xs
xsm
sm
md
lg

“หน.ลูกกรอก” ดัดจริต อ้างขยะแขยง รธน.50

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หมัก” หนุนแก้ รธน.สุดตัว ขยะแขยงคนร่างล้วนเกลียดชังแม้ว พองขนไม่ใช่นอมินีทักษิณ เซ็งพวกปลุกระดมใช้เงื่อนไขแก้ รธน.ปั่นหัวทหารออกมายึดอำนาจอีกแล้ว

วันนี้ (2 พ.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อ “สถานการณ์รัฐธรรมนูญไทย” จัดโดยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ณ โรงแรมมิราเคิล โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมสัมมนาด้วย

นายสมัคร กล่าวต่อว่า บ้านเมืองเราเลือกใช้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและทำแบบระบบรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งต้นแบบของเขาไม่ต้องเขียนหนังสือแต่ของเราต้องเขียนก็ไม่มีปัญหาซึ่งรัฐธรรมนูญคือข้อกำหนดกฎหมายมาจากบ้านเมืองไหนว่าเป็นอย่างไร เหมือนกับรัฐธรรมนูญอเมริกันมี 200 กว่าปีก็แก้นิดหน่อย แต่รัฐธรรมนูญไทยมี 76 ปีนี้ไม่ได้แก้เฉย ๆ แต่เปลี่ยน เปลี่ยนเยอะหน่อย ไม่ชอบใจก็เปลี่ยน ไม่ชอบใจก็ฉีกทิ้ง หลังจากนั้นก็ร่างใหม่ก็ทำกันแบบนี้เรื่อยอย่างนี้พอจะทำอะไรไปก็กลายเป็นสถานการณ์รัฐธรรมนูญ

“ผมเองผมก็ประหลาดใจทำไมถึงต้องมีสถานการณ์ จริงๆแล้วรัฐธรรมนูญฉบับแรกไม่เป็นไปตามประชาธิปไตยเท่าไหร่ รัฐธรรมนูญฉบับแรกของเราก็ครึ่งใบเริ่มต้นก็ครึ่งใบ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองและฝ่ายพระมหากษัตริย์ท่านก็บอกว่าอยากให้ประชาชนมีการศึกษา ท่านก็แสดงหลักการให้เห็นชัดว่ารัชกาลที่ 5 ท่านจะทำอย่างไรและรัชกาลที่ 6 ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วแต่ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไม่สำเร็จ พอพ.ศ. 2431 ก็ถูกจับ สุดท้ายมีจังหวะ พ.ศ. 2475 ก็มีการเปลี่ยนแปลงทางฝ่ายราชวงศ์ก็บอกว่าน่าจะยังไม่ถึงเวลา น่าจะให้ประชาชนมีการศึกษาแต่ปรากฏว่าเขาบอกว่าไม่ได้ถึงเวลาวันดีคืนดีก็ยึดอำนาจเปลี่ยนแปลง และเป็นที่ภาคภูมิใจว่าไม่มีเสียเลือดเสียเนื้อ ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2547 มาถึงตอนนี้ก็ 76 ปีแล้ว” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาตอนแรกก็เป็นได้ชัดว่าคณะที่เปลี่ยนแปลงการปกครองคำแรกที่บอกว่าเนื่องจากประชาชนไทยยังไม่มีการศึกษาที่ดีพอสมควร และเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ ครึ่งใบคือว่ามีสภาสมาชิก 2 ประเภท ครึ่งหนึ่งเลือกตั้ง ครึ่งหนึ่งแต่งตั้ง ก็เอาเปรียบกันอย่างนี้ อยู่กันมาดีๆก็มีปัญหาเปลี่ยนกันมาเปลี่ยนกันมา และก็มีการปฏิวัติ รัฐประหาร สร้างรัฐธรรมนูญไว้ดักหน้าดักหลัง เอาไปแอบไว้ใต้โอ่งก็มีตั้งแต่ พ.ศ. 90 ถึงวันนี้ก็มี 18 ฉบับ ก็เหมือนรัฐธรรมนูญพระ 227 ข้อ ผ่านมา 2500 กว่าปีก็สังคายนามากี่ครั้งก็ยังไม่มีการแก้ไขไม่ได้เพิ่มจาก 227 ข้อและไม่ได้ลดจาก 227 ข้อไม่มีแก้ข้อไหนเลยแต่ท่านปรับสภาพได้ตลอด

นายสมัคร กล่าวอีกว่า เหมือนกับน้ำปานะแปลว่าน้ำบนไม้มันตกกินแล้วอิ่ม เมื่อ 200 กว่าปีก่อนโค้กไม่มี เป็ปซี่ไม่มี แต่บัดนี้พระไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญพระเพราะโค้ก เป็ปซี่ก็ถือว่าเป็นน้ำปานะ ซึ่งสามารถปรับได้ตามสถานการณ์ 2500 กว่าปีไม่ต้องแก้ไขท่านอยู่ของท่านได้และมีการเปลี่ยนแปลงเยอะสมัยพระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ไม่เหมือนกัน แต่ของเราประชากรมีไม่ถึง 10 ล้านคนแต่บัดนี้มี 60 ล้านคนแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว 18 ฉบับ มีปัญหาไหม ไม่มีหรอก มีปัญหาก็ปรับปรุง ตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม พ.ศ. 2495 ยึดอำนาจเสร็จบอกเอาฉบับ 75 มาใช้ย้อนหลังไป 20 ปีก็ไม่มีใครว่า ซึ่งตอนนั้นเอาทหารครึ่งหนึ่งไปไว้ในสภามีโฆษกต่างประเทศพร้อม ประเภทหนึ่งก็เลือกตั้ง ดังนั้น ทหารก็พวกรัฐบาลทั้งนั้นและวันดีคืนดีปี 2500 ก็เลือกตั้งท่านจอมพล ป.อยากอยู่หรือไม่ไม่รู้แต่ลูกน้องจอมพล ป.คงอยากจะอยู่ หากจะอยู่ต่อต้องมีการเลือกตั้งซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาในบ้านเมืองนี้ ทั้งนี้ หลังจากมีการเลือกตั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเมื่อปีพ.ศ.2511 เกิดการโต้เถียงกันเพียงประเด็นเดียวว่าควรจะเปิดประตูให้นายกรัฐมนตรีควรจะมาจากเลือกตั้งแต่มีการเสนอให้เปิดประตูไว้สองประตู สุดท้ายบอกว่ารัฐธรรมนูญของบ้านเราไม่มีกระโดกกระเดกจนมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญกัน ซึ่งนายบรรหาร พล.อ.ชวลิต ก็ไม่อยากยุ่ง กระทั่งมีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) ทำหน้าที่พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยอมรับสมควรแก้ รธน. 50

สำรอก “ดัดจริต”ใส่คนที่ไม่เห็นด้วย

“เมื่อร่างไว้ สสร.ก็ว่าดี ผมว่าดีจริงพรรคประชากรไทยชวนหัวหน้าพรรคไปรับเท่านั้นไม่ใช่อะไรอย่างอื่นเลย ผมไม่ชอบให้มีการบังคับ มีธงเขียว ธงเหลือง ผมบอกว่าถ้ายุ่งมากก็ไม่รับถ้าบังคับจะไม่รับ ตอนนั้นยังถกเถียงกันวิ่งเต้นกันเหลือเกิน ผมไม่อยากให้มีการปะทะกันก็บอกไม่รับ แต่เขาบอกว่าเขาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา เขาเจตนาต้องการให้มีรัฐบาลที่แข็งแรง” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวว่า เมื่อปี 2544 ได้ใช้เป็นครั้งแรก บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับ40 ถ้าไม่พรรคการเมืองที่มีคนชื่อ “ทักษิณ” รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังคงใช้อยู่แน่นอน ถ้าผลการเลือกตั้งวันนั้น ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ 126 ก็ไม่เป็นปัญหา 1 ใน 4 คือ 125 อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ไม่เป็นปัญหาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ใช้ได้ตามปกติ เขาบอกกันจะต้องมี 125 ก็ได้ประมาณ 123 ไปยั่วกิเลสเขาพอสมควร คือไปแตะต้องรัฐมนตรีเขาไม่ได้ แถมการอภิปรายนายกฯ ใครๆก็อยากเอานายกฯ มาสับกันกลางสภา ก็ต้องมี 200 กลายเป็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้(2540) เป็นภูมิคุ้มกัน ๆ ให้แตะต้องรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ความจริงมันไม่ใช่ ความจริงคือ คนดันไปเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ มากเกินไป 377 เสียง ถ้าเลือกสัก 374 รู้แล้วรู้รอดไป พรรคประชาธิปัตย์ก็อภิปรายไม่ไว้วางใจกันตามใจชอบ หรือถ้าจะเลือกให้ได้ 201 ,299 ก็ยิ่งดีใหญ่

“จะเอานายกฯ มาสับ มาโขกตามใจชอบเมื่อไหร่ก็ได้ รัฐธรรมนูญจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผลการเลือกตั้งมันดันออกมาทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะการเลือกตั้ง 337 เท่านั้นแหละเลยกลายเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีเกินไปเสียแล้ว เหมือนนมตราหมี ทำนองนั้น ดีเกินไปเสียแล้ว เลยกลายเป็นว่า เลือกตั้งครั้งแรก248 เอาพรรคชาติไทยมาร่วมด้วย เลือกตั้งครั้งที่ 2 ได้ 377 ก็คิดว่าพรรค นายกฯทักษิณจะอยู่ตลอดไป จะครองบ้านครองเมืองชั่วกัลปาวสานหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ก็พยามกันทุกวิถีทางก็ดึงเอานายกฯออกมา” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวต่อว่า ตอนนั้นเขาก็ท้วงกัน ตนก็ท้วงกับเขาด้วยไหนก็ได้รับการอุดหนุน ได้เงินจากรัฐบาลอุดหนุนไปแต่ก็ลงเลือกตั้งไม่ยอมลงเลือกตั้ง มีการประท้วงไม่ลงเลือกตั้ง ไม่มีใครว่า 20 เปอร์เซ็นต์ไม่เป็นไร เลือกตั้งไปแล้วขาด 38 เลือกตั้งใหม่ ขาดอีก 35 รองหลัง 25 ครบ ไม่เป็นไร เลือกกันก็จบ เกิดมีศาลปกครอง ใครไปร้องทุกศาลปกครองบอกให้มีความคุ้มครอง บอกว่าอีก 2 วันจะเลือกตั้ง ไปบอกว่า ที่เลือกตั้งมาไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วตกลงมันอะไรกันแน่ๆ

“มันเป็นความเลวของรัฐธรรมนูญ หรือมันเป็นความเลวของผู้คนกันแน่ หรือเป็นความโง่เง่าของคนที่ไปเลือกตั้งที่ไม่เลือกให้เกิน 125 หรือมันอะไรกันแน่ ก็ไหนว่ารัฐธรรมนูญ 40 มันดี มี สสร.ตรวจสอบไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าไม่ดี เพราะมีคนเลวมาเป็นคนใช้ ผมบอกว่า ถ้ารัฐธรรมนูญ 40 ไม่มีพรรคไทยรักไทยก็ยังคงใช้จนถึงปัจจุบันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอะไรต่างๆก็ยังคงอยู่ต่อไป ทำไมต้องนายกฯทักษิณ ก็เพราะมีเศรษฐีมาเล่นการเมืองผิดปกติมนุษย์โดยตรง การเมืองไทยต้องไม่มีเงิน จน ถือกระเป๋าใบเดียวไม่มีหรอกครับ ไม่ค่อยมี รวยแล้วไม่มีใครว่า ไม่มีหรอก แต่รวยแล้วมาเล่นเกิดมีปัญหาเพราะรวยเกินไป เพราะคิดอะไรเป็นธุรกิจนโยบายต่างๆ คนเกิดนิยม”นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวด้วยว่า เวลาวิจารณ์รัฐธรรมนูญบอกเลยว่ารัฐธรรมนูญที่ใช้ก่อนรัฐธรรมนูญ 40 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ ท่านใช้แบบที่ผมเรียกกันว่า บูโรเครซี่ หรือกึ่งข้าราชการนิยม แต่พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาอยู่ได้ 4 ปี ก็กลายเป็นธุรกิจนิยม คิดคนละอย่าง ประชาธิปัตย์ไม่เสี่ยงแต่ ไทยรักไทยเสี่ยง สำเร็จไม่สำเร็จไม่รู้ ใครไปดูป้ายหาเสียง ปี 2548 ตามกระต๊อบไปดูสิ ทุกพรรคเขียนนโยบายประชานิยมทั้งนั้น สไตล์เดียวกันทั้งนั้น ลองไปดึงฝากระต๊อบมาดูสิทุกพรรค เคราะห์ดีที่เขาให้เก็บตอน 3 โมงเย็น เขาเก็บหมด พวกคนไม่มีบ้าน ไม่มีฝาเขาเก็บหมดไปดูสิ ลอกแบบกันมาทั้งนั้นไม่อับอายกันเลย ได้มาอยู่ได้ปีหนึ่งก็โดนว่าไม่ดี เพราะ เก่งเกินไป รวยเกินไป ลองดูแล้วกันว่า ตกลงรัฐธรรมนูญมันเลวหรือว่าใครมันเลว เลวจนกระทั่งเอาไว้ไม่ได้ ต้องอำนาจ ๆแล้วทำยังไง รัฐธรรมนูญ 40 ที่บอกว่าดีนักหนา สสร.ร่างมากลายเป็นของที่ว่า มันไม่ดี คนร่างใหม่พูดไปร่างไปบอกเลยต้องทำให้มันปริ่มๆ รัฐบาลแข็งแรงเกินไปใช้ไม่ได้ พูดกันชัด ร่างไปบ่นไปโดยเฉพาะตอนร่างกฎหมายลูก 3 ฉบับยิ่งบอกเลยใครอะไรตามแต่ ใครจะเป็นนอมินีก็ตามแต่ นี่ไม่ใช่พูดวันนี้เพราะเมื่อวานเขาตัดสิน หรือที่หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์พาดหัวกันว่า ผิดแต่ไม่มีในกฎหมายลงโทษ เห็นมั้ยครับ ทั้งหมดที่พูดเพื่อจะบอกว่า ไปๆมาๆ เขาบอกชัดเจนว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ เขาเขียนใหม่ เขาเขียนรัฐธรรมนูญ 50 ด้วยเกลียดชังนายกฯ คนเก่า ชัดเจนมีอะไรใส่หมด รัฐธรรมนูญ 40 ที่เขาบอกว่าหัวมังกุท้ายมังกรแต่ก็ยังพอรับได้มีของใหม่อะไรๆ เข้ามา ใส่มาพร้อยเลย

นายสมัคร บอกอีกว่า ทำไมต้องมีสถานการณ์รัฐธรรมนูญ “ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล ไม่ต้องการเลย ได้ประโยชน์จากการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ว่าจะมาช่วยอะไร เรื่อง นายกฯ ทักษิณก็ต้องขึ้นศาล ตัดสินมายังก็ต้องยอม วันที่ 30 มิ.ย. ก็ต้องไปฟังคดีความที่ ป.ป.ช. รัฐธรรมนูญฉบับนี้มันแย่มั้ย ใครบอกไม่แย่ผมว่า ดัดจริต ทำไมก่อนเลือกตั้งเอาพวงใหญ่ วันหนึ่งเราก็แก้ไขเป็นพวงเล็ก เลือก 3-2-1ก็ยอมรับได้ แต่วันดีคืนดี ปี 40 เขาบอกไม่ได้แล้ว ทันสมัยของโลกบอกต้องเขตละ คน ๆละเขต อังกฤษมี 163 คน 163 เขต เรามี 400 ปาร์ตี้ลิสต์ 100 มันดี นะ แต่อยู่ดีๆกลับไปใช้ 157 เขต พูดตรงๆนี่มันแก้ให้ดีหรือแก้ให้เลว วุฒิสมาชิก200 ต้องมาจากเลือกตั้ง จะแก้เพียงสังกัตพรรคหรือไม่เท่านั้น เลือกได้ 76 จังหวัด เหลือแค่ 74 แต่งตั้งพรรคพวกเข้ามา อย่างนี้มันดีหรือเลว”

อย่างไรก็ตาม คนที่วิเคราะห์เรื่องนี้ดีชื่อนายวีรศักดิ์ โค้วสุรัตน์ เขาวิเคราะห์รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ง่ายสั้น แล้ว ดี4 ข้องเท่านั้น ทุกคนคงรู้จักรถยนต์ดี 1.รถยนต์คันนี้ก็เหมือนรัฐธรรมนูญปี 50 เริ่มต้นมันไม่ดีเพราะยางมันบวม 4 ล้อ ยางบวมแปลว่า ขับไป 50 กิโลเมตร ยางบวมต้องเปลี่ยนยาง รถคันนี้มันยางบวม วิ่งไปได้สักพักต้องหยุดเพราะยางจะระเบิด 2. รถคันนี้คลัชซีมันตะแคง เพราะวุฒิสมาชิกอำนาจมันมากนักมีเขย่ง เลือกมา 76 แต่งตั้งมา 74 โครงสร้างมันโครงเครง 3. ตัวหน้าปัดมันมัว มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าความเร็วเท่าไหร่ ความร้อนเท่าไหร่ ข้อสุดท้ายคือรถคันนี้ไม่มีฟิวส์บ็อกซ์ ไม่มีกล่องใส่ฟิวส์ เขาใส่เพื่ออะไรรู้ไหม คือ มีระบบไฟ 12 ระบบ ก็ใส่ฟิวส์ 12 ตัว ตัวไหนเสียก็เปลี่ยนตัวนั้น เขาบอกไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย ชัดเจนไหม คือถ้าเราใช่รถคันนี้ต่อไปมันต้องแก้ไข พอจะแก้ไขรัฐธรรมนูญบ้างก็บอกว่าจะทำเพื่อคนนี้คนนั้น ไม่เลย

นายสมัครกล่าวว่า วินิจฉัยเลยว่าขืนไปเอามาช่วยก็ต้องถูกตีความ แก้อะไรยังไงก็ถูกตีความหมด ดังนั้นไม่ต้องห่วง แต่ก็ควรแก้ไข เพราะมันมีเหตุ ผมคิดว่าเรื่อใบแดงมันจะเพลาลงไปแต่ กกต.ก็ตั้งท่าจะให้ใบแดงกันอีกในกรณีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ถูกนายทหารที่อยู่กรุงเทพฯ ฟ้องร้องคนเลือกตั้งที่เชียงรายว่าทำให้ทหารเสียหาย ตรวจสอบเรียบร้อย ทหารไปค้นบ้านผู้พิพากษา ข้อเท็จจริงมีแต่ กกต.ไม่ดู แต่ผมก็ไม่ห่วง เพราะเรื่องนี้ต้องไปศาลฎีกา ศาลท่านจะดูหมด และคดีแรกที่นายยงยุทธ ขึ้นศาลวันนี้ศาลก็ต้องดูหลักฐานหมด แต่ กกต.ไม่ดู มีคน 10 คน 9 คน ให้การเข้าข้างนายยงยุทธ มี 1 คนให้การปรักปรำ แล้ว กกต.ก็เชื่อคนเดียว มันเป็นอย่างนี้ กกต.ถูกบังคับโดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตามมาตรา 237 ผมบอกถ้าเป็นอย่างนี้ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ มันมีอะไรเสียหายผมอยากจะรู้ ก็รัฐธรรมนูญมันแย่กว่าฉบับเก่า มีโอกาสเลือกตั้งประชาชนเลือกมาแล้ว หาเสียงทุกพรรคก็บอกหมดว่าต้องแก้ไข แต่ตอนหลังใครจะดัดจริตไม่แก้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าแก้แล้วมันดีจะเดือดร้อนใคร

นายสมัคร กล่าวต่อว่า “ตอนนี้ก็กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ วันที่ 7 พ.ค. ผมก็จะไปกินข้าวกันกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ก็เป็นเรื่องการคุยกันธรรมดา 3 เดือนเจอกันครั้ง แต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของแต่ละพรรคให้เขาไปตกลงกันเอง ถ้าเขาตกลงกันไม่ได้ ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่นะ เสียงส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยก็แก้ไม่ได้แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลบอกไม่แก้มันก็แก้ไม่ได้แล้ว ไปคาดคั้นบีบคอเขาก็ไม่ได้ แต่ก็บอกว่าให้ดูประโยชน์เพื่อวันข้างหน้า ไม่ใช่ตรงนี้ ทำไมถึงค้านกันจะเป็นจะตาย ทำไมถึงปลุกระดมกันไปกันใหญ่แล้ว เอากันถึงว่าคนอย่างผมจะโดนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กันไปแล้ว

“ขนาดเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่เป็นวันก่อตั้งกรุงเทพฯ ก็ทำพิธีเรียบร้อยทหารผ่านศึกเขาบอกเมื่อวันที่ 18 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ เสด็จมาทำพิธีผูกผ้าสีที่ด้านใน ผมก็ออกมาข้างนอกมาผูกอันจำลองข้างนอกผูกผ้าคนละสี ก็ไม่มีปัญหา เอาไปออกข่าวกันเอิกเกริกไอ้สมัครมันบังอาจ ไม่ถอดผ้าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ทรงผูกไว้แล้วเอาของตัวเองผูกทับ อย่างนี้มันมีแผนการเลวทรามต่ำช้าใช่ไหม การทำข่าวก็เห็นว่าสมัครกับทักษิณ ก็อีหลอบเดียวกัน ไม่หรอก ยังไงก็ไม่เหมือนกัน ชื่อก็ไม่เหมือนกัน

“ความคิดอ่านก็ไม่เหมือนกัน ผมก็เป็นผม ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล มาถูกต้องตามกฎหมาย บริหารมา 3 เดือน แต่มีคนพยายามลากผมไปเหยียบย้ำ เอาไปผูกพันพัวพันเรื่องทหารจะปฏิวัติ ออกข่าวกันใหญ่ว่าทหารกำลังซักซ้อม เที่ยวนี้จะคุมรัฐมนตรีทุกกระทรวงหมด ถ้ายึดคราวนี้จะจับตัวไปขึ้น ฮ.(เฮลิคอปเตอร์)ไปเลย จะเอาไปไว้ที่ไหนยังไง ออกข่าวหมดจะเฝ้าบ้านหมดทุกรัฐมนตรี จะจับขึ้น ฮ.ไปจำยี่ฮ้อไม่ได้ เอาไปรวมไว้ที่เดียวกัน นี่บ้านเมืองมันแย่ขนาดนี้เหรอ แล้วทหารยังไม่เข็ดหรือจะเอาอีกแล้วหรือให้เขาปลุกปั่น ไม่ได้พูดตีปลาหน้าไซ แต่ต้องกันเรื่องเหล่านี้ไว้ ยังว่ากันไม่จบ”

นายสมัคร กล่าวต่อว่า สถานการณ์รัฐธรรมนูญ ก็เป็นอย่างที่ว่านี่แหละ มันเปลี่ยนมาแล้ว 18 ฉบับ แก้มาแล้ว 30 หน ไม่มีปัญหาอะไรเลย ทำไมคราวนี้ถึงจะนองเลือด “ผมอยากจะรู้นัก ผมพูดไว้เป็นหลักฐานตรงนี้เลยว่า ผมไม่ต้องการผลประโยชน์ไปช่วยไอ้พวกใบเหลืองใบแดง ช่วยไม่ได้หรอกครับ ยังไงเขาก็โดนอยู่ดี ต้องขึ้นศาลแน่นอน พี่น้องลองไตร่ตรองกันดูว่ากว่าจะมาถึงตรงนี้เลือดตาแทบกระเด็น กว่าจะกลับมาคบค้าสมาคม กว่าเขาจะกลับมาค้ามาขาย ยังไม่ครบ 3 เดือนจะล่อกันแล้ว ขอบอกว่าสถานการณ์รัฐธรรมนูญสำหรับผมปกติครับ รัฐธรรมนูญ ผมบอกแล้วว่ากินไม่ได้หรอก ทาก็ไม่ได้ แต่มันเป็นหัวใจของการปกครองบ้านเมือง ถ้ามันไม่ดี เราก็ทำให้มันดี”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของการพบกันระหว่างนายสมัคร และนายอภิสิทธ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เป็นไปอย่างอึมครึม เนื่องจากนายสมัคร ไม่ได้พูดจากับนายอภิสิทธ์ แต่อย่างใด โดยมีนายโคทม อารียา นั่งระหว่างบุคคลทั้ง 2 แม้ว่านายอภิสิทธ์พยามจะคุยกับนายสมัครก็ตาม ทั้งนี้นายสมัคร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เปิดลำโพงตรงที่นั่งด้วยพร้อมกับบ่นเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากการโทรเข้ามาตั้งคำถามจากผู้ชมทางบ้านเนื่องจากการสัมนาดังกล่าวได้ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ในระหว่างการขึ้นกล่าวปาฐกถาด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น