ศูนย์ข่าวภูเก็ต - องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (อพท.) เตรียมปัดฝุ่นโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตที่ชะงักไปตลอดรัฐบาลที่ผ่านมา นำข้อมูลเก่ามาศึกษาใหม่ทั้งหมด ก่อนเสนอ ครม.ดันเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืน ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเป็นแสนล้านบาท
วานนี้ (2 พ.ค.) พล.อ.สุนทร ขำคมกุล ประธานคณะกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (อพท.) พร้อมด้วยคณะกรรมการ อพท. นายรัชทิน ศยามานนท์ ประธานคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ได้เดินทางมาสำรวจพื้นที่พัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต พร้อมกับประชุมร่วมกับนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เนื่องจากทางคณะกรรมการ อพท.ได้ให้ความสำคัญแก่โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เพราะมองว่าจะเป็นโครงการที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้เข้าสู่ จ.ภูเก็ต จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต จ.ภูเก็ตขึ้น โดยมีนายรัชทิน ศยามานนท เป็นประธานคณะกรมการฯ ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากส่วนกลางและผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อศึกษารายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย และผลประโยชน์ที่ประชาชนในท้องถิ่นจะได้รับ รวมทั้งในด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนจากโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต
นายรัชทิน ศยามานนท์ ประธานคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เปิดเผยภายหลังสำรวจพื้นที่พัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหินว่า คณะกรรมการ อพท.ให้ความสำคัญแก่โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตมาก จึงได้ลงมาพื้นที่ภูเก็ตเพื่อที่จะสำรวจพื้นที่ และศึกษาโครงการนี้ ที่เคยมีการผลักดันกันมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่คืบหน้า แม้ว่ารัฐบาลชุดก่อน คมช.จะให้ความสำคัญแก่โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตมาก แต่เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลโครงการดังกล่าวก็หยุดชะงักไป เมื่อมาถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศ ต้องการที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอพท.มองว่าโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตเป็นโครงการที่จะสามารถเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและภูเก็ตได้ดีอีกโครงการหนึ่ง โดยการดึงเอกชนเข้าลงทุนในโครงการนี้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าประชาชนและชุมชนจะต้องได้รับผลประโยชน์สูงสุด และทางอพท.จะเร่งดำเนินการโครงการนี้อย่างรวดเร็ว
โดย อพท.จะเป็นผู้เข้ามาผลักดันโครงการนี้ ด้วยการนำข้อมูลทั้งหมดทั้งในเรื่องของการศึกษาออกแบบที่ดำเนินการไปแล้วและการประชุมอีก 4 ครั้งในช่วงรัฐบาลก่อนรัฐบาล คมช.ที่มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธาน ทั้งในเรื่องกฎหมายการได้มาซึ่งที่ดิน แนวทางในการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมทั้งการจัดทำผังเมืองและกิจกรรมต่างๆในโครงการ มาดูใหม่ทั้งหมด เพื่อทำกรอบการพัฒนาโครงการนี้ เสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการผลักดันให้โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอคณะรัฐมนตรีได้ในไม่ช้านี้
นายรัชทิน กล่าวต่อว่า เมื่อผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ตามกรอบที่วางไว้ ก็จะประกาศดึงนักลงทุนชาวต่างชาติจากทั่วโลกเข้ามารับสัมปทานลงทุนพัฒนาเกาะทั้ง 2 เกาะที่ได้ออกแบบไว้ ทั้งเกาะที่เป็น MICE ที่จะประกอบไปด้วยศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า โรงแรมต่างๆ และสิ่งอำนวยควมสะดวกทั้งหมด และเกาะที่เป็น MARINA ที่จะเป็นเกาะที่ให้บริการเกี่ยวกับเรือยอชต์ในระดับโลก
คาดว่าการลงทุนเป็นแสนล้านบาท เพราะจากการที่ได้ศึกษาออกแบบเมื่อหลายปีก่อนโครงการนี้ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาท จึงจำเป็นที่จะต้องดึงนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุน และที่ผ่านมานักลงทุนช่าวต่างชาติหลายรายให้การสนใจการลงทุนในโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต และบางรายต้องการที่จะออกแบบโครงการใหม่ แต่ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่อยู่ในพื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ และพื้นที่ออกแบบเดิมอยู่ที่ 2,200 ไร่
ส่วนพื้นที่บนบกนั้นน่าจะเป็นการลงทุนโดยรัฐบาลในการจัดทำระบบผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนาโครงการอ่าวภูเก็ต ทั้งในเรื่องของถนน น้ำ ขยะ ฯลฯ และย้ำว่าการพัฒนาโครงการอ่าวภูเก็ตประชาชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด และมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้ให้แก่ภูเก็ต ด้วยการพัฒนาพื้นที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ซึ่งเป็นทะเลดินเลนที่เกิดจากการทำเหมืองแร่ และขาดความสวยงามให้เป็นเมืองใหม่ขึ้นมา โดยการสร้างเป็นเกาะขึ้นมา 2 เกาะ คือ เกาะ MICE และเกาะ MARINA ที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เคยศึกษาไว้ ด้วยเงินลงทุนขณะนั้น 63,000 ล้านบาท บนพื้นที่ทั้งหมด 3,000 ไร่
แต่พื้นที่ออกแบบเป็นเกาะทั้ง 2 เกาะ 2,200 ไร่ และ ครม.ได้เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2548 และในรัฐบาลทักษิณ 2 ได้ให้ความสำคัญแก่โครงการนี้มาก ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาผลักดันโครงการนี้ โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นประธาน เพื่อศึกษารายละเอียดในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การได้มาที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในโครงการฯ โครงการมีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเมื่อเดือนก.ย. 2549 ที่ผ่านมา โครงการได้ชะงักไป
อย่างไรก็ตาม โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตในช่วงรัฐบาลทักษิณ 2 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนหลายรายด้วยกันที่แสดงความสนใจลงทุนผ่านทางรัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และล่าสุดนักลงทุนจากประเทศเกาหลีก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการนี้อีก
วานนี้ (2 พ.ค.) พล.อ.สุนทร ขำคมกุล ประธานคณะกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (อพท.) พร้อมด้วยคณะกรรมการ อพท. นายรัชทิน ศยามานนท์ ประธานคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ได้เดินทางมาสำรวจพื้นที่พัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต พร้อมกับประชุมร่วมกับนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เนื่องจากทางคณะกรรมการ อพท.ได้ให้ความสำคัญแก่โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เพราะมองว่าจะเป็นโครงการที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้เข้าสู่ จ.ภูเก็ต จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต จ.ภูเก็ตขึ้น โดยมีนายรัชทิน ศยามานนท เป็นประธานคณะกรมการฯ ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากส่วนกลางและผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อศึกษารายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย และผลประโยชน์ที่ประชาชนในท้องถิ่นจะได้รับ รวมทั้งในด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนจากโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต
นายรัชทิน ศยามานนท์ ประธานคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เปิดเผยภายหลังสำรวจพื้นที่พัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหินว่า คณะกรรมการ อพท.ให้ความสำคัญแก่โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตมาก จึงได้ลงมาพื้นที่ภูเก็ตเพื่อที่จะสำรวจพื้นที่ และศึกษาโครงการนี้ ที่เคยมีการผลักดันกันมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่คืบหน้า แม้ว่ารัฐบาลชุดก่อน คมช.จะให้ความสำคัญแก่โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตมาก แต่เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลโครงการดังกล่าวก็หยุดชะงักไป เมื่อมาถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศ ต้องการที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอพท.มองว่าโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตเป็นโครงการที่จะสามารถเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและภูเก็ตได้ดีอีกโครงการหนึ่ง โดยการดึงเอกชนเข้าลงทุนในโครงการนี้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าประชาชนและชุมชนจะต้องได้รับผลประโยชน์สูงสุด และทางอพท.จะเร่งดำเนินการโครงการนี้อย่างรวดเร็ว
โดย อพท.จะเป็นผู้เข้ามาผลักดันโครงการนี้ ด้วยการนำข้อมูลทั้งหมดทั้งในเรื่องของการศึกษาออกแบบที่ดำเนินการไปแล้วและการประชุมอีก 4 ครั้งในช่วงรัฐบาลก่อนรัฐบาล คมช.ที่มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธาน ทั้งในเรื่องกฎหมายการได้มาซึ่งที่ดิน แนวทางในการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมทั้งการจัดทำผังเมืองและกิจกรรมต่างๆในโครงการ มาดูใหม่ทั้งหมด เพื่อทำกรอบการพัฒนาโครงการนี้ เสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการผลักดันให้โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอคณะรัฐมนตรีได้ในไม่ช้านี้
นายรัชทิน กล่าวต่อว่า เมื่อผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ตามกรอบที่วางไว้ ก็จะประกาศดึงนักลงทุนชาวต่างชาติจากทั่วโลกเข้ามารับสัมปทานลงทุนพัฒนาเกาะทั้ง 2 เกาะที่ได้ออกแบบไว้ ทั้งเกาะที่เป็น MICE ที่จะประกอบไปด้วยศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า โรงแรมต่างๆ และสิ่งอำนวยควมสะดวกทั้งหมด และเกาะที่เป็น MARINA ที่จะเป็นเกาะที่ให้บริการเกี่ยวกับเรือยอชต์ในระดับโลก
คาดว่าการลงทุนเป็นแสนล้านบาท เพราะจากการที่ได้ศึกษาออกแบบเมื่อหลายปีก่อนโครงการนี้ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาท จึงจำเป็นที่จะต้องดึงนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุน และที่ผ่านมานักลงทุนช่าวต่างชาติหลายรายให้การสนใจการลงทุนในโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต และบางรายต้องการที่จะออกแบบโครงการใหม่ แต่ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่อยู่ในพื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ และพื้นที่ออกแบบเดิมอยู่ที่ 2,200 ไร่
ส่วนพื้นที่บนบกนั้นน่าจะเป็นการลงทุนโดยรัฐบาลในการจัดทำระบบผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนาโครงการอ่าวภูเก็ต ทั้งในเรื่องของถนน น้ำ ขยะ ฯลฯ และย้ำว่าการพัฒนาโครงการอ่าวภูเก็ตประชาชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด และมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้ให้แก่ภูเก็ต ด้วยการพัฒนาพื้นที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ซึ่งเป็นทะเลดินเลนที่เกิดจากการทำเหมืองแร่ และขาดความสวยงามให้เป็นเมืองใหม่ขึ้นมา โดยการสร้างเป็นเกาะขึ้นมา 2 เกาะ คือ เกาะ MICE และเกาะ MARINA ที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เคยศึกษาไว้ ด้วยเงินลงทุนขณะนั้น 63,000 ล้านบาท บนพื้นที่ทั้งหมด 3,000 ไร่
แต่พื้นที่ออกแบบเป็นเกาะทั้ง 2 เกาะ 2,200 ไร่ และ ครม.ได้เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2548 และในรัฐบาลทักษิณ 2 ได้ให้ความสำคัญแก่โครงการนี้มาก ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาผลักดันโครงการนี้ โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นประธาน เพื่อศึกษารายละเอียดในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การได้มาที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในโครงการฯ โครงการมีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเมื่อเดือนก.ย. 2549 ที่ผ่านมา โครงการได้ชะงักไป
อย่างไรก็ตาม โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตในช่วงรัฐบาลทักษิณ 2 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนหลายรายด้วยกันที่แสดงความสนใจลงทุนผ่านทางรัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และล่าสุดนักลงทุนจากประเทศเกาหลีก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการนี้อีก
