xs
xsm
sm
md
lg

จีนรับคอทองแดงโอลิมปิค กว้านซื้อวัตถุดิบเบียร์ทำขาดตลาด-ราคาพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สิงห์ฯ ชี้ผู้ประกอบการเบียร์จ่อคิวปรับราคาขึ้นอีกระลอก หลังจากไตรมาสแรกลีโอ-สิงห์ขึ้นมาแล้ว 12 บาท ลั่นเป็นราคาที่แบกรับได้ 6-9 เดือน ยันหากต้นทุนผลิต-ค่าขนส่งเพิ่มปรับแน่ ล่าสุดจีนรับโอลิมปิกซื้อฮอบส์ มอลต์ วัตถุดิบทั่วโลกขาดตลาด โอดเศรษฐกิจ ต้นทุนพุ่ง พ่นพิษตลาดเบียร์ 1.1 แสนล้านบาท โต 4-6% เร่งขยายลีโอลุยประเทศเพื่อนบ้าน สิ้นปีแชร์รวมเพิ่มจาก 46% เป็น 50%

นายปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการกลุ่มการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ ลีโอ อีสานเบียร์ เปิดเผยว่า ปีนี้มีโอกาสที่ผู้ประกอบการเบียร์จะปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 3 รวมทั้งบริษัทด้วยเช่นกัน หลังจากต้นปี ในช่วงเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทได้ปรับราคาเบียร์เพิ่มขึ้น 12 บาท อาทิ เบียร์ลีโอเพิ่มจากลังละ 395 บาท เพิ่มเป็น 407 บาท โดยเฉลี่ยลีโอจะจำหน่ายอยู่ที่ 40 บาท ทั้งนี้เป็นเพราะราคาน้ำมันและต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดวัตถุดิบผลิตเบียร์ ได้แก่ มอลต์และฮอบส์มีราคาเพิ่มขึ้น เพราะประเทศจีนกว้านซื้อเพื่อไปผลิตเบียร์รับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังจะจัดขึ้น

“ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น 12 บาท สามารถรองรับได้ถึง 6-9 เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งหากต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้น บริษัทก็คงต้องพิจารณาปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถระบุว่าจะเป็นช่วงเวลาใด”

สำหรับการปรับราคาเบียร์ขึ้นเป็นไปตามกลไกตลาด คือ ทุกรายต้องปรับราคาขึ้นทั้งหมด โดยผู้ซื้อไม่ค่อยได้รับผลกระทบ แต่ยี่ปั๊ว-ซาปั๊วจะได้รับผลกระทบจากการขายต่อลังเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของตลาดเบียร์ ซึ่งปีนี้คาดว่าโต 4-6% หรือมีมูลค่าเพิ่ม 1.2 แสนล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตมากกว่า 6% หรือมูลค่าตลาดราว 1.1 แสนล้านบาท โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดเบียร์ปีนี้โตน้อยมาจากภาวะเศรษฐกิจ และการมีพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายปิติ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับงบการตลาดเบียร์โดยรวมปีนี้ 650 ล้านบาท แบ่งเป็น เบียร์สิงห์ 350 ล้านบาท เบียร์ลีโอ 150 ล้านบาท และอีสานเบียร์ 40-50 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างรอการตัดสินใจจากการเป็นสปอร์นเซอร์เสื้อทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีแบรนด์ที่ประมูลราคาเพื่อเป็นสปอร์นเซอร์ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีน เป็นต้น ล่าสุดได้ทุ่มงบ 75 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ”เซ็กซี่ ลีโอ เกิร์ล ซีซัน 3” ภายใต้แนวคิดเซ็กซี่ 360องศา ความเซ็กซี่รอบตัว ความสามารถรอบด้าน โดยการจัดประกวดเพื่อค้นหาแอมบาสเดอร์คนใหม่ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างลีโอเบียร์กับผู้บริโภค

“แคมเปญเซ็กซี่ ลีโอ เกิร์ล ตอกย้ำจุดเด่นของลีโอเบียร์ โดยสะท้อนภาพลักษณ์ด้วยความเป็นเบียร์ถูกคอ ถูกใจ และความแตกต่างที่ชัดเจนของเบียร์ เซ็กซี่ เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทได้ประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามร้านอาหารและสถานบันเทิงต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง”

สำหรับในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาเบียร์ลีโอ มีอัตราการเติบโต 14% เนื่องจากหลังจากที่บริษัทประกาศขึ้นราคาทำให้ยี่ปั๊ว-ซาปั๊วสั่งสต็อกสินค้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เบียร์ลีโอมีส่วนแบ่ง 40.3% จากตลาดรวม หรือมียอดขาย 12 ล้านลิตร จากเมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมมีส่วนแบ่ง 39% มียอดขาย 2 ล้านลิตร และคาดว่าหลังจากปรับราคาระยะหนึ่งยอดขายจะกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งคาดว่าลีโอมีส่วนแบ่ง 35-36% ขณะที่เบียร์ช้างมีส่วนแบ่งลดลงจากเดิม 45-46%

นายปิติ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะเน้นขยายเบียร์ลีโอไปประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น โดยพบว่าไตรมาสแรกมีอีตราการเติบโต 105% โดยตลาดเขมรสร้างรายได้มากที่สุด และในอนาคจะขยายตลาดไปยังยุโรป สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่าเบียร์สิงห์และอีสานเบียร์จะไม่เติบโต ขณะที่เบียร์ลีโอจะเติบโตและผลักดันให้ส่วนแบ่งโดยรวมของบริษัทเพิ่มจาก 46% เป็น 50% โดยตั้งเป้าอีสานเบียร์มีส่วนแบ่ง 2-3%
กำลังโหลดความคิดเห็น