นผู้นำ
และถ้าพวกท่านทำสำเร็จแล้ว ขออย่าเอาผู้บริหารหน่อมแน้มเข้ามาบริหารสโมสรอย่างเด็ดขาด ขอให้พวกท่านเรียนรู้บทเรียนหลังการขับไล่มิสเตอร์ซินาตร้าของพวกเรา
สุดท้ายนี้ ผมอยากกราบเรียนพวกท่านว่า พวกเราคนไทยจะส่งกำลังใจไปถึงพวกท่าน และอยากแนะนำกลยุทธ์ที่พวกเราใช้ได้ผลมาแล้ว ท่านเพียงแต่ให้ใครคนใดคนหนึ่งตะโกนขึ้นในสนามฟุตบอลว่า "Thaksin" แล้วจากนั้นให้ตะโกนพร้อมกันว่า "GET OUT"
ขอชัยชนะและสันติสุขจงมีแก่พวกท่าน
ประชาชนชาวไทย
ก่อนอื่นกระผมคงต้องเรียนว่า ที่กระผมเขียนจดหมายมาถึงพวกท่านครั้งนี้ก็เนื่องจากต้องการระงับความขุ่นข้องหมองใจระหว่างพวกท่านกับประชาชนชาวไทยที่เกิดจากการกระทำของคนคนเดียว ซึ่งอาจทำให้สัมพันธ์ไมตรีอันยั่งยืนยาวนานของเราและท่านได้แปรเปลี่ยนไปในทางที่มิดีได้
สัมพันธไมตรีอันยาวนานนับแต่นายฮันเตอร์ เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ของเรา พวกท่านอาจรู้สึกประหลาดใจที่ผมเอ่ยชื่อนายฮันเตอร์ และไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร นายฮันเตอร์เป็นชาวอังกฤษคนแรกที่เข้ามาลงทุนตั้งห้างค้าขายในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อห้างฮันเตอร์และเฮย์ กระผมต้องกราบเรียนพวกท่านและขอกรุณาอย่างได้คิดว่าเป็นเรื่องขบขันเลยที่จะบอกว่า คนไทยยุคนั้นเรียกชาวอังกฤษผู้นี้ว่า นายหันแตร
พวกท่านต้องรู้ว่า นี่เป็นเรื่องธรรมดาของความแตกต่างทางด้านภาษาของการออกเสียง เหมือนคนไทยบางคนเห็นว่าชื่อของเขาอาจจะไม่คุ้นเคยกับการออกเสียงของพวกท่านจึงพยายามให้พวกท่านเรียกเขาว่า มิสเตอร์ซินาตร้า นั่นแหละ
ความจริงนี่ก็ไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญอะไรนักที่กระผมจะต้องนำมากราบเรียนพวกท่าน ประวัติศาสตร์และอารยธรรมอันยาวนานของพวกท่าน น่าจะมีคุณค่ากว่าที่จะจดจำเรื่องเล็กน้อยๆแบบนี้
ผมเพียงแต่รำลึกให้ท่านรับรู้ว่า ในอดีตนั้นชาวอังกฤษคนหนึ่งได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและทำมาหากินบนแผ่นดินไทย และจากนั้นเราก็มีสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันเสมอมานับเนื่องแต่ครั้งนั้นกระทั่ง รอ.เฮนรี เบอร์นี เป็นทูตเข้ามาเจรจาทำสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีและการพาณิชย์กับราชอาณาจักรสยาม และตามด้วยการมาถึงของเซอร์ จอห์น เบาว์ริ่ง แน่นอนว่า ในครั้งนั้นเราอาจรู้สึกว่า พวกท่านอาจจะกดขี่เอารัดเอาเปรียบเราอยู่บ้าง แต่เราคนไทยก็ไม่ได้เก็บมาเรื่องที่จะต้องเอาคืนพวกท่านเลยแม้แต่น้อย
กระผมเพียงแต่นำเหตุการณ์ในอดีตมากล่าวก็เพื่อจะคลายข้อขุ่นข้องหมองใจในเรื่องที่คนไทยกระทำต่อคนอังกฤษดังที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้
นับตั้งแต่พวกเราประชาชนชาวไทยจำนวนนับแสนนับล้านคนได้ใช้สิทธิตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ทักษิณ ให้ออกไปจากอำนาจ แน่นอนว่า ในฐานะที่ประเทศของพวกท่านได้ชื่อว่า เป็นแม่แบบของระบอบประชาธิปไตยในโลกนี้ พวกท่านย่อมรับรู้ว่านั่นเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนที่จะกระทำต่อรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม เพียงแต่ไม่คาดคิดว่า การกระทำของเราได้ผลส่งผลต่อพวกท่านอย่างใหญ่หลวง
ขอให้พวกท่านได้ตระหนักว่า นี่เป็นสิ่งที่พวกกระผมคนไทยไม่ได้คาดคิดมาก่อน พวกกระผมชาวไทยไม่ได้มีเจตนาที่จะล้างแค้นในอดีต เพราะพุทธศาสนาสอนเราให้รู้จักการให้อภัย พวกเราไม่มีจิตเจตนาที่จะทำลายมิตรไมตรีและสัมพันธไมตรีอันยาวนานของพวกท่านกับเรา และในฐานะที่พวกเราเป็นพุทธศาสนิกชนพวกเราย่อมรู้ว่า การผลักเคราะห์กรรมไปตกอยู่กับผู้อื่นนับเป็นเรื่องของบาปกรรมอย่างหนึ่ง
ทั้งนี้เพราะจริงๆแล้ว เราคิดว่า เขาน่าจะอพยพไปอยู่ในประเทศแถบแอฟริกาที่มีผู้นำที่มีพฤติกรรมเฉกเช่นเดียวกับเขาเสียมากกว่า
แต่นอกเหนืออื่นใด กระผมจำเป็นที่จะต้องบอกพวกท่านด้วยว่า เคราะห์กรรมที่ท่านรับอยู่นี้ เพราะพวกท่านเองก็ไม่ได้เตรียมตัวต้อนรับการโจมตีของอารยธรรมอื่นๆ ผมคงไม่ต้องเอามะพร้าวมาขายสวน พวกท่านก็คงรู้เรื่อง globalization ดีกว่าพวกเรา ดังนั้นพวกท่านควรตระหนักต่อด้านมืดของมันด้วย
ผมอยากจะบอกว่า ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารหมุนเวียนกันทั่วโลก ถ้าพวกท่านศึกษาและติดตามข้อมูลข่าวสารสักเพียงนิด ท่านก็คงจะรู้จักมิสเตอร์ซินาตร้าดีขึ้น สโมสรฟุตบอลอังกฤษ(เอฟเอ) ก็ควรจะยับยั้งมหันตภัยของพวกท่านได้เสียตั้งแต่ต้น
ผมเห็นวันแรกที่พวกท่านแห่แหนไปต้อนรับมิสเตอร์ซินาตร้า และเอาธงชาติไทยของเรามาเขียนต้อนรับเขาว่า WELCOME THAKSIN (พวกท่านอย่ามาปฏิเสธอย่าเด็ดขาดว่า ไม่ใช่ฝีมือของพวกท่าน เพราะมิสเตอร์ซินาตร้าได้บอกความจริงแก่พวกเราแล้วว่า พวกท่านเป็นคนทำ) เชื่อไหมว่า บรรยากาศแบบที่พวกท่านต้อนรับเขานั้น ก็ไม่ได้ต่างกับคนไทยเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา ที่พวกเราหลงว่า เทวดามาโปรด โดยไม่ได้ศึกษาตัวตนที่แท้จริงของเขาอย่างถ่องแท้
ทั้งนี้เพราะเมื่อผมอ่านบทความของนายพอล ฮินซ์ ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ "แมนเชสเตอร์ อีเวนนิ่ง"แล้ว ผมคงต้องบอกว่า วันนี้พวกท่านต่างก็ประสบชะตากรรมเดียวกับที่พวกเราเคยเจอมาแล้ว
ฮินซ์คุณพูดถูกเลยว่า ทักษิณต้องการผู้จัดการทีมเหมือน'สุนัขเห่าให้เจ้าของ' โดยผู้จัดการทีมแมนฯซิตี้คนใหม่น่าจะเป็นคนประเภทกระโดดเต้นตามเสียงของทักษิณ และอาจเป็นหุ่นเชิดของเขา นี่เท่ากับว่า พวกคุณเริ่มรู้จักตัวตนของมิสเตอร์ซินาตร้าแล้ว
นี่คือนิสัยดั้งเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนของเขา เพราะมิสเตอร์ซินาตร้าเชื่อว่า เขาต้องรู้ดีกว่าใครในทุกเรื่อง ถ้าพวกท่านต้องการเขาพวกท่านควรจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับเขา ไม่เช่นนั้นพวกท่านจะต้องเจอแบบคนไทย แบบที่จังหวัดไหนเลือกพรรคของเขา เขาจะให้โอกาสก่อน
และนับแต่นี้ผมมั่นใจว่า หนังสือพิมพ์แมนเชสเตอร์ อีเวนนิ่งจะต้องประสบชะตากรรมเฉกเช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์ไทยตอนที่มิสเตอร์ซินาตร้ามีอำนาจ ซึ่งจะต้องเลือกระหว่างเอาเม็ดเงินโฆษณาจากเขาแล้ว หันมาเซ็นเซอร์ตัวเอง หุบปากเสีย หรือหันมาลุกขึ้นสู้แบบหนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่กรุงเทพฯ(บางกอกในความเข้าใจของพวกท่านนั่นแหละ)
ถ้าพวกท่านติดตามอ่านข่าวสารจากประเทศของเราสักนิด พวกท่านจะพบว่าตอนนี้ในเมืองไทยของผมมีพวก 'สุนัขเห่าให้เจ้าของ'เต็มไปหมด บางตัวเป็นสุนัขปากจู๋ บางตัวเป็นสุนัขปากห้อย
ผมทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดกวนที่ตีพิมพ์ในประเทศของเราเหมือนกันว่า พวกท่านได้ส่งมิสเตอร์อิริคสันมาพบปะหารือกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว แต่ผมขอเตือนพวกท่านว่าอย่าประมาท ไม่เช่นนั้นมิสเตอร์อิริคสันก็จะเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับมิสเตอร์เถิกของประเทศไทยในเวลานี้
ผมอยากจะกราบเรียนมาด้วยความเคารพว่า พวกท่านมีทางออกต่อเรื่องนี้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า พวกท่านมีศักยภาพพอที่จะรวมตัวกันเป็น พันธมิตรประชาชนเพื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้หรือไม่ ถ้าผมจะแนะนำเพียงเล็กๆน้อยๆก็คือ พวกท่านควรเล็งหาลูกหลานคนจีนสักคนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของสมเด็จพระราชินีของท่าน เพื่อมาเป็นผู้นำ
และถ้าพวกท่านทำสำเร็จแล้ว ขออย่าเอาผู้บริหารหน่อมแน้มเข้ามาบริหารสโมสรอย่างเด็ดขาด ขอให้พวกท่านเรียนรู้บทเรียนหลังการขับไล่มิสเตอร์ซินาตร้าของพวกเรา
สุดท้ายนี้ ผมอยากกราบเรียนพวกท่านว่า พวกเราคนไทยจะส่งกำลังใจไปถึงพวกท่าน และอยากแนะนำกลยุทธ์ที่พวกเราใช้ได้ผลมาแล้ว ท่านเพียงแต่ให้ใครคนใดคนหนึ่งตะโกนขึ้นในสนามฟุตบอลว่า "Thaksin" แล้วจากนั้นให้ตะโกนพร้อมกันว่า "GET OUT"
ขอชัยชนะและสันติสุขจงมีแก่พวกท่าน
ประชาชนชาวไทย