“ประสงค์”กระตุกต่อมสำนึกรักชาติ จี้รัฐบาลร่อนหนังประท้วงสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ระบุ”แม้ว”ไปอยู่ที่ไหนก็ป่วน ทำตัวเป็นศูนย์รวมอำนาจการบริหารจัดการไว้เพียงผู้เดียว ขณะที่ ส.ส.ปชป.เชื่ออดีตนายกฯ จงใจปล่อยให้คนนำธงชาติไทยเขียนตัวอักษร คำว่า “THAKSIN” ไปกางที่สนาม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการคนในข่าว
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี คืนวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งเปิดประเด็นซักถาม น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถึงความเหมาะสมกรณีนำธงชาติไทยเขียนตัวอักษร คำว่า “THAKSIN” ไปกางที่สนามซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดียม ของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีขบวนการตรวจสอบ ต้องขอคำชี้แจงจากสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ว่า มันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นได้อย่างไร จะต้องหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ การกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสมตั้งแต่เขียนตัวอักษร คำว่า “THAKSIN” บนธงชาติ ตลอดจนนำไปประดับในที่ที่ไม่เหมาะสม นายสมัคร สุนทรเวชนายกรัฐมนตรี ไม่สมควรออกมาปกป้อง ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศ ก็ต้องทำหนังสือประท้วงไปยังสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ต้องพิทักษ์รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าปล่อยหรือโยนความผิดให้ใครต่อใครอย่างที่ทำอยู่ในเวลานี้
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่เรื่อง อยู่เมืองไทยก็วุ่นวาย ไปอยู่ที่อังกฤษก็ยังเกิดความวุ่นวายตามมาอีก สิ่งเหล่านี้มันสืบเนื่องจากพฤติกรรมชอบความผูกขาด ประสบความสำเร็จร่ำรวยด้วยวิธีมา จะทำอะไรก็ต้องรวมอำนาจเบ็ดเสร็จไว้เพียงตัวคนๆเดียว ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาบริหารจัดการประเทศ พฤติกรรมหลายอย่างแสดงให้เห็นถึงความพยายามฮุบประเทศไทยไว้ในมือ ทุกอย่างถูกกำหนดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไว้ที่การตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว เป็นพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงที่สุด ตั้งแต่เรารวมชาติไทยขึ้นมาทีเดียว
“ตั้งแต่เรารวมชาติไทยขึ้นมา ไม่มีเรื่องที่น่าห่วงใยมากที่สุดเท่ากับเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกแล้ว บรรพบุรุษได้เอาเลือดเนื้อและชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องเก็บแผ่นดินผืนนี้ไว้ให้กับลูกหลาน ไม่ได้เก็บไว้ให้คนใดคนหนึ่ง ความเสียสละในส่วนนี้กำลังเลือนหายจากความรู้สึกของคนไทย ด้วยน้ำมือของคนบางกลุ่ม พยามทำให้เกิดความรู้สึกอีกอย่างขึ้นมา จนเกิดการเผชิญหน้าระหว่างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับระบอบประชาธิปไตยของทุนนิยมเผด็จการรัฐสภาในปัจจุบัน พยายามแสดงพฤติกรรมก้าวล่วงว่ากล่าวบุคคลสำคัญของบ้านเมือง เลยเถิดถึงสถาบันสูงสุด เป็นสิ่งที่กำลังสร้างความแตกแยกในบ้านเมืองเวลานี้”น.ต.ประสงค์ กล่าว
ทางด้านพล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นความบังเอิญที่ธงผืนดังกล่าวจะถูกนำมาประดับไว้ที่สนามซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดียม ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ฝีมือของชาวต่างชาติทำ เนื่องจากถ้าคนต่างชาติเรียกชื่อ จะเรียกชื่อนามสกุล ไม่ใช่ THAKSIN ดังนั้นดูจากพฤติกรรมแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องรับรู้แน่ แต่ก็ไม่สั่งหรือดำเนินการอะไร จนปล่อยให้ภาพดังกล่าวหลุดออกมาต่อสายตาชาวโลกจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารประเทศต้องเปิดโปงขบวนการที่อยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าว อย่าปล่อยให้สัญลักษณ์ของประเทศถูกนำมาย่ำยีในลักษณะเช่นอีก
ขณะที่นายชาญชัย กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ มีการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธงชาติ เพื่อกำหนดและดู ข้อกฎหมายเกี่ยวกับธงชาติ รูปแบบที่ถูกต้องของการประดับธงชาติ รูปแบบของธงชาติที่ถูกต้อง และรูปแบบการประดับธงชาติอย่างถูกต้องไม่ผิดกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องรู้เรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดบทลงโทษที่ระบุไว้ พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้เป็นอย่างดี ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะรับรู้หรือไม่ที่มีคนนำธงชาติไทยเขียนตัวอักษร คำว่า “THAKSIN” ไปกางที่สนามซิตี้ออฟแมนเชสเตอร์ สเตเดียม มันคงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ จึงอยากถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จงใจหรือรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำดังกล่าว หรือไม่เจตนานั้นจะเป็นแค่เกมการเมืองหรือการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็แล้วแต่
สำหรับเมืองไทย มีการกำหนดบทลงโทษเอาไว้อย่างชัดเจนในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธง พ.ศ.2522
มาตรา 5 ระบุว่า ธงที่มีความหมายถึงประเทศไทยและชาติไทย ได้แก่
(1) ธงชาติ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 6 ส่วน ยาว 9 ส่วน ด้านกว้างแบ่งเป็น 5 แถบตลอดความยาวของผืนธง ตรงกลางเป็นแถบสีน้ำเงินแก่กว้าง 2 ส่วน ต่อจากแถบสีน้ำเงินแก่ออกไปทั้งสองข้างเป็นแถบสีขาวกว้างข้างละ 1 ส่วน ต่อจากแถบสีขาวออกไปทั้งสองข้างเป็นแถบสีแดงกว้างข้างละ 1 ส่วน ธงชาตินี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ธงไตรรงค์
(2) ธงราชนาวี มีลักษณะอย่างเดียวกับธงชาติ แต่ตรงกลางของผืนธงมีดวงกลมสีแดง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 4 ใน 6 ส่วนของความกว้างของผืนธง โดยให้ขอบของดวงกลมจดขอบแถบสีแดงของผืนธง ภายในดวงกลมมีรูปช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นหันหน้าเข้าหาเสาธงหรือคันธง
บทลงโทษ ปรากฏในมาตรา 53 ระบุว่า ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อธงตามมาตรา 5 ดังต่อไปนี้
(1) ประดิษฐ์รูปตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายอื่นใดในผืนธงรูปจำลองของธง หรือในแถบสีธง นอกจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น
(2) ใช้ ชัก หรือแสดงธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงอันมีลักษณะตาม (1)
(3) ใช้ ชัก หรือแสดงธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือโดยวิธีอันไม่สมควร
(4) ประดิษฐ์ธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือสิ่งใดๆ โดยไม่สมควร
(5) แสดงหรือใช้สิ่งใดๆ ที่มีรูปธง รูปจำลองของธง หรือมีแถบสีธงอันมีลักษณะตาม (4) โดยไม่สมควร
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากจำกันได้ กรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อมีการนำธงชาติไทยมาดัดแปลงเป็นเป็นโลโก้ทีมแมนซิตี้ สาขาประเทศไทย ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา