xs
xsm
sm
md
lg

อย่าเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า อย่าลบล้างรัฐธรรมนูญด้วยเลือดและน้ำตา

เผยแพร่:   โดย: ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

หลังการเลือกตั้ง ช่วงที่พรรคพลังประชาชนกำลังพยายามดึงดูดพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ปรากฏว่า พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน อันเป็นพรรคการเมืองตัวแปร 2 พรรค ได้ตกลงจับมือกัน และยื่นข้อเสนอเป็นเงื่อนไขไปยังพรรคพลังประชาชน

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2550 ณ บ้านต้นสน ซ.ปรีดีพนมยงค์ 14 ของนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย มีแกนนำพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็น นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา กรรมการบริหารพรรคชาติไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายพินิจ จารุสมบัติ นายวัฒนา อัศวเหม นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ นายสุชาติ ตันเจริญ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน ฯลฯ ร่วมประชุมและแถลง โดยกล่าวอ้างว่าตนตระหนักถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2550 ทรงรับสั่งว่าบ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่น่าไว้วางใจ ทั้งหมด จึงได้ร่วมกันประกาศต่อสาธารณชนคนไทยทั้งประเทศถึงเงื่อนไขในการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล 5 ข้อ ประกอบด้วย

ข้อ 1 “จะต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะล่วงละเมิดมิได้ และจะต้องทำความกระจ่างให้ชัดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่สูงสุด”

ข้อ 2 “ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีถือเป็นรัฐบุรุษที่สูงสุดในบรรดาผู้คนทั้งหลายและเป็นที่เคารพของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งตรงนี้เราต้องรักษาไว้ และเราจะต้องไม่ก้าวล่วง”

ข้อ 3“จะต้องไม่มีการล้างแค้นซึ่งกันและกันในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นควรจะลืมเพราะหากมีการล้างแค้นเกิดขึ้นแล้วก็จะเกิดการล้างแค้นไม่สิ้นสุดและไม่สามารถหาข้อยุติได้”

ข้อ 4 “ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องเดินทางเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยต้องไม่มีการแทรกแซงและก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม”

และข้อ 5 “ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ(คตส.) จะต้องไม่ยุบ ไม่ยกเลิก และต้องไม่ไปแตะต้อง”

เงื่อนไขทั้ง 5 ข้อ ผมเคยตั้งข้อสังเกตเอาไว้ตั้งแต่ขณะนั้นแล้วว่า

“...น่าสงสัยว่า แท้ที่จริงแล้ว เงื่อนไข 5 ข้อ จะเป็นเพียง “บันไดลง” หรือ เป็น “สะพาน” เพื่อให้พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน เดินข้ามหัวผู้ใหญ่ของบ้านเมืองและประชาชนผู้ต่อสู้กับระบอบทักษิณ เพื่อเข้าไปร่วมลงเรือผลประโยชน์ลำใหม่ ภายใต้การนำของ “นายกนอมินีของคนเดิม” เท่านั้นเอง ใช่หรือไม่ ...”

พูดง่ายๆ ว่า อ้างเพื่อให้ตนเองได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน

มาบัดนี้ เวลาผ่านมา 4 เดือนพอดี (27 เมษายน 2551) ปรากฏอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข 5 ข้อดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย

1.เกิดขบวนการละเมิด ท้าทาย และหมิ่นเหม่ต่อการยุยงให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น สื่อของรัฐ ช่อง 11 ถึงกับนำสารคดีเกี่ยวกับการล้มสถาบันกษัตริย์ในเนปาลมาออกอากาศในช่วงวันจักรี หรือการที่คนในขบวนการ นปก. จงใจไม่ยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อท้าทายอำนาจกฎหมายบ้านเมือง ตลอดจนการละเว้น ไม่ดำเนินการคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ทักษิณและคนของระบอบทักษิณถูกกล่าวหาดำเนินคดีเอาไว้

2.เกิดขบวนการดูหมิ่น เหยียดหยาม ใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี อย่างอุกอาจ ยกขบวนไปด่าอย่างสาดเสียเทเสียถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ โดยที่รัฐบาลได้แต่บอกให้พลเอกเปรมไปแจ้งตำรวจจัดการเอาเอง

3.มีการโยกย้ายข้าราชการที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในช่วงสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พลเอกเสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวช อดีตสมาชิก คมช.) นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นพ.ศิริวัฒน์ ทิพธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผู้การตำรวจที่จังหวัดเชียงรายและที่บุรีรัมย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่กวาดล้วงอิทธิพลอำนาจนอกกฎหมายในพื้นที่อย่างเอาจริงเอาจัง ฯลฯ ทั้งหมดนั้น ต้องสงสัยว่า เป็นการใช้อำนาจโยกย้ายเพื่อแก้แค้นหรือเชือดไก่ให้ลิงดู มากกว่าจะเป็นการโยกย้ายอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

4.ขณะนี้ เกิดการพยายามแทรกแซงและก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างชนิดที่เรียกว่า ไม่เคยมีอย่างนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย

ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการดำเนินคดี (เปลี่ยนตัวอธิบดีดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ การพยายามเปลี่ยนวิธีสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้คนที่ตนเองสั่งได้ การพยายามยุติการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. และกกต.ชุดปัจจบัน) และการพยายามลบล้างแก้ไขบทบัญญัติกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตนเองและพรรคพวกรอดพ้นความผิด

เรียกว่า แก้ทั้งตัวกฎหมาย และเปลี่ยนตัวคนที่จะมาใช้กฎหมาย เพื่อประโยชน์ของตนเอง

5.ปัจจุบัน มีการพยายามลบล้างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การทำคดีต่างๆ ของ คตส. ไม่มีความหมาย ในขณะเดียวกัน ข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ถูกส่งสัญญาณ ทำให้ไม่ช่วยเหลือร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ของ คตส. ไม่ว่าจะเป็น การติดตามเอกสารหลักฐานในคดีเกี่ยวกับวินมาร์คและแอมเพิลริช หรือแม้แต่การให้ข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานต่างๆ

ทั้งหมด นอกจากจะเป็นการกระทำเหยียบย่ำเงื่อนไข 5 ข้อของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน เสมือนหนึ่ง “เอาฝ่าเท้าลูบหน้า” แล้ว ยังส่อว่าจะเป็นการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหลายมาตรา หลายกรรม หลายวาระ

การลบล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่เขียนและประกาศบังคับใช้ในพระราชกิจจานุเบกษา เพื่อประโยชน์ส่วนตัวและนำความขัดแย้งแตกแยกมาสู่ส่วนรวม เป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ ทำลายระบบนิติรัฐของประเทศ

แต่หากพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ยอมให้พรรคร่วมรัฐบาลลบล้างเงื่อนไข 5 ข้อ ที่ตนเองเคยประกาศต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยไม่สนใจใยดี ไม่รักษาสัจจะ หมอบราบคาบแก้ว เสมือนหนึ่งยอมตนเป็น “นางทาส” ของพรรคพลังประชาชน เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เสมือนคนสิ้นไร้ศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิ


จะนับว่าเสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูล และอับอายไปถึงลูกหลานยิ่งนัก

อย่าพายเรือให้โจรนั่งอีกเลย

อย่ายอมให้เกียรติภูมิที่สั่งสมมาตลอดชีวิตต้องมัวหมองไปกับการรับใช้กิเลสของคนๆ เดียว ที่ต้องการเงินทองและอำนาจของตนกลับคืนมา

พรรคชาติไทย อย่าหวังเพียงติดสอยห้อยตามด้วยผลประโยชน์ส่วนตัว หวังหลบหนีคดียุบพรรค โดยไม่นำพาต่อความเสียหายของประเทศชาติส่วนรวม และยังส่งผลกระเทือนรุนแรงถึงอนาคต

โปรดอย่าเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า

โปรดอย่าลบล้างรัฐธรรมนูญด้วยเลือดและน้ำตาของคนไทยทั้งประเทศเลย

กำลังโหลดความคิดเห็น