xs
xsm
sm
md
lg

"หัวหน้าลูกกรอก" ปะทะ "มาร์ค" ตีโจทย์ รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-"หมัก-มาร์ค" ร่วมตีโจทย์สถานการณ์รัฐธรรมนูญไทย "หัวหน้าลูกกรอก1" ระบุรธน. เปลี่ยนมา 18 ฉบับ แก้ 30 ครั้งทำไมไม่นองเลือด แต่จะแก้ครั้งนี้กลับมีปัญหา จวกแหลกกลุ่มคัดค้าน หวังใช้เงื่อนไขแก้รธน.ให้ทหารปฏิวัติอีก ด้าน"อภิสิทธิ์" ตอกกลับใครกันแน่เป็นคนสร้างเงื่อนไขให้เกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญ ยืนยันหากแก้ไขอย่างเป็นระบบ มีการศึกษาหาข้อบกพร่อง มีหลายฝ่ายในสังคมเข้าร่วม ก็จะแก้ได้อย่างราบรื่น ไร้วิกฤติ

วานนี้ ( 2 พ.ค.) สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้จัดให้มีการสัมมนาเรื่อง "สถานการณ์รัฐธรรมนูญไทย" ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ โดยเชิญนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแสดงความคิดเห็น แต่ไม่ได้ขึ้นเวทีพร้อมกันในลักษณะการดีเบต

นายสมัคร กล่าวตอนหนึ่งในการสัมมนาว่า บ้านเมืองเราเลือกใช้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทำแบบระบบรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งต้นแบบของเขาไม่ต้องเขียนหนังสือ แต่ของเราต้องเขียน ซึ่งตลอด 76 ปีที่ผ่านมา ก็มีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญกันบ่อย ไม่ชอบใจก็ฉีกทิ้ง แล้วก็ร่างใหม่ ก็ทำกันแบบนี้เรื่อย ถึงวันนี้ก็มีรัฐธรรมนูญ 18 ฉบับแล้ว เมื่อมีปัญหาก็แก้ไข ปรับปรุง

ข้องใจ รธน.เลวหรือคนเลว

นายสมัคร กล่าวถึง รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ว่า เริ่มใช้เมื่อปี 2544 เป็นครั้งแรก และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาหากไม่มีคนชื่อทักษิณมาเล่นการเมือง ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ 126 ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องใช้เสียง 1 ใน 4 คือ 125 แต่ประชาธิปัตย์ได้ 123 เสียงเลยอภิปรายไม่ได้ อีกทั้งการอภิปรายนายกฯต้องใช้เสียง 200 เสียง เมื่อประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ได้จึงเป็นปัญหา กลายเป็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 40 เป็นภูมิคุ้มกัน ให้แตะต้องรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ความจริงมันไม่ใช่ เพราะคนดันไปเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ มากเกินไปถึง 337 เสียง จึงกลายเป็นว่ารัฐธรรมนูญปี 40 นั้นดีเกินไป กลัวนายกฯทักษิณ จะอยู่ตลอดไป จึงพยามกันทุกวิถีทางที่จะดึงเอานายกฯทักษิณ ออกมา

"มันเป็นความเลวของรัฐธรรมนูญ หรือมันเป็นความเลวของผู้คนกันแน่ หรือเป็นความโง่เง่าของคนที่ไปเลือกตั้ง ที่ไม่เลือกให้เกิน 125 หรือ มันอะไรกันแน่ ก็ไหนว่ารัฐธรรมนูญ 40 มันดี มีส.ส.ร.ตรวจสอบไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าไม่ดี เพราะมีคนเลวมาเป็นคนใช้ ผมบอกว่า ถ้ารัฐธรรมนูญ 40 ไม่มีพรรคไทยรักไทย ก็ยังคงใช้จนถึงปัจจุบันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอะไรต่างๆ ก็ยังคงอยู่ต่อไป"

ยังท่องคาถาไม่ได้แก้เพื่อแม้ว

นายสมัคร กล่าวถึงรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ว่าถูกเขียนขึ้นมาจากความ เกลียดชังนายกฯ คนเก่า "ชัดเจน มีอะไรใส่หมด รัฐธรรมนูญ 40 ที่เขาบอกว่าหัวมงกุฎ ท้ายมังกร แต่ก็ยังพอรับได้ มีของใหม่อะไรๆ เข้ามา ใส่มาพร้อมเลย"

นายสมัคร ยืนยันว่า การแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะแก้แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังต้องไปขึ้นศาล
 
"รัฐธรรมนูญฉบับนี้มันแย่ไหม ใครบอกไม่แย่ ผมว่าดัดจริต ทำไมก่อนเลือกตั้งเอาพวงใหญ่ วันหนึ่งเราก็แก้ไขเป็นพวงเล็ก เลือก 3-2-1 ก็ยอมรับได้ แต่วันดีคืนดี ปี 40 เขาบอกไม่ได้แล้ว ทันสมัยของโลกบอกต้องเขตละคนๆ ละเขต อังกฤษมี 163 คน 163 เขต เรามี 400 ปาตี้ลิสต์ 100 มันดีนะ แต่อยู่ดีๆกลับไปใช้ 157 เขต พูดตรงๆนี่มันแก้ให้ดี หรือแก้ให้เลว วุฒิสมาชิก 200 ต้องมาจากเลือกตั้ง จะแก้เพียงสังกัตพรรค หรือไม่เท่านั้น เลือกได้ 76 จังหวัด เหลือแค่ 74 แต่งตั้งพรรคพวกเข้ามา อย่างนี้มันดีหรือเลว"

นายสมัคร กล่าวว่า คนที่วิเคราะห์รัฐธรรมนูญปี 50 ได้ดีคือ นายวีรศักดิ์ โค้วสุรัตน์ ที่เปรียบรัฐธรรมนูญ 50 ว่า 1 . เปรียบเหมือนรถยนต์ ที่ยางบวม 4 ล้อ ขับไปได้ไม่ไกลก็ต้องเปลี่ยนยาง 2. รถคันนี้คลัชซีมันตะแคง เพราะวุฒิสมาชิกอำนาจมันมากนัก มีเขย่งเลือกมา 76 แต่งตั้งมา 74 โครงสร้างมันจึงโคลงเคลง 3 . ตัวหน้าปัด มันมัว มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าความเร็วเท่าไร ความร้อนเท่าไร 4 .รถคันนี้ไม่มีฟิวส์บ็อกซ์ ไม่มีกล่องใส่ฟิวส์ ดังนั้นถ้าเราจะใช้รถคันนี้ต่อไป มันก็ต้องแก้ไข แต่พอจะแก้ไขก็บอกว่า จะทำเพื่อคนนั้น คนนี้

นัดหารือพรรคร่วม 7 พ.ค.นี้

นายสมัคร กล่าวว่า ตอนนี้ก็กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ วันที่ 7 พ.ค. ก็จะไปกินข้าวกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ก็เป็นเรื่องการคุยกันธรรมดา 3 เดือนเจอกันครั้ง แต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของแต่ละพรรคให้เขาไปตกลงกันเอง ถ้าเขาตกลงกันไม่ได้ ก็แก้ไม่ได้แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลบอกไม่แก้ มันก็แก้ไม่ได้แล้ว ไปคาดคั้นบีบคอเขาก็ไม่ได้ แต่ก็บอกว่าให้ดูประโยชน์เพื่อวันข้างหน้า ไม่ใช่ตรงนี้ ทำไมถึงค้านกันจะเป็นจะตาย ทำไมถึงปลุกระดมกันไปกันใหญ่ เอากันถึงว่า คนอย่างตนจะโดนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กันไปแล้ว

เอาไปผูกพันพัวพัน เรื่องทหารจะปฏิวัติ ออกข่าวกันใหญ่ว่าทหารกำลังซักซ้อม เที่ยวนี้จะคุมรัฐมนตรีทุกกระทรวงหมด ถ้ายึดคราวนี้จะจับตัวไปขึ้น ฮ.ไปเลย นี่บ้านเมืองมันแย่ขนาดนี้เหรอ แล้วทหารยังไม่เข็ดหรือ จะเอาอีกแล้วหรือให้เขาปลุกปั่น ไม่ได้พูดตีปลาหน้าไซ แต่ต้องกันเรื่องเหล่านี้ไว้ ยังว่ากันไม่จบ

นายสมัคร กล่าวว่า สถานการณ์รัฐธรรมนูญ ก็เป็นอย่างที่ว่านี่แหละ มันเปลี่ยนมาแล้ว 18 ฉบับ แก้มาแล้ว 30 หน ไม่มีปัญหาอะไรเลย ทำไมคราวนี้ถึงจะนองเลือด ตนอยากจะรู้นัก

รธน.40 ล้มเพราะถูกแทรกแซง

ต่อมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ขึ้นกล่าวถึง สถานการณ์รัฐธรรมนูญไทยว่า ที่มาของปัญหาสถานการณ์รัฐธรรมนูญครั้งนี้ ต้องเริ่มต้นจากปี 2540 ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ทั้งนี้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2475 ถึง 2540 ปัญหารัฐธรรมนูญจะมีการถกเถียงกันระหว่างฝ่ายที่มีอำนาจระหว่างฝ่ายที่มาจากการเลือกตั้ง และคนที่ไม่ได้จากการเลือกตั้ง และมีการปรับปรุงให้รัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

แต่โจทย์รัฐธรรมนูญก่อนปี 2540 จนถึงปัจจุบัน คือคนที่มาจากการเลือกตั้ง มาสร้างปัญหาทางการเมืองเสียเอง จึงมีความคิดว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญให้แตกต่างจากแนวคิดเดิม ที่เป็นระบบรัฐสภาล้วนๆ ว่าอำนาจสูงสุดอยู่ที่ผู้แทนของประชาชน หรือ ส.ส.

"ผมไม่ดัดจริตที่จะบอกว่า พวกผมเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ประกาศสนับสนุนรัฐธรรมนูญ 2540 เพราะยอมรับแล้วว่า การเมืองวิกฤต ถึงทางตันเป็นเพราะอำนาจของนักการเมืองไม่สามารถถูกตรวสอบกำกับได้ พอรัฐธรรมนูญ 2540 มีแนวคิดให้เพิ่มสิทธิเสรีภาพประชาชน องค์กรอิสระ ขึ้นมาดูแลการทุจริตของนักการเมือง ผมสนับสนุนทันที เพราะเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง จะต้องถูกตรวจสอบ"

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ 2540 ทุกเรื่อง แต่เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างทางการเมืองเพิ่มการตรวจสอบจากองค์กรอิสระและจากประชาชน แต่มีหลายเรื่องที่ไม่ได้เห็นด้วย เช่น การให้ส.ส.จบปริญญาตรี รวมถึง ส.ว. ที่มาจากการเลือกโดยตรง เพราะเป็นเรื่องยากที่ส.ว.จะมีความเป็นกลางทางการเมือง เพราะการเลือกตั้งจะต้องมีฐานเสียงจากพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งการให้อำนาจ ส.ว. ในการถอดถอน ก็ยิ่งทำให้คิดว่าพรรคการเมืองต้องมีส่วนได้ส่วนเสียแน่นอน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2540 ประกาศใช้เดือน ต.ค. 40 ซึ่งรัฐธรรมนูญได้ถูกบังคับใช้ตั้งแต่ตอนนั้น ยกเว้นเรื่องการเลือกตั้งเท่านั้น เพราะต้องรอการเลือกตั้งทั่วไป แต่เรื่ององค์กรอิสระต่างๆก็เข้ามาทำงานทันที ซึ่งตรงนี้คือความเห็นที่แตกต่าง เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่พอรัฐธรรมนูญ 2540 ประกาศใช้ มีการเลือกตั้ง มีเศรษฐีเข้ามา มีนโยบายดี มีเสียงข้างมาก ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพราะส่วนตัวเป็นพรรคฝ่ายค้านมีเสียงข้างน้อยเราก็ยอมรับ ไม่ได้คิดว่าหน้าที่ฝ่ายค้านคือ ต้องการล้มล้างรัฐบาล เพราะขณะนี้ อภิปรายนายกรัฐมนตรีได้ เราก็ไม่ได้คิดว่าจะอภิปราย แต่ดูสถานการณ์ความจำเป็นเป็นหลัก

"ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนี้ แต่ปัญหาอยู่ที่ตั้งแต่ปี44 ถึง 49 คนมีอำนาจบิดเบือนเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญชัดเจน มีการแทรกแซงองค์กรอิสระ ตั้งแต่กระบวนการสรรหา และก้าวก่ายชี้นำในการตัดสินคดีหลายคดี องค์กรที่จะเป็นกลางทางการเมืองอย่าง กกต. เป็นกลางหรือไม่ และเหตุผลที่เราไม่ลงเลือกตั้ง 2549 ที่เราไม่เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมในการเลือกตั้ง และเห็นหรือไม่ว่าศาลอุทธรณ์ได้ยืนคำพิพากษาว่า กตต. ไม่เป็นกลาง นั่นหมายความว่า กระบวนการเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ถูกละเมิด และนี่คือที่มาของปัญหา และเป็นที่มาของวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา"

 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากคนมีอำนาจ มีความเก่งกาจสามารถมีเงินทอง มีการดำเนินการทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการบิดเบือนกฎหมาย และเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ โดยส่วนตัวก็ยืนยันว่า วันนี้รัฐธรรมนูญ 2540 จะยังอยู่ แต่วิกฤตที่เกิดขึ้น คงจำได้ว่ามีการขายหุ้น มีการประท้วง มีการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรมและ มีการปะทะกันของมวลชน 2 ฝ่าย

"หากยังทำได้ ก่อนการเลือกตั้ง 2 เม.ย. ในขณะที่เราลังเลจะลงสมัครรับเลือกตั้ง เราก็ยังประกาศว่ายินดีจะลงรับเลือกตั้งถ้าทุกพรรคยืนยันว่าจะยกเครื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2540 กัน หลายพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ก็ลงสัตยาบันกับเรา แต่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ลงสัตยาบันก็ยังอุตส่าห์เรียกพรรคน้อยว่า จะแก้รัฐธรรมนูญปี 2540 เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า คนที่อยู่ในการเมืองขณะนี้เกือบทั้งหมดเห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญ 2540 มีปัญหา จำเป็นต้องแก้ไข เพราะฉะนั้น การจะมาพูดเพียงว่า เอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับมา เท่ากับไม่ได้มีการเรียนรู้เลยว่ามีการละเมิดเจตนารมณ์ มีการสร้างปมเงื่อน ที่ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาปัจจุบัน"

ใครสร้างวิกฤติรัฐธรรมนูญ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องการให้บ้านเมืองกลับมาสู่ระบบประชาธิปไตยอย่างราบรื่นที่สุด และเฝ้าดูว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญ ทำกันอย่างไร และเมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีการแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอด และเมื่อมีการจัดทำรัฐธรรมนูญเสร็จ ก็มีการลงประชามติ ซึ่งมีการรับรองคะแนนเสียง 14 ล้านต่อ 10 ล้าน คืนวันลงประชามติ ตนเป็นคนแรกที่ให้รับรัฐธรรมนูญ เพื่อกลับมาสู่กระบวนการประชาธิปไตยโดยเร็ว แต่ยืนยันว่ามีบางบทบัญญัติต้องแก้ไข ดังนั้น คำพูดที่กล่าวหาว่าฝ่ายค้านไม่คิดจะแก้ไขนั้น ไม่เป็นความจริง

"ผมกล้าจะพิสูจน์จุดยืนทางการเมืองพรรคการเมืองทุกพรรค แล้วดูสิว่ายังยืนยันสอดคล้องเหมือนเดิมหรือไม่ พรรคการเมืองวันนั้น นอกจากพูดเรื่องรัฐธรรมนูญ ยังพูดกฎหมายความมั่นคง จำได้หรือไม่ บอกว่าเผด็จการยิ่งกว่ารัฐธรรมนูญ ปี 50 เสียอีก แต่พอวันนี้ หัวหน้าพรรคตัวเองเป็น ผอ.กอ.รมน.ไม่พูดแล้วจะแก้กฎหมายความมั่นคงเราต้องเอาความจริงมาพูด"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 50ไม่สมบูรณ์แน่นอน และหลายเรื่องก็เหมือนจะพยายามไปแก้อุดช่องโหว่ของปี 40 แล้วอาจจทำเกินเลย จนมีปัญหาได้ ดังนั้นจะต้องคุยกัน แต่หลายปัญหาที่บอกว่า ทำให้การเมืองเดินไม่ได้ ไม่มีเสถียรภาพ ตนถามว่ามันจริงหรือไม่ เลือกตั้งเขตเล็กเขตใหญ่มีทั้งข้อดีและเสีย แต่ที่ต่อว่าครั้งนั้นเลือกตั้งเขตใหญ่ จะทำให้เบี้ยหัวแตกรัฐบาลไม่เสถียรภาพ ถามว่าวันนี้เบี้ยหัวแตกหรือไม่ พรรคการเมืองก็เหลือน้อยพรรค พรรคผสมก็มีความมั่นคง 316 เสียง ต่อ 164 เสียง ตนถือว่ามั่นคง

"ถามจริง รธน. มีข้อบกพร่องไหม ขณะนี้สร้างปัญหาทางการเมืองหรือไม่ ผมตอบได้เลยไม่ได้สร้าง จุดยืนของผมและพรรคฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่แก้ไขเพื่อวางรากฐานที่ดีสำหรับอนาคต และวิธีการที่ดีสุดคือ เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมือสักครู่ นายกฯ บอกว่าจะไม่เอาเป็นเรื่องของรัฐบาลแล้ว แต่เป็นเรื่องของรัฐสภา ตนก็อยากถามท่านว่า หากเป็นเรื่องของสภาจริง ทำไมท่านไม่ตั้งคณะกรรมธิการให้มีทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาลไปร่วมกันทำ ทำไมประชุมแค่ 6พรรค เพราะคิดว่าเสียงพอที่จะทำให้แก้รัฐธรรมนูญได้ หากคิดว่าอย่างนั้น ไม่ใช่เรื่องของสภาฯ ตนคิดว่าควรให้ ส.ว. รัฐบาล ฝ่ายค้าน และคนข้างนอก ทั้งนักวิชาการ ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม ดังนั้นตนเห็นว่ามี ทางแก้ 2 ทางคือ

1. ให้มีกรรมธิการประกอบด้วยผู้แทนทุกฝ่ายมาศึกษาประเด็นเสียก่อน และจะเห็นขอ้บกพร่องของรัฐธรรมนูญ เพื่อผลักดันกติกาสูงสุดให้ดี

2. การแก้ไขเคยทำกันมาตั้งแต่ ปี 38 คือทำกระบวนการส.ส.ร. ที่สามารถเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมยึดโยงอยู่กับสภา

"ถ้าการแก้ไขเป็นอย่างที่ผมพูด อย่างนี้ไม่เชื่อว่าจะมีใครเดินขบวนขัดค้าน ผมไม่เชื่อว่าใครจะมีปัญหา และจะไม่มีสถานการณ์รัฐประหาร เอาความจริงมาพูดว่าสถานการณ์การแก้รัฐธรรมนูญนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนทำสถานการณ์ขึ้นมาคือรัฐบาลเหมือนที่บอกว่า ใบแดงจะเล่นงานคนนั้น จะมีแต่การปฏิวัติ มีแต่รัฐบาลพูดกำลังสร้างปมขัดแย้งทางการเมืองขึ้นมาเอง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ชี้ชัดแก้ รธน.เพื่อพวกพ้อง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา การที่นายกฯพูดว่ารัฐธรรมนูญปี 50 ระบบเลือกตั้งไม่ดี ที่เขายกร่างแก้ไขก่อนหน้านี้ กลับไม่แตะเรื่องระบบการเลือกตั้งเลย ไม่ว่าจะเป็นเลือกตั้งส.ส.หรือส.ว. จะแก้แต่มาตรา 237 และ309

"แล้ววันนี้ที่ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ จะบอกว่าไม่หวังผลกับกระบวนการตรวจสอบ และกระบวนการยุติธรรม ผมว่าไม่ใช่ เพราะบทเฉพาะกาลเขียนไว้เลยบางองค์กรอยู่ได้จนครบวาระ แต่หลายองค์กร เขาก็ไม่ให้อยู่ เขาจะให้ตั้งใหม่ เช่น ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชัดหรือไม่ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดสถานการณ์รัฐธรรมนูญขึ้น เพราะหลักบริหารที่ดี หลักนิติรัฐ หลักของประชาธปิไตย ซึ่งเคารพเรื่องของธรรมาภิบาล ถ้ามีอำนาจคิดเอากฎหมาย เอากติกาไปแก้ โดยใช้อำนาจของตัวเอง เพื่อลบล้างความผิด ผู้คนจึงรับไม่ได้"

นายอภิสิทธิ์ กล่าว ว่าหากตนจะพูดว่า มีความพยายามอย่างมากให้ใบแดงกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ตนรู้หลายสำนวนจบไปแล้ว และได้รื้อขึ้นมาใหม่ตอนนี้ เพื่อบอกว่า ประชาธิปัตย์จะได้โดนด้วย และวันนี้คนของพลังประชาชน มาให้ข่าวท้าทายประชาธิปัตย์ โดนบ้างแล้วจะว่าอย่างไร ตนตอบได้เลย ให้กกต.ให้ศาลตัดสินไปตามเนื้อผ้า ตามข้อเท็จจริง ตามหลักฐาน

ถ้ามีแน้วโน้มว่าผิด หรือผิด พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่มีความคิดแก้รัฐธรรมนูญ หรือแก้กฎหมายเพื่อตัวเอง เพราะนี่คือสิ่งสำคัญที่เราต้องรักษาหลักการเอาไว้ ฉะนั้นตนอยากสรุปง่ายๆ ว่า การแก้รัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องสำคัญ จะมาคิดอ่านกันเพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์พวก ประโยชน์กลุ่มไม่ได้ จะมาทำกันแบบไม่เรียนรู้ ทำแบบมักง่ายไม่ได้

 
"ผมเป็นฝ่ายค้าน ผมไม่ประสบความสำเร็จจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ผมยืนยันทุกเวที และปฏิบัติอยู่ทุกวัน ต้องการประคับประคองให้บ้านเมืองเดินไปด้วยความสงบสุข และรักษาระบอบประชาธิปไตย หากแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อจุดประสงค์นี้ฝ่ายค้านยืนยันเห็นด้วยแน่นอน แต่แก้เพื่อประโยชน์พวกพ้องนั้นไม่ใช่การแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างปัญหาที่เป็นอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

"หมัก"เล่นบทผู้ใหญ่ผูกใจเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของการพบกันระหว่าง นายสมัคร สุนทรเวช กับนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ในครั้งนี้ เป็นไปอย่างอึมครึม ชวนให้อึดอัด เนื่องจากนายสมัคร ไม่ได้พูดจากับนายอภิสิทธิ์ โดยมีนายโคทม อารียา นั่งระหว่างบุคคลทั้งสอง แม้ว่า นายอภิสิทธิ์ พยามจะคุยกับนายสมัคร ก็ตาม

ทั้งนี้นายสมัคร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เปิดลำโพงตรงที่นั่งด้วย พร้อมกับบ่น เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากการโทรเข้ามาตั้งคำถามจากผู้ชมทางบ้าน เนื่องจากการสัมนา ดังกล่าวได้ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ในระหว่างการขึ้นกล่าวปาฐกถาด้วย

แนะให้สังคมเป็นเจ้าภาพแก้ รธน.

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวในการสัมมนา เรื่องสถานการณ์รัฐธรรมนูญไทย ว่า รัฐบาลชุดนี้มีความฉลาดจนได้เป็นรัฐบาล แต่กำลังทำเรื่องที่ไม่ฉลาด คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนเห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องผ่านกระบวนการจากประชาชน คือ การทำประชามติ เพราะการทำประชามติ จะเป็นการพิสูจน์ 14 ล้านเสียง ที่รับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการป้องกันการฉวยโอกาสจากอำนาจภายนอก คือ การรัฐประหาร และเป็นการสร้างความชอบธรรม ทำให้ข้อขัดแย้งลดลง

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ขณะนี้ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำลังจะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ควรเตือน ส.ส.พรรคพลังประชาชนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะนำไปสู่ความแตกแยกของสังคมรอบใหม่ จึงควรให้สังคมเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญดีกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น