สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ปรับตัวชูกลยุทธ์ “ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง” อัดฉีด 70 ล้านบาท ผุดบริษัทใหม่ “สิงห์ เทรนด์” ลุยธุรกิจเสื้อผ้าเปิดชอปสิงห์ ไลฟ์ อาศัยแฟชั่นสร้างแบรนด์แทรกซึมผู้บริโภค ลั่นปีหน้าสร้างคอมมูนิตีออนไลน์ เชื่อมโยง 3 ไลฟ์สไตล์ กิน เที่ยว แฟชั่น ลั่น 2 ปี ผุดชอปโกอินเตอร์ หวังปั้นเป็นเวิลด์แบรนด์ ปีแรกธุรกิจคุ้มทุน ส่วนผลประกอบการสิ้นปีพลาดเป้าโต 4%
นายปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการกลุ่มการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดบริษัทชูกลยุทธ์ “ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง” เพื่อทำให้แบรนด์เข้าไปมีส่วนร่วมไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เนื่องจากพบว่าผู้บริโภคฉลาดมากขึ้น การโฆษณาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความจดจำ หรือตอกย้ำแบรนด์อยู่ในใจของผู้บริโภคได้อีกต่อไป ดังนั้น การสร้างแบรนด์ต้องมีการผสมผสานอย่างมีศิลปะ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงผ่านไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่างๆ
ล่าสุด จึงได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาท จัดตั้งบริษัท สิงห์ เทรนด์ จำกัด เมื่อ 5-6 เดือนที่ผ่านมา โดยมีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เป็นผู้ถือหุ้น 92% และที่เหลือ 8% ทายาทเจนเนอเรชันที่ 4 รวมทั้งหมด 8 คน เป็นผู้ถือหุ้น อาทิ ปิติ ภิรมย์ภักดี ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท และ สันต์ ภิรมย์ภักดี ฯลฯ ทั้งนี้ การเปิดบริษัทดังกล่าว เพื่อดำเนินธุรกิจสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้า ภายใต้แบรนด์ “สิงห์ ไลฟ์” โดยวางเป้าหมายเพื่อสื่อสารถึงผู้บริโภค สะท้อนทัศนคติแบรนด์สิงห์ที่เป็นลูกผู้ชายง่ายๆ สบายๆ ผ่านการนำเสนอให้เป็นไลฟ์สไตล์ ซึ่งบริษัทได้เตรียมการเปิดตัวธุรกิจดังกล่าวมา 4-5 ปี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สิงห์ได้ใช้กลยุทธ์ไลฟ์สไตล์แทรกซึมผู้บริโภค อาทิ การเปิดตัวสิงห์เฮาส์ หรือธุรกิจร้านอาหารเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา การทำแมกกาซีน ซึ่งเป็นหนังสือที่มีไลฟ์สไตล์เจาะทั้งกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นแจกกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ ขณะที่แฟชั่นก็เป็นไลฟ์สไตล์อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน สำหรับการเปิดตัวสิงห์ ไลฟ์ บริษัทไม่ต้องการเน้นด้านยอดขาย แต่ต้องการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และขณะเดียวกัน บริษัทต้องการสร้างแบรนด์ให้เติบโตในตลาดต่างประเทศด้วย โดยวางเป้าหมายให้สิงห์เป็นเวิลด์แบรนด์ ใน 2 ปี มีแผนเปิดชอปในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันเบียร์สิงห์ส่งออก 47 ประเทศทั่วโลก
สำหรับสิงห์ ไลฟ์ นำร่องเปิดชอป 1 แห่ง ที่ สยามเซ็นเตอร์ บนพื้นที่ 112 ตร.ม.ในวันที่ 15 กันยายน นี้ โดยช่วงแรกจะเน้นเสื้อผ้าผู้ชายเป็นหลัก 1 ปี มีด้วยกัน 2 คอลเลกชัน ราคาเริ่มตั้งแต่ 200-10,000 บาท จากนั้นมีคอลเลกชันสำหรับผู้หญิง ส่วนแผนการตลาดในปีแรกบริษัทมุ่งเน้นการสื่อสารและการสร้างแบรนด์เป็นหลัก โดยเตรียมเข้าไปมีส่วนร่วมในวงการแฟชั่น การจัดกิจกรรม การประกวด อย่างไรก็ตาม ปีนี้วางแผนเปิดคีย์ออส 1 แห่ง โดยจะเปิดคีย์ออสที่สิงห์เฮาส์ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ทั้งนี้ คาดว่า ปีแรกจะคุ้มทุนและหวังว่าธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยตัวเอง
นายปิติ กล่าวว่า ในอนาคตบริษัทยังต้องการสร้างคอมมูนิตีออนไลน์ หรือเครือข่ายชุมนุมสิงห์ โดยการทำให้แต่ละจุดเชื่อมโยงกัน ซึ่งในปีหน้านี้จะมีการทำสื่อสาร หรือการทำตลาดผ่านทางเว็บไซต์อย่างจริงจัง สำหรับผลประกอบการของบริษัทปีนี้ คาดว่า มีอัตราการเติบโต 4% เท่านั้น ซึ่งเป้าหมายของบริษัทตั้งเติบโต 5% ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีปัจจัยลบด้านราคาน้ำมัน กระทบต่อกำลังการซื้อของผู้บริโภค ส่วนด้านชุมนุมของพันธมิตรฯไม่ได้มีผลกระทบต่อยอดขายมากนัก
นายปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการกลุ่มการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดบริษัทชูกลยุทธ์ “ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง” เพื่อทำให้แบรนด์เข้าไปมีส่วนร่วมไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เนื่องจากพบว่าผู้บริโภคฉลาดมากขึ้น การโฆษณาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความจดจำ หรือตอกย้ำแบรนด์อยู่ในใจของผู้บริโภคได้อีกต่อไป ดังนั้น การสร้างแบรนด์ต้องมีการผสมผสานอย่างมีศิลปะ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงผ่านไลฟ์สไตล์ในรูปแบบต่างๆ
ล่าสุด จึงได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาท จัดตั้งบริษัท สิงห์ เทรนด์ จำกัด เมื่อ 5-6 เดือนที่ผ่านมา โดยมีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เป็นผู้ถือหุ้น 92% และที่เหลือ 8% ทายาทเจนเนอเรชันที่ 4 รวมทั้งหมด 8 คน เป็นผู้ถือหุ้น อาทิ ปิติ ภิรมย์ภักดี ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท และ สันต์ ภิรมย์ภักดี ฯลฯ ทั้งนี้ การเปิดบริษัทดังกล่าว เพื่อดำเนินธุรกิจสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้า ภายใต้แบรนด์ “สิงห์ ไลฟ์” โดยวางเป้าหมายเพื่อสื่อสารถึงผู้บริโภค สะท้อนทัศนคติแบรนด์สิงห์ที่เป็นลูกผู้ชายง่ายๆ สบายๆ ผ่านการนำเสนอให้เป็นไลฟ์สไตล์ ซึ่งบริษัทได้เตรียมการเปิดตัวธุรกิจดังกล่าวมา 4-5 ปี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สิงห์ได้ใช้กลยุทธ์ไลฟ์สไตล์แทรกซึมผู้บริโภค อาทิ การเปิดตัวสิงห์เฮาส์ หรือธุรกิจร้านอาหารเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา การทำแมกกาซีน ซึ่งเป็นหนังสือที่มีไลฟ์สไตล์เจาะทั้งกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นแจกกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ ขณะที่แฟชั่นก็เป็นไลฟ์สไตล์อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน สำหรับการเปิดตัวสิงห์ ไลฟ์ บริษัทไม่ต้องการเน้นด้านยอดขาย แต่ต้องการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และขณะเดียวกัน บริษัทต้องการสร้างแบรนด์ให้เติบโตในตลาดต่างประเทศด้วย โดยวางเป้าหมายให้สิงห์เป็นเวิลด์แบรนด์ ใน 2 ปี มีแผนเปิดชอปในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันเบียร์สิงห์ส่งออก 47 ประเทศทั่วโลก
สำหรับสิงห์ ไลฟ์ นำร่องเปิดชอป 1 แห่ง ที่ สยามเซ็นเตอร์ บนพื้นที่ 112 ตร.ม.ในวันที่ 15 กันยายน นี้ โดยช่วงแรกจะเน้นเสื้อผ้าผู้ชายเป็นหลัก 1 ปี มีด้วยกัน 2 คอลเลกชัน ราคาเริ่มตั้งแต่ 200-10,000 บาท จากนั้นมีคอลเลกชันสำหรับผู้หญิง ส่วนแผนการตลาดในปีแรกบริษัทมุ่งเน้นการสื่อสารและการสร้างแบรนด์เป็นหลัก โดยเตรียมเข้าไปมีส่วนร่วมในวงการแฟชั่น การจัดกิจกรรม การประกวด อย่างไรก็ตาม ปีนี้วางแผนเปิดคีย์ออส 1 แห่ง โดยจะเปิดคีย์ออสที่สิงห์เฮาส์ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ทั้งนี้ คาดว่า ปีแรกจะคุ้มทุนและหวังว่าธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยตัวเอง
นายปิติ กล่าวว่า ในอนาคตบริษัทยังต้องการสร้างคอมมูนิตีออนไลน์ หรือเครือข่ายชุมนุมสิงห์ โดยการทำให้แต่ละจุดเชื่อมโยงกัน ซึ่งในปีหน้านี้จะมีการทำสื่อสาร หรือการทำตลาดผ่านทางเว็บไซต์อย่างจริงจัง สำหรับผลประกอบการของบริษัทปีนี้ คาดว่า มีอัตราการเติบโต 4% เท่านั้น ซึ่งเป้าหมายของบริษัทตั้งเติบโต 5% ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีปัจจัยลบด้านราคาน้ำมัน กระทบต่อกำลังการซื้อของผู้บริโภค ส่วนด้านชุมนุมของพันธมิตรฯไม่ได้มีผลกระทบต่อยอดขายมากนัก