ผู้จัดการรายวัน-บลจ.มึนกฏก.ล.ต. ห้ามโฆษณารางวัลกองทุนหวั่นประชาชนสับสน จนทำให้คาดหวังผลการดำเนินงานในอนาคต เตรียมเจรจาหาทางออกอีกในการประชุมครั้งหน้า ขณะที่การจัดอันดับของสมาคมบลจ.อาจต้องใช้เวลาทั้งปี เพื่อหาข้อยุติในการรวบรวมข้อมูล และประกาศใช้ ด้าน”ประเวช”ปัดห้ามโฆษณารางวัล-จัดอันดับกองทุน ระบุสนับสนุนเต็มที่ แต่ประกาศที่ออกมา บลจ.อาจตีความกันผิดจนแทงกั๊กกันเอง
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีประกาศเตือนบลจ.ต่างๆ มิให้นำรางวัลที่ได้รับในการจัดอันดับผลการดำเนินงานจาก นิตยสาร หรือบริษัทวิจัยต่างๆ อาทิ Lipper มาใช้ในการประชาสัมพันธ์กองทุนของบริษัทนั้น ต่อจากนี้ทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุนจะมีการนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับทาง ก.ล.ต.อีกในการประชุมครั้งต่อไปประมาณอีก 2 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ เชื่อว่าประเด็นที่ทาง ก.ล.ต. เป็นห่วงน่าจะเป็นความเข้าใจของนักลงทุน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับกองทุนที่ได้รับรางวัลว่า จะเป็นการการรันตีผลงานในอนาคตว่าจะต้องมีผลการดำเนินงานที่ดีตลอดไป
“ก.ล.ต.อยากให้ใช้ตัวเลข และข้อมูลของสมาคมเป็นหลัก ส่วนรางวัลที่ได้รับทาง ก.ล.ต. คงกลัวว่านักลงทุนจะสับสน และนำไปเป็นตัววัดทำให้คาดหวังว่ากองทุนนั้นๆ จะเป็นกองทุนที่ดีตลอดไป แต่ในความจริงแล้วในแต่ละปีผลการดำเนินงานของกองทุนจะแตกต่างกันไป”นางวรวรรณกล่าว
นอกจากนี้ การจัดอันดับและรางวัลที่มอบให้แก่บลจ.ต่างๆ น่าจะเป็นการแสดงถึงความสามารถในการบริหารงานของกองทุนช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องดีที่สุดเสมอไป อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจของแต่ละบลจ.เช่นกัน
สำหรับการประชุมในครั้งต่อไปเหตุผลที่อยากให้ทาง ก.ล.ต.รับรู้น่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานที่ใช้วัดผลการดำเนินงาน เนื่องจากยังมีความคลุมเครืออยู่ ซึ่งหากการส่งเสริมให้ธุรกิจกองทุนรวมภายในประเทศให้อยู่ในระดัลสากล แต่ไม่สามารถใช้ผลการดำเนินงานที่เป็นการวัดมาตรฐานจากสากลได้แล้ว จะเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศได้อย่างไร
นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า การจัดอันดับผลการดำเนินงานของสมาคมฯ เพื่อให้นักลงทุนนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจลงทุนยังมีจุดอ่อนอยู่หลายข้อ ทั้งในเรื่องของการคำนวณที่ยังไม่นำความเสี่ยงเข้ามาเป็นตัวแปรด้วย และการรวบรวมข้อมูล และการประกาศออกมา เพื่อเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ เองได้มีแผนที่จะทำความร่วมมือกับทาง Lipper เพื่อรวบรวมข้อมูล และนำไปจัดอันดับ เพื่อเป็นข้อมูลแก่นักลงทุน แต่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการสมาคมฯ และสมาชิกว่าจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกบางส่วนได้เสนอชื่อบริษัทที่จะรวบรวมข้อมูลอย่าง Morning Star เพิ่มเติมเข้ามาอีก ทำให้ต้องมีการพิจารณาในส่วนนี้เพิ่มเติมเข้าไปด้วย
“การจัดอันดับเป็นเรื่องที่ดีจึงอยากสนับสนุนในเรื่องนี้ ซึ่งไม่จำเป็นว่าใครที่ 1 ในปีนี้ แล้วต้องเป็นแบบนี้เสมอไป ซึ่งเราจะรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป คนที่ได้ที่โหล่ในปีนี้อาจได้ที่ 1 ในปีหน้าก็เป็นได้ ไม่มีใครเก่งเสมอ ต้องยอมรับ ส่วนจะจัดทำข้อมูลอย่างไรต้องประชุมกันอีก เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไร ส่วนจะร่วมมือกับบริษัทไหนควรจะเลือกสักอัน เพราะมันไม่จำเป็น ซึ่งต้องดูว่าอะไรดีกว่าอย่างไร”นางวรวรรณกล่าว
นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า การจัดอันดับผลการดำเนินงานจะมีการประชุมกันอีกในการประชุมของสมาคมฯ ครั้งต่อไป โดยจะต้องให้สมาชิกโหวตเสียงข้างมากว่าจะทำอย่างไร แต่จะเป็นการประชุมต่อเนื่อง โดยลงลึกในรายละเอียดมากว่านี้ อย่างไรก็ตามการจัดอันดับของบลจ. คงจะไม่สามารถทำได้ในปีนี้ แต่ในอนาคตน่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เนื่องจากจะเป็นผลดีต่อนักลงทุน
“เรื่องนี้คุยกันมาแล้ว และเชื่อว่าน่าจะมีคนเห็นด้วย แต่จะเป็นอย่างไรคงต้องดูเสียงข้างมากก่อน ซึ่งการประชุมรอบนี้จะเป็นการลงลึกในรายละเอียดมากกว่าครั้งที่แล้ว แต่เชื่อว่าคงจะไม่สามารถทำได้เสร็จทันภายในปีนี้ แต่เชื่อว่าในอนาคตคงจะเกิดขึ้น เพราะเป็นผลดีต่อนักลงทุน”นางวรวรรณกล่าว
ทั้งนี้ นอกจากการจัดทำอันดับผลการดำเนินงานแล้ว ทางสมาคมยังมีแผนที่จะพัฒนาความรู้ให้กับนักลงทุน ขยายฐานลูกค้า และให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนภาษี ซึ่งปัจจุบันยังมีความคลุ่มเคลืออยู่ โดยอาจมีการจัดให้มีการอบรมในเรื่องพวกนี้ไปอย่างต่อเนื่อง
นางสาวดวงกมล พิศาล เลขาธิการ และผู้อำนวยการสมาคมจัดการลงทุน กล่าวว่า หลังจากที่มีประกาศจาก ก.ล.ต. ในการห้ามโฆษณากองทุน ที่มีข้อมูลนอกเหนือจากหลักเกณฑ์ และประกาศของทางสมาคมฯ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ทุกบริษัทจะไม่สามารถนำรางวัลที่ได้รับมาจากองค์กรใดๆ มาประชาสัมพันธ์ กองทุนที่จะออกใหม่ได้ เนื่องจากขัดต่อประกาศดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสมาคมฯ
“คือถ้าเป็นรางวัลของ ลิปเปอร์ มันก็จะไม่เข้าเกณฑ์ของสมาคม ซึ่งทำให้นำรางวัลที่ได้มาโฆษณาไม่ได้ซึ่งมันน่าจะเป็นแบบนี้”นางสาวดวงกมลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ด้านนายประเวช องอาจสุทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ในส่วนของ ก.ล.ต. มิได้ห้ามให้บลจ. นำผลรางวัลหรือ การจัดอันดับการดำเนินงานมาโฆษณาแต่อย่างใด โดยได้มีการสนับสนุนในเรื่องนี้ตลอดมา ทั้งการจัดอันดับและ ผลการดำเนินงาน
“ก.ล.ต.ไม่เคยห้ามในเรื่องการจัดอันดับ หรือการนำรางวัลที่ได้รับมาใช้โฆษณาเลยไม่ว่าจะเป็นของ องค์กรไหน ลิปเปอร์ มอร์นิ่งสตาร์ แถมยังสนับสนุนในเรื่องนี้อีกด้วย แต่สิ่งที่ก.ล.ต.ห้ามจะเป็นเรื่องของการบอกผลตอบแทนล่วงหน้า และข้อมูลที่เป็นเท็จมากกว่า ซึ่งตรงนั้นก็จะมีบทลงโทษ”นายประเวศกล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิดกันเองในอุตสาหกรรมกองทุนรวมมากกว่า เนื่องจากที่ผ่านมา การโฆษณาการออกกองทุนใหม่ใดๆ ก็ตามทาง ก.ล.ต.จะเป็นผู้ตรวจสอบทั้งหมด แต่หลังจากเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทางก.ล.ต.ได้มีการอนุมัติให้บลจ.ต่างๆ สามารถออกโฆษณาได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบของก.ล.ต. หากข้อมูลทั้งหมดเป็นไปตามเกณฑ์ และประกาศของสมาคม ซึ่งส่วนนี้น่าจะเป็นความสับสนมากกว่า
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีประกาศเตือนบลจ.ต่างๆ มิให้นำรางวัลที่ได้รับในการจัดอันดับผลการดำเนินงานจาก นิตยสาร หรือบริษัทวิจัยต่างๆ อาทิ Lipper มาใช้ในการประชาสัมพันธ์กองทุนของบริษัทนั้น ต่อจากนี้ทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุนจะมีการนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับทาง ก.ล.ต.อีกในการประชุมครั้งต่อไปประมาณอีก 2 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ เชื่อว่าประเด็นที่ทาง ก.ล.ต. เป็นห่วงน่าจะเป็นความเข้าใจของนักลงทุน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับกองทุนที่ได้รับรางวัลว่า จะเป็นการการรันตีผลงานในอนาคตว่าจะต้องมีผลการดำเนินงานที่ดีตลอดไป
“ก.ล.ต.อยากให้ใช้ตัวเลข และข้อมูลของสมาคมเป็นหลัก ส่วนรางวัลที่ได้รับทาง ก.ล.ต. คงกลัวว่านักลงทุนจะสับสน และนำไปเป็นตัววัดทำให้คาดหวังว่ากองทุนนั้นๆ จะเป็นกองทุนที่ดีตลอดไป แต่ในความจริงแล้วในแต่ละปีผลการดำเนินงานของกองทุนจะแตกต่างกันไป”นางวรวรรณกล่าว
นอกจากนี้ การจัดอันดับและรางวัลที่มอบให้แก่บลจ.ต่างๆ น่าจะเป็นการแสดงถึงความสามารถในการบริหารงานของกองทุนช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องดีที่สุดเสมอไป อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจของแต่ละบลจ.เช่นกัน
สำหรับการประชุมในครั้งต่อไปเหตุผลที่อยากให้ทาง ก.ล.ต.รับรู้น่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานที่ใช้วัดผลการดำเนินงาน เนื่องจากยังมีความคลุมเครืออยู่ ซึ่งหากการส่งเสริมให้ธุรกิจกองทุนรวมภายในประเทศให้อยู่ในระดัลสากล แต่ไม่สามารถใช้ผลการดำเนินงานที่เป็นการวัดมาตรฐานจากสากลได้แล้ว จะเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศได้อย่างไร
นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า การจัดอันดับผลการดำเนินงานของสมาคมฯ เพื่อให้นักลงทุนนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจลงทุนยังมีจุดอ่อนอยู่หลายข้อ ทั้งในเรื่องของการคำนวณที่ยังไม่นำความเสี่ยงเข้ามาเป็นตัวแปรด้วย และการรวบรวมข้อมูล และการประกาศออกมา เพื่อเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ เองได้มีแผนที่จะทำความร่วมมือกับทาง Lipper เพื่อรวบรวมข้อมูล และนำไปจัดอันดับ เพื่อเป็นข้อมูลแก่นักลงทุน แต่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการสมาคมฯ และสมาชิกว่าจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกบางส่วนได้เสนอชื่อบริษัทที่จะรวบรวมข้อมูลอย่าง Morning Star เพิ่มเติมเข้ามาอีก ทำให้ต้องมีการพิจารณาในส่วนนี้เพิ่มเติมเข้าไปด้วย
“การจัดอันดับเป็นเรื่องที่ดีจึงอยากสนับสนุนในเรื่องนี้ ซึ่งไม่จำเป็นว่าใครที่ 1 ในปีนี้ แล้วต้องเป็นแบบนี้เสมอไป ซึ่งเราจะรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป คนที่ได้ที่โหล่ในปีนี้อาจได้ที่ 1 ในปีหน้าก็เป็นได้ ไม่มีใครเก่งเสมอ ต้องยอมรับ ส่วนจะจัดทำข้อมูลอย่างไรต้องประชุมกันอีก เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไร ส่วนจะร่วมมือกับบริษัทไหนควรจะเลือกสักอัน เพราะมันไม่จำเป็น ซึ่งต้องดูว่าอะไรดีกว่าอย่างไร”นางวรวรรณกล่าว
นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า การจัดอันดับผลการดำเนินงานจะมีการประชุมกันอีกในการประชุมของสมาคมฯ ครั้งต่อไป โดยจะต้องให้สมาชิกโหวตเสียงข้างมากว่าจะทำอย่างไร แต่จะเป็นการประชุมต่อเนื่อง โดยลงลึกในรายละเอียดมากว่านี้ อย่างไรก็ตามการจัดอันดับของบลจ. คงจะไม่สามารถทำได้ในปีนี้ แต่ในอนาคตน่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เนื่องจากจะเป็นผลดีต่อนักลงทุน
“เรื่องนี้คุยกันมาแล้ว และเชื่อว่าน่าจะมีคนเห็นด้วย แต่จะเป็นอย่างไรคงต้องดูเสียงข้างมากก่อน ซึ่งการประชุมรอบนี้จะเป็นการลงลึกในรายละเอียดมากกว่าครั้งที่แล้ว แต่เชื่อว่าคงจะไม่สามารถทำได้เสร็จทันภายในปีนี้ แต่เชื่อว่าในอนาคตคงจะเกิดขึ้น เพราะเป็นผลดีต่อนักลงทุน”นางวรวรรณกล่าว
ทั้งนี้ นอกจากการจัดทำอันดับผลการดำเนินงานแล้ว ทางสมาคมยังมีแผนที่จะพัฒนาความรู้ให้กับนักลงทุน ขยายฐานลูกค้า และให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนภาษี ซึ่งปัจจุบันยังมีความคลุ่มเคลืออยู่ โดยอาจมีการจัดให้มีการอบรมในเรื่องพวกนี้ไปอย่างต่อเนื่อง
นางสาวดวงกมล พิศาล เลขาธิการ และผู้อำนวยการสมาคมจัดการลงทุน กล่าวว่า หลังจากที่มีประกาศจาก ก.ล.ต. ในการห้ามโฆษณากองทุน ที่มีข้อมูลนอกเหนือจากหลักเกณฑ์ และประกาศของทางสมาคมฯ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ทุกบริษัทจะไม่สามารถนำรางวัลที่ได้รับมาจากองค์กรใดๆ มาประชาสัมพันธ์ กองทุนที่จะออกใหม่ได้ เนื่องจากขัดต่อประกาศดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสมาคมฯ
“คือถ้าเป็นรางวัลของ ลิปเปอร์ มันก็จะไม่เข้าเกณฑ์ของสมาคม ซึ่งทำให้นำรางวัลที่ได้มาโฆษณาไม่ได้ซึ่งมันน่าจะเป็นแบบนี้”นางสาวดวงกมลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ด้านนายประเวช องอาจสุทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ในส่วนของ ก.ล.ต. มิได้ห้ามให้บลจ. นำผลรางวัลหรือ การจัดอันดับการดำเนินงานมาโฆษณาแต่อย่างใด โดยได้มีการสนับสนุนในเรื่องนี้ตลอดมา ทั้งการจัดอันดับและ ผลการดำเนินงาน
“ก.ล.ต.ไม่เคยห้ามในเรื่องการจัดอันดับ หรือการนำรางวัลที่ได้รับมาใช้โฆษณาเลยไม่ว่าจะเป็นของ องค์กรไหน ลิปเปอร์ มอร์นิ่งสตาร์ แถมยังสนับสนุนในเรื่องนี้อีกด้วย แต่สิ่งที่ก.ล.ต.ห้ามจะเป็นเรื่องของการบอกผลตอบแทนล่วงหน้า และข้อมูลที่เป็นเท็จมากกว่า ซึ่งตรงนั้นก็จะมีบทลงโทษ”นายประเวศกล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิดกันเองในอุตสาหกรรมกองทุนรวมมากกว่า เนื่องจากที่ผ่านมา การโฆษณาการออกกองทุนใหม่ใดๆ ก็ตามทาง ก.ล.ต.จะเป็นผู้ตรวจสอบทั้งหมด แต่หลังจากเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทางก.ล.ต.ได้มีการอนุมัติให้บลจ.ต่างๆ สามารถออกโฆษณาได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบของก.ล.ต. หากข้อมูลทั้งหมดเป็นไปตามเกณฑ์ และประกาศของสมาคม ซึ่งส่วนนี้น่าจะเป็นความสับสนมากกว่า