ผู้จัดการรายวัน - แนวโน้มตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ารับอานิสงส์ฟุตบอลยูโรในไตรมาสสองนี้ คาดทั้งปีหมวดจอภาพโตมากกว่า 1 เท่าตัว โดยเฉพาะแอลซีดี ทีวี ส่วน3เดือนแรกที่ผ่านมา หลายแบรนด์ตอบเป็นเสียงเดียวกัน ยังโตขึ้นอย่างน้อย 5% ย้ำผู้บริโภคยังรอดูสถานการณ์ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ การทำตลาดต้องกระตุ้นให้เกิดการซื้อมากยิ่งขึ้น
นายอาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสแรกเติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ส่วนในช่วงไตรมาส 2 นี้ มองว่าน่าจะดีขึ้น เนื่องจากในเดือนมิถุนายนจะมีการแข่งขันฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ โดยเฉพาะในหมวดภาพและเสียงหรือเอวี น่าจะมีการเติบโตจากไตรมาส 1 มากกว่า 10% ส่วนหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหรือเอชเอ คาดว่าน่าจะดีขึ้นเช่นกัน จากการการทำตลาดของเครื่องปรับอากาศและเครื่องซักผ้า ขณะที่หมวดไอที มองว่าน่าจะนิ่งๆ เพราะผู้บริโภคน่าจะรอดูสถานการณ์ รวมถึงรอดูว่าจะมีการจัดงานส่งเสริมการขาย ซึ่งจะมีการลดราคาลงค่อนข้างมาก
สำหรับผลประกอบของซัมซุง ในช่วง 3 เดือนแรก หมวดเอวีเติบโตกว่า 40% และเอชเอ 25% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม บวกกับการมีโปรโมชันส่งเสริมการขายควบคู่ไปด้วย
**โซนี่ พร้อมลุย ช่วงฟุตบอลยูโร**
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล กรรมการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า ช่วงไตรมาส 2 เชื่อว่าตลาดจอภาพจะเติบโตขึ้น เนื่องจากลูกค้าจะมีความต้องการโทรทัศน์จอขนาดใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะจอภาพที่มีเทคโนโลยีระดับฟูลเอชดี เชื่อว่าน่าจะจำหน่ายได้มาก เพราะเป็นสินค้าสำหรับลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ที่พร้อมจะยอมจ่ายเงิน เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตามเมื่อมองในภาพรวมทั้งปีแล้ว เชื่อว่าหมวดจอภาพน่าจะมีการเติบโตอย่างน้อยมากกว่า 1 เท่าตัว เทื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งทางโซนี่เอง จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ทั้งในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเปิดตัวสินค้าใหม่หลายรุ่น ทั้ง บราเวีย โน๊ตบุ๊คไวโอ้ กล้องDHLR และไซเอบร์ชอต ส่งผลให้ 3 เดือนแรกของปี บริษัทฯยังมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 5%
**โตชิบาวืดเป้าQ1 รุกสินค้าไฮเอนด์แก้เกม**
นายฮิเดโนริ มัตสุอิ ประธาน บริษัท โตชิบา ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกตกลงเล็กน้อย เติบโต 3-4% จากที่ตั้งไว้ 5% ซึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีการชะลอดูสถานการณ์ รวมทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือราคาข้าวก็ตาม ถึงแม้ว่าบริษัทฯ จะมีเครื่องซักผ้าเป็นตัวทำตลาด แต่ขณะเดียวกันกลุ่มไอทีกับเอวี กลับได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีการแข่งขันเรื่องของการลดราคาลงค่อนข้างมาก
ดังนั้นทางโตชิบาจึงมองว่าหลังจากนี้จะให้ความสำคัญกับสินค้าระดับพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มสินค้าระดับพรีเมียมยังไปได้ดีอยู่ จากที่ผ่านมา สัดส่วนการจำหน่ายสินค้าพรีเมียมทำได้ถึง 20% จากการจำหน่ายสินค้าทั้งหมดในแง่จำนวน ปีนี้จะพยายามเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวนี้ให้มากขึ้น โดยทั้งปียังเชื่อว่า บริษัทฯ น่าจะมีการเติบโตอย่างน้อย 5% จาก 1,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตเท่าปีที่ผ่านมา
**เพาเวอร์บาย เตรียมจัดกิจกรรมรับยูโร**
ด้านนายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด กล่าวว่า ช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่จะถึงนี้ ทางเพาเวอร์บายจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วย ซึ่งจะเป็นการจำหน่ายเฉพาะหมวดจอภาพเท่านั้น โดยถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จัดขึ้นหลังจาก งาน POWER BUY EXPO 2008 ณ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-5พ.ค. 2551 นี้ ภายใต้งบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท คาดว่าน่าจะมีรายได้ถึง 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 360 ล้านบาท
ทั้งนี้ไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่า ในแง่รายได้มีการเติบโตไม่ถึง 5% ซึ่งเกิดจากการแข่งขันการลดราคาเป็นหลัก แต่ในแง่จำนวนโตขึ้นถึง 30% อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าเติบโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 12,000 ล้านบาท จากเดิมที่ทำได้ 10,500 ล้านบาทในปีก่อน
นายอาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสแรกเติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ส่วนในช่วงไตรมาส 2 นี้ มองว่าน่าจะดีขึ้น เนื่องจากในเดือนมิถุนายนจะมีการแข่งขันฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ โดยเฉพาะในหมวดภาพและเสียงหรือเอวี น่าจะมีการเติบโตจากไตรมาส 1 มากกว่า 10% ส่วนหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหรือเอชเอ คาดว่าน่าจะดีขึ้นเช่นกัน จากการการทำตลาดของเครื่องปรับอากาศและเครื่องซักผ้า ขณะที่หมวดไอที มองว่าน่าจะนิ่งๆ เพราะผู้บริโภคน่าจะรอดูสถานการณ์ รวมถึงรอดูว่าจะมีการจัดงานส่งเสริมการขาย ซึ่งจะมีการลดราคาลงค่อนข้างมาก
สำหรับผลประกอบของซัมซุง ในช่วง 3 เดือนแรก หมวดเอวีเติบโตกว่า 40% และเอชเอ 25% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม บวกกับการมีโปรโมชันส่งเสริมการขายควบคู่ไปด้วย
**โซนี่ พร้อมลุย ช่วงฟุตบอลยูโร**
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล กรรมการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า ช่วงไตรมาส 2 เชื่อว่าตลาดจอภาพจะเติบโตขึ้น เนื่องจากลูกค้าจะมีความต้องการโทรทัศน์จอขนาดใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะจอภาพที่มีเทคโนโลยีระดับฟูลเอชดี เชื่อว่าน่าจะจำหน่ายได้มาก เพราะเป็นสินค้าสำหรับลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ที่พร้อมจะยอมจ่ายเงิน เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตามเมื่อมองในภาพรวมทั้งปีแล้ว เชื่อว่าหมวดจอภาพน่าจะมีการเติบโตอย่างน้อยมากกว่า 1 เท่าตัว เทื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งทางโซนี่เอง จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ทั้งในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเปิดตัวสินค้าใหม่หลายรุ่น ทั้ง บราเวีย โน๊ตบุ๊คไวโอ้ กล้องDHLR และไซเอบร์ชอต ส่งผลให้ 3 เดือนแรกของปี บริษัทฯยังมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 5%
**โตชิบาวืดเป้าQ1 รุกสินค้าไฮเอนด์แก้เกม**
นายฮิเดโนริ มัตสุอิ ประธาน บริษัท โตชิบา ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกตกลงเล็กน้อย เติบโต 3-4% จากที่ตั้งไว้ 5% ซึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีการชะลอดูสถานการณ์ รวมทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือราคาข้าวก็ตาม ถึงแม้ว่าบริษัทฯ จะมีเครื่องซักผ้าเป็นตัวทำตลาด แต่ขณะเดียวกันกลุ่มไอทีกับเอวี กลับได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีการแข่งขันเรื่องของการลดราคาลงค่อนข้างมาก
ดังนั้นทางโตชิบาจึงมองว่าหลังจากนี้จะให้ความสำคัญกับสินค้าระดับพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มสินค้าระดับพรีเมียมยังไปได้ดีอยู่ จากที่ผ่านมา สัดส่วนการจำหน่ายสินค้าพรีเมียมทำได้ถึง 20% จากการจำหน่ายสินค้าทั้งหมดในแง่จำนวน ปีนี้จะพยายามเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวนี้ให้มากขึ้น โดยทั้งปียังเชื่อว่า บริษัทฯ น่าจะมีการเติบโตอย่างน้อย 5% จาก 1,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตเท่าปีที่ผ่านมา
**เพาเวอร์บาย เตรียมจัดกิจกรรมรับยูโร**
ด้านนายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด กล่าวว่า ช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่จะถึงนี้ ทางเพาเวอร์บายจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วย ซึ่งจะเป็นการจำหน่ายเฉพาะหมวดจอภาพเท่านั้น โดยถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จัดขึ้นหลังจาก งาน POWER BUY EXPO 2008 ณ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-5พ.ค. 2551 นี้ ภายใต้งบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท คาดว่าน่าจะมีรายได้ถึง 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 360 ล้านบาท
ทั้งนี้ไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่า ในแง่รายได้มีการเติบโตไม่ถึง 5% ซึ่งเกิดจากการแข่งขันการลดราคาเป็นหลัก แต่ในแง่จำนวนโตขึ้นถึง 30% อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าเติบโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 12,000 ล้านบาท จากเดิมที่ทำได้ 10,500 ล้านบาทในปีก่อน