00 ในที่สุดความจริงที่อยู่เบื้องหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ “พลังแม้ว” ก็ได้ปรากฏ และเผยโฉมออกมาให้เห็นเรื่อยๆโดยตัวของมันเอง แม้ว่าจะไม่ได้เหนือความคาดเดาเอาไว้ก็ตาม เพราะเดาทางออกมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
00 ล่าสุดสัญญาณที่ส่งมาจากปาก “ลุงหมัก” ที่แย้มออกมาระหว่างเยือนมาเลเซียหมาดๆในทำนองว่ารัฐบาลชุดนี้อาจไม่ได้ใช้รัฐธรรมนูญหากมีการแก้ไขใหม่สำเร็จ โดยจะมีการเลือกตั้งใหม่และมีรัฐบาลใหม่
00 ฟังดูเผินๆแล้วมันดูดี โคตรเสียสละเลยละ เพราะเหมือนกับว่าทำเพื่ออนาคต แต่ในความเป็นจริงมันก็แหงอยู่แล้ว ชาวบ้านทั่วเมืองรู้กันไปทั่วแล้วว่า นายกฯคนนี้เป็น “หุ่นเชิด” ส้มหล่นถูกเข็ญมารับภารกิจพิเศษขัดตาทัพชั่วคราว มีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนสมน้ำสมเนื้อกันอยู่แล้ว
00 หนึ่งหมักเป็นนายกฯตอนแก่สมความปราถนา ตามที่ใฝ่ฝันมาชั่วชีวิต ส่วนจะเป็นได้กี่วันกี่เดือนก็ถือเป็นกำไรชีวิต สองเมื่อได้เป็นแล้วก็ต้องทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ “นายใหญ่” ห้ามออกนอกลู่นอกทางมากจนเกินขอบเขตเป็นอันขาด แม้ว่าที่ผ่านมาจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามอาจจะมีอารมณ์เคลิบเคลิ้มเตลิดไปบ้าง แต่เมื่อถึงจุดสำคัญก็ต้องยอมตามใจไม่กล้าขัดขืน โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตอนแรกบอกว่าจะแก้ไขในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนครบวาระก็ตาม
00 อย่างไรก็ดีเมื่อจับอาการแล้ว “ขาใหญ่” เจ้าของพรรคไม่ปลื้มก็ต้องผ่อนแรงยอมตามไม่กล้าหือ ต้องมาแก้ตัวใหม่กลับลำไฟเขียวหนุนส่งเต็มกำลัง และถ้าฟังน้ำเสียงล่าสุดที่บอกว่าจะรัฐบาลใหม่จะเป็นผู้ใช้รัฐธรรมนูญ หมายความเมื่อแก้ไขเสร็จก็จะยุบสภาเลือกตั้งใหม่
00 แต่การมีรัฐธรรมนูญใหม่ ที่กำลังผลักดันแก้ไขกันหน้าดำคร่ำเคร่งในเวลานี้ นอกจากหนีคดียุบพรรคและหนีคุกของคนบางคนแล้ว ที่สำคัญคาดว่ายังเปิดช่องให้ “เฮียแม้ว” กับพวกได้หวนคืนอำนาจอีกรอบ
00 ดังนั้นถ้าสมมุติฐานเรื่องหนีคดีมาเป็นข้อสงสัยแล้ว เชื่อว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญคราวนี้จะใช้เวลาไม่นานนักบวกลบคูณหารแล้วไม่น่าจะเกิน 3-5 เดือน เพราะต้องแข่งกับเวลา เนื่องจากคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงทางการเมือง เริ่มเดินหน้าแล้ว และที่สำคัญการพิจารณาในศาลฎีกาฯใช้เวลาไม่นานแค่ 4-5 เดือนก็รู้ดำรู้แดงแล้วว่าคุก-ไม่คุก
00 ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งถ้ารูปการณ์เป็นแบบนี้จริงก็หมายความว่าช่วงเวลาการเป็นนายกฯคนที่ 25 ของ ลุงหมักก็จะสั้นลงไม่น่าจะถึงปีเท่านั้น ต้องคืนเก้าอี้ให้คนอื่น ประเภท “ไอ้กระผมจะขออยู่ครบวาระ” เห็นจะไม่ได้แล้วละครับ เนื่องจากมีปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามา ต้องเร่งเข้าทำเพื่อประกันความชัวร์
00 ดังนั้นไม่อยากจะพูดให้สะเทือนใจว่าการที่เดินสายพบผู้นำในอาเซียนแถมตั้งเป้าเดินทางไปให้ครบมิตรประเทศทั่วโลก ก็พอดีหมดเวลานั่นแหละ เรื่องมันก็น่าจะเป็นแบบนี้ละโยม !!
00 ล่าสุดสัญญาณที่ส่งมาจากปาก “ลุงหมัก” ที่แย้มออกมาระหว่างเยือนมาเลเซียหมาดๆในทำนองว่ารัฐบาลชุดนี้อาจไม่ได้ใช้รัฐธรรมนูญหากมีการแก้ไขใหม่สำเร็จ โดยจะมีการเลือกตั้งใหม่และมีรัฐบาลใหม่
00 ฟังดูเผินๆแล้วมันดูดี โคตรเสียสละเลยละ เพราะเหมือนกับว่าทำเพื่ออนาคต แต่ในความเป็นจริงมันก็แหงอยู่แล้ว ชาวบ้านทั่วเมืองรู้กันไปทั่วแล้วว่า นายกฯคนนี้เป็น “หุ่นเชิด” ส้มหล่นถูกเข็ญมารับภารกิจพิเศษขัดตาทัพชั่วคราว มีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนสมน้ำสมเนื้อกันอยู่แล้ว
00 หนึ่งหมักเป็นนายกฯตอนแก่สมความปราถนา ตามที่ใฝ่ฝันมาชั่วชีวิต ส่วนจะเป็นได้กี่วันกี่เดือนก็ถือเป็นกำไรชีวิต สองเมื่อได้เป็นแล้วก็ต้องทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ “นายใหญ่” ห้ามออกนอกลู่นอกทางมากจนเกินขอบเขตเป็นอันขาด แม้ว่าที่ผ่านมาจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามอาจจะมีอารมณ์เคลิบเคลิ้มเตลิดไปบ้าง แต่เมื่อถึงจุดสำคัญก็ต้องยอมตามใจไม่กล้าขัดขืน โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตอนแรกบอกว่าจะแก้ไขในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนครบวาระก็ตาม
00 อย่างไรก็ดีเมื่อจับอาการแล้ว “ขาใหญ่” เจ้าของพรรคไม่ปลื้มก็ต้องผ่อนแรงยอมตามไม่กล้าหือ ต้องมาแก้ตัวใหม่กลับลำไฟเขียวหนุนส่งเต็มกำลัง และถ้าฟังน้ำเสียงล่าสุดที่บอกว่าจะรัฐบาลใหม่จะเป็นผู้ใช้รัฐธรรมนูญ หมายความเมื่อแก้ไขเสร็จก็จะยุบสภาเลือกตั้งใหม่
00 แต่การมีรัฐธรรมนูญใหม่ ที่กำลังผลักดันแก้ไขกันหน้าดำคร่ำเคร่งในเวลานี้ นอกจากหนีคดียุบพรรคและหนีคุกของคนบางคนแล้ว ที่สำคัญคาดว่ายังเปิดช่องให้ “เฮียแม้ว” กับพวกได้หวนคืนอำนาจอีกรอบ
00 ดังนั้นถ้าสมมุติฐานเรื่องหนีคดีมาเป็นข้อสงสัยแล้ว เชื่อว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญคราวนี้จะใช้เวลาไม่นานนักบวกลบคูณหารแล้วไม่น่าจะเกิน 3-5 เดือน เพราะต้องแข่งกับเวลา เนื่องจากคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงทางการเมือง เริ่มเดินหน้าแล้ว และที่สำคัญการพิจารณาในศาลฎีกาฯใช้เวลาไม่นานแค่ 4-5 เดือนก็รู้ดำรู้แดงแล้วว่าคุก-ไม่คุก
00 ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งถ้ารูปการณ์เป็นแบบนี้จริงก็หมายความว่าช่วงเวลาการเป็นนายกฯคนที่ 25 ของ ลุงหมักก็จะสั้นลงไม่น่าจะถึงปีเท่านั้น ต้องคืนเก้าอี้ให้คนอื่น ประเภท “ไอ้กระผมจะขออยู่ครบวาระ” เห็นจะไม่ได้แล้วละครับ เนื่องจากมีปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามา ต้องเร่งเข้าทำเพื่อประกันความชัวร์
00 ดังนั้นไม่อยากจะพูดให้สะเทือนใจว่าการที่เดินสายพบผู้นำในอาเซียนแถมตั้งเป้าเดินทางไปให้ครบมิตรประเทศทั่วโลก ก็พอดีหมดเวลานั่นแหละ เรื่องมันก็น่าจะเป็นแบบนี้ละโยม !!