พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงการดึงสถาบันเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองว่า การดึงสถาบันลงมาไม่ดีทั้งนั้น เพราะคนไทยเคารพบูชาไม่ควรดึงมา ควรอยู่เหนือการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนี้ ควรทำหน้าที่ให้ดีแล้วพูดให้น้อยๆ จะดีกว่า เพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างแท้จริง หากปากพูดจงรักภักดีแต่ไม่ทำก็ป่วยการ เพราะพูดไม่ดีแล้วไปกันใหญ่ ขอเรียกร้องว่า ไม่ต้องพูดอะไรมาก ทำหน้าที่ให้ดีก้มหน้าก้มตาทำงาน แสดงความจงรักภักดีแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย พูดมากไม่ดีเดี๋ยวกลายเป็นคนพูดมาก
“คนไทยรักกันไว้ดีกว่า คนไทยเวลาสงบก็ชอบที่จะมีปัญหากันเอง แต่ดีตรงที่เวลาตกทุกข์ได้ยากเราจะช่วยกัน ร่วมมือกัน อยากให้คนไทยมีความระลึกถึงยามที่เราลำบาก ต่อสู้กันไปก็น่าเสียดายเปล่าๆ”
ส่วนที่หลายฝ่ายเกรงว่าการเมืองจะมีเหตุการณ์รุนแรงกว่า 19 กันยายน 2549 พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นทางเลือกของคนไทยเอง หากอยากรุนแรง ก็รุนแรง อยากเรียบร้อยสงบก็เรียบร้อย รักกันอยู่ที่คนไทย และอยู่ที่สื่อมวลชน ไม่ได้อยู่ที่การทำนาย เมื่อถามว่า จากการประเมินของหน่วยความมั่นคง เป็นห่วงสถานการณ์อะไรหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นห่วงคนไทย โดยส่วนรวมไม่ใช้ปัญญาเท่าที่ควร หากมีปัญญาแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดในช่วงหลังนี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จึงออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการปฏิวัติบ่อยครั้ง พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ผมไม่ทราบ ผมรู้แค่ว่าผมคิดอะไรเท่านั้น ผมคิดว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรที่จะดีกว่านั้น ยิ่งทำอย่างอื่นมากจะยิ่งไม่ดี มีงานอะไรก็ทำให้มากๆและพูดให้น้อยๆ
ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีระบุถึงการปฏิวัติเพราะรัฐบาลหวาดระแวงกองทัพหรือไม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่ได้หวาดระแวง และงานกองทัพมีเยอะอยู่แล้ว จึงคิดอะไรไม่ได้ ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลหวาดระแวงกองทัพเรื่องปฏิวัตินั้น ตนไม่ได้นึกอะไรจึงไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองทัพต้องแสดงจุดยืนต่อรัฐบาลหรือไม่ว่าเราจะไม่ปฏิวัติ พล.อบุญสร้าง กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ต้องไม่พูด หากเราหันมาทำประโยชน์ก็เป็นสิ่งที่ดี หากทำสิ่งที่เป็นโทษก็ไม่ดี ทั้งนี้อยู่ที่คน อยู่ที่ความคิดและการปฏิบัติ
ส่วนกองทัพจะหารือกับนายกรัฐมนตรีเพื่อร้องขอให้เลิกพูดเรื่องที่เกิดความ หวาดระแวงหรือไม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า คงไม่ต้องร้องขอ เพราะเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว รู้กันดีว่าอะไรสร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์
ผู้สื่อข่าวถามว่ารับรองหรือไม่ว่าทหารจะไม่ปฏิวัติอีก พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ผมไม่รับรองว่าจะมีหรือไม่มีทั้งสิ้น เพราะผมไม่ได้คิดอะไร เราทำงานเป็นหลัก ถ้าทุกคนทำงานก็ไม่มีเวลาไปทำเรื่องอื่น การปฏิวัติไม่ใช่งานของเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่าผบ.เหล่าทัพหลายคนใกล้จะเกษียณห่วงสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ดีใจที่จะเกษียณแล้วจะได้ให้คนอื่นมาทำงานแทนบ้าง ตนจะได้ไปทำหน้าที่คนไทยที่ดีในรูปแบบอื่นบ้าง เพราะทำงานด้านนี้มานานแล้ว เมื่อถามว่า ช่วงเวลาที่เหลือของการทำงานเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.บุฯญสร้าง กล่าวว่า ตนเป็นห่วงคนไทย ไม่ใช่ว่าห่วงว่า พวกเขาจะได้รับภัยพิบัติหรือภัยอะไร ซึ่งอาจจะเป็นได้ แต่ขอให้มีความเข้มแข็ง และใช้สติปัญญามากกว่าใช้อารมณ์หากเป็นตามนี้ ไม่น่าห่วงอะไร ซึ่งประเทศไทยเวลามีภัยพิบัติคนไทยก็ช่วยกัน แต่ภัยพิบัติที่เกิดจากคนด้วยกันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเตือนม็อบทั้งสองฝ่ายที่อาจจะชนกัน และมีความพยายาม ดึงสถาบันเข้มาเกี่ยวข้องหอย่างไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ประเทศไทยและโลกมีภัยมากมาย ในเมื่อประเทศไทยยังไม่เจอก็ควรจะเตรียมการไว้ แต่ถ้าเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากมนุษย์ด้วยกัน มีแต่พวกคนเขลาเท่านั้นที่จะทำเช่นนั้น เราควรมาช่วยกันดีกว่า
“วีระ”ชี้ต้นเหตุปฎิวัติจากรัฐบาลเอง
ด้านนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวถึง กระแสข่าวว่าอาจมีการปฏิวัติรอบใหม่ในเร็ววันนี้ว่า เพราะได้ยินจากคำพูดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ที่ออกมาปล่อยข่าวเป็นระยะๆ ว่า มีการขบวนการจ้องปฏิวัติรัฐบาล แต่หากประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ถือว่า สุกงอมแล้ว ทั้งความพยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้องและมีขบวนการจาบจ้วง สถาบันเบื้องสูง ที่ปรากฏให้เห็นเป็นระลอก การเกิดปฏิวัติอีกรอบจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อยู่ที่ฝ่ายใดจะช่วงชิงได้ก่อน และขณะนี้ทางกองทัพไม่พอใจอย่างมากต่อขบวนการลบหลู่สถาบันเบื้องสูง
นายวีระ กล่าวอีกว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานายทหารยศนายพล ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับด้านความมั่นคง ได้ถูกเรียกตัวกลับเข้ากรมกองด่วน ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเลื่อนเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนัยทางการเมืองก็เพื่อกลับมาบัญชาเกมเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ และเมื่อมีอำนาจเบ็ดเสร็จแล้วรัฐบาลก็จะชิงยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และเมื่อถึงเวลานั้นการเผชิญหน้าก็จะเกิดขึ้น ประชาชนเรือนแสนซึ่งถูกมัดมือชก ไม่มีทางเลือกอื่นก็จะเดินออกมาประท้วงบนถนนความวุ่นวายก็จะตามมา
นายวีระ กล่าวเตือนรัฐบาลว่า อย่าโยนบาปให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็นตัวการปลุกระดมมวลชน ทั้งที่รัฐบาลเป็นตัวจุดชนวน และเร่งปิดเกมเช่นเดียวกับกลุ่มแพทย์อาวุโสออกแถลงการณ์ชัดเจน เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะจะนำมาซึ่งการเกิดวิกฤตครั้งใหม่
“เป็ดเหลิม”มั่วโยนพันธมิตรฯปูดปฎิวัติ
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย อ้างว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นคนออกมาพูดเรื่องการปฎิวัติเช้าสายบ่ายเย็น แม่ทัพนายกองก็ออกมาพูดแล้วว่า เมื่อรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ก็ให้บริหารบ้านเมืองไป แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็น น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ออกมาตะโกนว่าทหารอยู่ฝ่ายพันธมิตรฯ นั้น เป็นการพูดจาพร่ำเพรื่อ ทั้งที่บ้านเมืองกำลังสงบ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากพันธมิตรฯ จะออกมาเคลื่อนไหวรัฐบาลไม่ว่าอะไร แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยรัฐบาลมีแนวคิดว่าหากปล่อยให้ตบมือข้างเดียว ก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไร เพราะประชาชนจะไม่เชื่อถือพันธมิตรฯว่าสิ่งที่นำเสนอนั้น เป็นการดึงเอาเหตุการณ์มาปลุกระดมประชาชน โดยไม่มีมูลความจริง
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นายประชา ประสบดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มมหาประชาชนที่ออกมาคัดค้านกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นคนมีความรู้ ทางการเมือง และเห็นว่าพันธมิตรฯ ทำไม่ถูกต้อง จึงอยากออกมาตอบโต้และเคลื่อนไหวในพื้นที่ โดยประชาชนในพื้นที่ก็ออกมาตอบโต้พันธมิตรฯ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ได้ให้ข้อแนะนำไปว่าควรเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ อย่าเอาประชานมาเผชิญหน้ากัน แต่ควรแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ การแสดงปาฐกถา หรือการบรรยาย ซึ่งนายประชาก็เห็นด้วย ฉะนั้นจากนี้ไปหากใครอ้างว่าพรรคพลังประชาชนจะเอาประชาชนมาเผชิญหน้ากับพันธมิตรฯ ก็เป็นคำกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ
Wรัฐบาลจะไม่เอาประชาชนมาเผชิญหน้ากัน ซึ่งจะไม่เหมือนกับเมื่อครั้งรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และเชื่อว่าทหารคงไม่ไปฟังพันธมิตรฯ หรอก ทางแม่ทัพนายกอง ก็ออกมาบอกชัดแล้ว และมั่นใจว่าสังคมตอนนี้ไม่ตอบรับกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้าเราไม่ออก ไปเคลื่อนไหว ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ก็คงต้องหาที่เก็บกระเป๋า แต่หากว่า เราไปเคลื่อนไหวก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้บุคลที่จะคอยฉกฉวยโอกาสไปกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งW
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าพรรคพลังประชาชนจะไม่นำประชาชนออกมาเคลื่อนไหว ต่อต้านพันธมิตรฯ แต่ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็จะแสดงออกในที่ต่างๆกัน ถือเป็นสิทธิ ของแต่ละคน แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เผชิญหน้าหรือทะเลาะกันเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน
ทหารแจงเคลื่อนกำลังซ่อมรบ
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงว่า ในระหว่างวันที่ 4-21 พ.ค.นี้ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษจะเคลื่อนย้ายกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ไปทำการฝึกภาคสนาม ณ ค่ายฝึกการรบพิเศษปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเดินทางเคลื่อนย้ายไปในวันที่ 7 พ.ค.นี้ เวลา09.00 น. และ13.00น. โดยจะเคลื่อนย้ายจากโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี โดยใช้เส้นทางผ่าน จ.สระบุรี อ.แก่งคอย อ.มวกเหล็ก อ.ปากช่อง พื้นที่ฝึก อ.ปากช่อง อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และไปสุดปลายทางที่ ค่ายฝึกการรบพิเศษปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเดินทางกลับโดยใช้เส้นทางเดิม ในวันที่ 21 พ.ค. เวลา 13.00 น. โดยจะเคลื่อนย้ายจากค่ายฝ่ายฝึกการรบพิเศษปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปยังปลายทางโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี กองทัพบกจึงแจ้งให้ประชาชนทราบ และขออภัยในความไม่สะดวกด้วย
“คนไทยรักกันไว้ดีกว่า คนไทยเวลาสงบก็ชอบที่จะมีปัญหากันเอง แต่ดีตรงที่เวลาตกทุกข์ได้ยากเราจะช่วยกัน ร่วมมือกัน อยากให้คนไทยมีความระลึกถึงยามที่เราลำบาก ต่อสู้กันไปก็น่าเสียดายเปล่าๆ”
ส่วนที่หลายฝ่ายเกรงว่าการเมืองจะมีเหตุการณ์รุนแรงกว่า 19 กันยายน 2549 พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นทางเลือกของคนไทยเอง หากอยากรุนแรง ก็รุนแรง อยากเรียบร้อยสงบก็เรียบร้อย รักกันอยู่ที่คนไทย และอยู่ที่สื่อมวลชน ไม่ได้อยู่ที่การทำนาย เมื่อถามว่า จากการประเมินของหน่วยความมั่นคง เป็นห่วงสถานการณ์อะไรหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นห่วงคนไทย โดยส่วนรวมไม่ใช้ปัญญาเท่าที่ควร หากมีปัญญาแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดในช่วงหลังนี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จึงออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการปฏิวัติบ่อยครั้ง พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ผมไม่ทราบ ผมรู้แค่ว่าผมคิดอะไรเท่านั้น ผมคิดว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรที่จะดีกว่านั้น ยิ่งทำอย่างอื่นมากจะยิ่งไม่ดี มีงานอะไรก็ทำให้มากๆและพูดให้น้อยๆ
ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีระบุถึงการปฏิวัติเพราะรัฐบาลหวาดระแวงกองทัพหรือไม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่ได้หวาดระแวง และงานกองทัพมีเยอะอยู่แล้ว จึงคิดอะไรไม่ได้ ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลหวาดระแวงกองทัพเรื่องปฏิวัตินั้น ตนไม่ได้นึกอะไรจึงไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองทัพต้องแสดงจุดยืนต่อรัฐบาลหรือไม่ว่าเราจะไม่ปฏิวัติ พล.อบุญสร้าง กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ต้องไม่พูด หากเราหันมาทำประโยชน์ก็เป็นสิ่งที่ดี หากทำสิ่งที่เป็นโทษก็ไม่ดี ทั้งนี้อยู่ที่คน อยู่ที่ความคิดและการปฏิบัติ
ส่วนกองทัพจะหารือกับนายกรัฐมนตรีเพื่อร้องขอให้เลิกพูดเรื่องที่เกิดความ หวาดระแวงหรือไม่นั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า คงไม่ต้องร้องขอ เพราะเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว รู้กันดีว่าอะไรสร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์
ผู้สื่อข่าวถามว่ารับรองหรือไม่ว่าทหารจะไม่ปฏิวัติอีก พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ผมไม่รับรองว่าจะมีหรือไม่มีทั้งสิ้น เพราะผมไม่ได้คิดอะไร เราทำงานเป็นหลัก ถ้าทุกคนทำงานก็ไม่มีเวลาไปทำเรื่องอื่น การปฏิวัติไม่ใช่งานของเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่าผบ.เหล่าทัพหลายคนใกล้จะเกษียณห่วงสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ดีใจที่จะเกษียณแล้วจะได้ให้คนอื่นมาทำงานแทนบ้าง ตนจะได้ไปทำหน้าที่คนไทยที่ดีในรูปแบบอื่นบ้าง เพราะทำงานด้านนี้มานานแล้ว เมื่อถามว่า ช่วงเวลาที่เหลือของการทำงานเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.บุฯญสร้าง กล่าวว่า ตนเป็นห่วงคนไทย ไม่ใช่ว่าห่วงว่า พวกเขาจะได้รับภัยพิบัติหรือภัยอะไร ซึ่งอาจจะเป็นได้ แต่ขอให้มีความเข้มแข็ง และใช้สติปัญญามากกว่าใช้อารมณ์หากเป็นตามนี้ ไม่น่าห่วงอะไร ซึ่งประเทศไทยเวลามีภัยพิบัติคนไทยก็ช่วยกัน แต่ภัยพิบัติที่เกิดจากคนด้วยกันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเตือนม็อบทั้งสองฝ่ายที่อาจจะชนกัน และมีความพยายาม ดึงสถาบันเข้มาเกี่ยวข้องหอย่างไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ประเทศไทยและโลกมีภัยมากมาย ในเมื่อประเทศไทยยังไม่เจอก็ควรจะเตรียมการไว้ แต่ถ้าเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากมนุษย์ด้วยกัน มีแต่พวกคนเขลาเท่านั้นที่จะทำเช่นนั้น เราควรมาช่วยกันดีกว่า
“วีระ”ชี้ต้นเหตุปฎิวัติจากรัฐบาลเอง
ด้านนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวถึง กระแสข่าวว่าอาจมีการปฏิวัติรอบใหม่ในเร็ววันนี้ว่า เพราะได้ยินจากคำพูดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ที่ออกมาปล่อยข่าวเป็นระยะๆ ว่า มีการขบวนการจ้องปฏิวัติรัฐบาล แต่หากประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ถือว่า สุกงอมแล้ว ทั้งความพยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้องและมีขบวนการจาบจ้วง สถาบันเบื้องสูง ที่ปรากฏให้เห็นเป็นระลอก การเกิดปฏิวัติอีกรอบจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อยู่ที่ฝ่ายใดจะช่วงชิงได้ก่อน และขณะนี้ทางกองทัพไม่พอใจอย่างมากต่อขบวนการลบหลู่สถาบันเบื้องสูง
นายวีระ กล่าวอีกว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานายทหารยศนายพล ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับด้านความมั่นคง ได้ถูกเรียกตัวกลับเข้ากรมกองด่วน ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเลื่อนเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนัยทางการเมืองก็เพื่อกลับมาบัญชาเกมเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ และเมื่อมีอำนาจเบ็ดเสร็จแล้วรัฐบาลก็จะชิงยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และเมื่อถึงเวลานั้นการเผชิญหน้าก็จะเกิดขึ้น ประชาชนเรือนแสนซึ่งถูกมัดมือชก ไม่มีทางเลือกอื่นก็จะเดินออกมาประท้วงบนถนนความวุ่นวายก็จะตามมา
นายวีระ กล่าวเตือนรัฐบาลว่า อย่าโยนบาปให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็นตัวการปลุกระดมมวลชน ทั้งที่รัฐบาลเป็นตัวจุดชนวน และเร่งปิดเกมเช่นเดียวกับกลุ่มแพทย์อาวุโสออกแถลงการณ์ชัดเจน เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะจะนำมาซึ่งการเกิดวิกฤตครั้งใหม่
“เป็ดเหลิม”มั่วโยนพันธมิตรฯปูดปฎิวัติ
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย อ้างว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นคนออกมาพูดเรื่องการปฎิวัติเช้าสายบ่ายเย็น แม่ทัพนายกองก็ออกมาพูดแล้วว่า เมื่อรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ก็ให้บริหารบ้านเมืองไป แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็น น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ออกมาตะโกนว่าทหารอยู่ฝ่ายพันธมิตรฯ นั้น เป็นการพูดจาพร่ำเพรื่อ ทั้งที่บ้านเมืองกำลังสงบ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากพันธมิตรฯ จะออกมาเคลื่อนไหวรัฐบาลไม่ว่าอะไร แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยรัฐบาลมีแนวคิดว่าหากปล่อยให้ตบมือข้างเดียว ก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไร เพราะประชาชนจะไม่เชื่อถือพันธมิตรฯว่าสิ่งที่นำเสนอนั้น เป็นการดึงเอาเหตุการณ์มาปลุกระดมประชาชน โดยไม่มีมูลความจริง
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นายประชา ประสบดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มมหาประชาชนที่ออกมาคัดค้านกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นคนมีความรู้ ทางการเมือง และเห็นว่าพันธมิตรฯ ทำไม่ถูกต้อง จึงอยากออกมาตอบโต้และเคลื่อนไหวในพื้นที่ โดยประชาชนในพื้นที่ก็ออกมาตอบโต้พันธมิตรฯ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ได้ให้ข้อแนะนำไปว่าควรเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ อย่าเอาประชานมาเผชิญหน้ากัน แต่ควรแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ การแสดงปาฐกถา หรือการบรรยาย ซึ่งนายประชาก็เห็นด้วย ฉะนั้นจากนี้ไปหากใครอ้างว่าพรรคพลังประชาชนจะเอาประชาชนมาเผชิญหน้ากับพันธมิตรฯ ก็เป็นคำกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ
Wรัฐบาลจะไม่เอาประชาชนมาเผชิญหน้ากัน ซึ่งจะไม่เหมือนกับเมื่อครั้งรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และเชื่อว่าทหารคงไม่ไปฟังพันธมิตรฯ หรอก ทางแม่ทัพนายกอง ก็ออกมาบอกชัดแล้ว และมั่นใจว่าสังคมตอนนี้ไม่ตอบรับกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้าเราไม่ออก ไปเคลื่อนไหว ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ก็คงต้องหาที่เก็บกระเป๋า แต่หากว่า เราไปเคลื่อนไหวก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้บุคลที่จะคอยฉกฉวยโอกาสไปกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งW
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าพรรคพลังประชาชนจะไม่นำประชาชนออกมาเคลื่อนไหว ต่อต้านพันธมิตรฯ แต่ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็จะแสดงออกในที่ต่างๆกัน ถือเป็นสิทธิ ของแต่ละคน แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เผชิญหน้าหรือทะเลาะกันเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน
ทหารแจงเคลื่อนกำลังซ่อมรบ
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงว่า ในระหว่างวันที่ 4-21 พ.ค.นี้ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษจะเคลื่อนย้ายกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ไปทำการฝึกภาคสนาม ณ ค่ายฝึกการรบพิเศษปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเดินทางเคลื่อนย้ายไปในวันที่ 7 พ.ค.นี้ เวลา09.00 น. และ13.00น. โดยจะเคลื่อนย้ายจากโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี โดยใช้เส้นทางผ่าน จ.สระบุรี อ.แก่งคอย อ.มวกเหล็ก อ.ปากช่อง พื้นที่ฝึก อ.ปากช่อง อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และไปสุดปลายทางที่ ค่ายฝึกการรบพิเศษปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเดินทางกลับโดยใช้เส้นทางเดิม ในวันที่ 21 พ.ค. เวลา 13.00 น. โดยจะเคลื่อนย้ายจากค่ายฝ่ายฝึกการรบพิเศษปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปยังปลายทางโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี กองทัพบกจึงแจ้งให้ประชาชนทราบ และขออภัยในความไม่สะดวกด้วย